เจดีย์ชเวมอดอ

เจดีย์ชเวมอดอ
ရွှေမောဓော ဘုရား
ศาสนา
ศาสนาพุทธ
นิกายเถรวาท
เทศกาลเทศกาลเฉลิมฉลองเจดีย์ชเวมอดอ
สถานะเปิด
ที่ตั้ง
ที่ตั้งพะโค ภาคพะโค พม่า
เจดีย์ชเวมอดอตั้งอยู่ในประเทศพม่า
เจดีย์ชเวมอดอ
ที่ตั้งในประเทศพม่า
พิกัดภูมิศาสตร์17°20′13″N 96°29′49″E / 17.3368744°N 96.496954°E / 17.3368744; 96.496954
สถาปัตยกรรม
เสร็จสมบูรณ์
  • ป. 500 ก่อน ค.ศ. (ตำนาน)
  • ค.ศ. 982/83 (ตำนาน)
  • ค.ศ. 1390
  • ค.ศ. 1796
  • ค.ศ. 1954
ลักษณะจำเพาะ
ความสูงสูงสุด
  • 22 เมตร (72 ฟุต)
    (ค.ศ. 982/83)
  • 90 เมตร (295 ฟุต)
    (ค.ศ. 1796)
  • 114 เมตร (374 ฟุต)
    (ค.ศ. 1954)
ความสูงยอดแหลม
  • 98.8 เมตร (324 ฟุต)
    (ค.ศ. 1796)
  • 125 เมตร (410 ฟุต)
    (ค.ศ. 1954)

เจดีย์ชเวมอดอ (พม่า: ရွှေမောဓော ဘုရား, ออกเสียง: [ʃwèmɔ̀dɔ́ pʰəjá]; มอญ: ကျာ်မုဟ်တ, ออกเสียง: [tɕaɪʔmṵtú]) เป็นเจดีย์สำคัญในเมืองพะโค (หงสาวดี) ประเทศพม่า มีความสูง 114 เมตร (374 ฟุต) ถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่า แต่เจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งมักได้รับการบันทึกว่าเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศ 98 เมตร (322 ฟุต) เพราะประดิษฐานบนเนินเขา เชื่อกันว่าเจดีย์ชเวมอดอเป็นมหาเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุและพระเขี้ยวแก้วของพระโคตมพุทธเจ้า เจดีย์ชเวมอดอ เจดีย์ชเวดากอง และพระธาตุไจที่โย่เป็นเจดีย์ที่มีชื่อเสียงที่ชาวมอญสร้างขึ้น เทศกาลประจำปีเฉลิมฉลองเจดีย์ชเวมอดอจัดในช่วงเดือนดะกู้ ตามปฏิทินพม่า[1]

ประวัติ

เจดีย์ชเวมอดอมีชื่อเรียกในภาษามอญซึ่งคนไทยคุ้นเคยกับชื่อนี้คือ พระธาตุมุเตา แปลว่า "จมูกร้อน" เพราะกล่าวกันว่าเจดีย์องค์นี้สูงมาก ต้องแหงนหน้ามองจนต้องกับแสงแดด ปัจจุบันเจดีย์ชเวมอดอมีความสูงที่ 114 เมตร เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศพม่า

มีการสันนิษฐานว่าเจดีย์ชเวมอดอสร้างขึ้นราวประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 10 ตั้งแต่สมัยอาณาจักรมอญเรืองอำนาจ เดิมเจดีย์ชเวมอดอมีความสูง 21 เมตร (69 ฟุต) สร้างโดยชาวมอญ ตามตำนานเล่าว่าพ่อค้าชาวมอญสองคนชื่อ มหาศาลและจุลศาล ได้เดินทางไปอินเดียสมัยพุทธกาลและได้รับพระเกศาธาตุจากพุทธองค์ นำกลับมาประดิษฐาน ณ เจดีย์ชเวมอดอ[2][3] ภายหลังได้มีการบรรจุพระเขี้ยวแก้วไว้ในเจดีย์เมื่อปี ค.ศ. 982[3]

เมื่อพะโคกลายมาเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรหงสาวดี พระมหากษัตริย์องค์ต่อ ๆ มาได้เพิ่มสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ให้กับเจดีย์และบริเวณโดยรอบ ในสมัยของพระเจ้าราชาธิราชทรงสร้างเจดีย์ขนาดเล็ก 160 องค์รอบเจดีย์เมื่อ ค.ศ. 1390[4] ในสมัยของพระเจ้าธรรมเจดีย์ได้โปรดให้มีการสร้างพระวิหาร และหล่อระฆังถวายในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 สมัยของพระเจ้าบุเรงนอง ค.ศ. 1556 ได้มีการสร้าง ที่ (ฉัตร) พร้อมอัญมณีจากมงกุฎของพระองค์ถวาย และสร้างเจดีย์ 52 องค์ซึ่งเป็นช่วงพระชนมายุของพระองค์ขณะนั้น[3] ค.ศ. 1796 พระเจ้าปดุงทรงบูรณะเจดีย์ให้สูง 90 เมตร (295 ฟุต) และถวายฉัตรใหม่ ทำให้มีความสูงโดยรวม 98.8 เมตร (324 ฟุต)[5][6]

กล่าวกันว่าก่อนที่พระเจ้าบุเรงนองจะออกทำศึกคราใด จะทรงมานมัสการเจดีย์นี้ก่อนทุกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันจุดที่เชื่อว่าพระองค์ทำการสักการะก็ยังปรากฏอยู่ และสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเมื่อครั้งยกทัพมาตีพะโคก็ได้เสด็จมานมัสการเช่นกัน

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเจดีย์ได้รับความเสียหายเนื่องจากแผ่นดินไหวหลายครั้ง รวมทั้งในปี ค.ศ. 1912, ค.ศ. 1917 และ ค.ศ. 1930 ยอดเจดีย์ก่อนปี ค.ศ. 1917 ที่พังลงมายังคงอยู่ในบริเวณจุดเดิม[1] งานบูรณะเริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1951 แล้วเสร็จใน ค.ศ. 1954[7] เจดีย์ใหม่มีความสูง 114 เมตร (374 ฟุต) ความสูงโดยรวมถึงยอดฉัตรคือ 125 เมตร (410 ฟุต)[6]

ในประเทศไทย มีเจดีย์จำลองของเจดีย์ชเวมอดออยู่ที่วัดชมภูเวก อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งอยู่ในชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญ[8] และที่วัดปรมัยยิกาวาสบนเกาะเกร็ด ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายมอญเช่นเดียวกัน[9]

คลังภาพ

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 Zaw Winn (28 April 2008). "Shwemawdaw Pagoda welcomes in the New Year". Myanmar Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-08. สืบค้นเมื่อ 5 March 2012.
  2. Zaw Winn 2008
  3. 3.0 3.1 3.2 De Thabrew 2014: 20
  4. Pan Hla 2005: 194
  5. White 1923: 183
  6. 6.0 6.1 Chihara 1996: 253
  7. Oriental Culture: Shwemawdaw Pagoda
  8. ร่วมรากเดียวกัน, รายการทางไทยพีบีเอส: ศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556
  9. หวน พินธุพันธ์. ประวัติศาสตร์เมืองนนทบุรี. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2547, หน้า 38

บรรณานุกรม

  • Chihara, Daigoro (1996). Jan Fontein (บ.ก.). "Hindu–Buddhist Architecture". Studies in Asian Art and Archaeology. Leiden: E.J. Brill. XIX. ISBN 90-04-10512-3.
  • De Thabrew, W. Vivian (2014). Buddhist Monuments and Temples of Myanmar and Thailand. ISBN 978-1-4918-9621-1.
  • Pan Hla, Nai (2005) [1968]. Razadarit Ayedawbon (ภาษาพม่า) (8th printing ed.). Yangon: Armanthit Sarpay.
  • Zaw Winn (28 April 2008). "Shwemawdaw Pagoda welcomes in the New Year". Myanmar Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 November 2011. สืบค้นเมื่อ 5 March 2012.
  • A.J. Page, บ.ก. (1917). "Pegu District". Burma Gazetteer. Rangoon: Government Printing Burma. A.
  • White, Herbert Thirkell (1923). Burma: Provincial Geographies of India. Cambridge University Press.
  • "Shwemawdaw Pagoda". Oriental Culture. สืบค้นเมื่อ 28 July 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!