เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ (อังกฤษ: Kirby's Dream Land[a]) เป็นวิดีโอเกมแอ็กชันแพลตฟอร์มแบบเลื่อนด้านข้างที่พัฒนาโดยฮาลแล็บบราโทรี (HAL Laboratory) และเผยแพร่สำหรับเกมบอยโดยนินเท็นโด ในปีค.ศ. 1992 เป็นวิดีโอเกมแรกของซีรีส์ เคอร์บี และตัวละคร แต่อย่างไรก็ตาม การคัดลอกคุณสมบัติของเคอร์บีไม่ได้ปรากฏตัวจนกระทั่งเผยแพร่ในเกม เคอร์บีส์แอดเวนเจอร์
การพัฒนา
เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ ถูกพัฒนาโดยมาซาฮิโระ ซากุไรจากฮาลแล็บบราโทรี ในตอนนั้น เขาตั้งชื่อมันว่าโปโปโปะ (ญี่ปุ่น: ポポポ; โรมาจิ: Popopo) และ เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ เคยมีชื่อเป็น ทวินเกิลโปโปะ (ญี่ปุ่น: ティンクル・ポポ; โรมาจิ: Tinkuru Popo; ทับศัพท์: ทิงกูรุ โปโปะ) อย่างไรก็ตาม มันถูกตั้งชื่อใหม่เป็นเคอร์บี และตัวเกมถูกเปลี่ยนเป็น โฮชิ โนะ คาบี; เคอร์บีออฟเดอะสตาร์ส (Kirby of the Stars) ซึ่งกลายเป็นชื่ออนิเมะรุ่นญี่ปุ่น ในระหว่างการพัฒนา มาซาฮิโระ ซากุไรอยากให้เคอร์บีมีสีชมพู ในขณะที่ชิเงรุ มิยาโมโตะอยากให้มันมีสีเหลือง ท้ายที่สุด ทางนินเท็นโดตัดสินให้เคอร์บีมีสีชมพู ถึงแม้ว่าสีชมพูเป็นสีหลักของเคอร์บี ในเกมหลัง ๆ มีการใช้ผู้เล่นที่สองเป็นเคอร์บีสีเหลือง แต่ทางนินเท็นโดอเมริกาได้ออกแบบภาพกล่องและโฆษณาเป็นเคอร์บีสีขาวตามภาพจากตัวเกม[2]
เสียงดนตรีถูกแต่งโดย จุง อิชิกาวะ[3] โดยเป็นผู้แต่งเพลงในซีรีส์ เคอร์บี เพลงบางอันถูกนำมาใช้ใหม่ในซีรีส์ของ ซูเปอร์สแมชบราเธอส์ ในฐานะเพลงฉากหลังของด่านดรีมแลนด์ใน ซูเปอร์สแมชบราเธอร์ส[4] และด่านกรีนกรีนส์ใน ซูเปอร์สแมชบราเธอร์ส เมลี[5]
การตอบรับ
เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ ได้รับเสียงวิจารณ์ทั่วไปในแง่บวก โดยได้คะแนนบนเกมแรงกิงส์ไป 62.22% กับความคิดเห็น 9 อัน ทำให้ตัวเกมอยู่ในอันดับ 17 ในเกมสำหรับเกมบอยที่ดีที่สุด[7] ในวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1994 เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ ถูกขายไป 1.3 ล้านอัน[8] จนถึงตอนนี้ มีการขายไปถึง 5 ล้านอันทั่วโลก; Gamasutra ยกความสำเร็จของเกมมาจากวิธีเล่นแบบใหม่ ในตอนนั้น มันเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จที่สุดของฮาลแล็บบราโทรี[9] Ben Reeves จาก Game Informer ยกให้เป็นเกมสำหรับเกมบอยที่ดีที่สุดในอันดับที่ 14 และรู้สึกว่าเป็นเกมที่ผ่อนคลายดี[10] Jonathan Wahlgren จาก Humongous Life กล่าวว่าเป็นเกมที่แข็งแกร่ง แต่รู้สึกว่าดู "พื้นฐานเกิน"[11] Brett Elston จากGamesRadar เขียนบทความเกี่ยวกับดนตรี และยกย่องเพลงบอสสุดท้าย โดยกล่าวว่า "เป็นเพงเดียวในเคอร์บีที่ทำให้รู้สึกท้าทายหรือขัดแย้ง แทนที่จะเดินผ่านทุ่งของเค้กลอย"[12] Nadia Oxford จาก 1UP.com ยกย่องระบบกลศาสตร์แพลต์ฟอร์มเฉพาะ โดยกล่าวถึงมันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ "ตำนานจอมตะกละ"[13]
สิ่งสืบทอด
เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ มีภาคต่อในคอนโซลอื่นเป็นจำนวนมาก โดยภาคต่อแรกคือ เคอร์บีส์แอดเวนเจอร์ ที่เผยแพร่บนแฟมิคอม ได้แนะนำการขโมยพลังจากศัตรู ซึ่งกลายเป็นแก่นหลักในภาคต่อ ๆ มา[14] ตัวซีรีส์ได้มีเกมภาคแยกที่มีประเภทเกมต่างกัน เช่น เคอร์บีแอร์ไรต์ เป็นเกมแข่งรถ, เคอร์บีส์พินบอลแลนด์ เป็นเกมพินบอล และเคอร์บีส์ดรีมคอร์ส เป็นเกมผสมระหว่างแอ็กชันกับกอล์ฟ[15][16] เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ ได้ภาคต่อบนเกมบอยใน ค.ศ. 1994 ที่มีชื่อว่า เคอร์บีส์ดรีมแลนด์ 2 ซึ่งไม่มีคุณสมบัติการคัดลอกจาก เคอร์บีส์แอดเวนเจอร์[17][18]
เคอร์บีกับคิงเดเดเดปรากฏเป็นตัวละครเล่นได้ในซีรีส์เกมต่อสู้ ซูเปอร์สแมชบราเธอร์ส ส่วนด่าน "กรีนกรีนส์" ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม ซูเปอร์สแมชบราเธอร์ส เมลี มีฐานจากด่านแรกของเกม[19]
หมายเหตุ
- ↑ รู้จักกันในประเทศญี่ปุ่นว่าโฮชิ โนะ คาบี (ญี่ปุ่น: 星のカービィ; โรมาจิ: Hoshi no Kābī)
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
|
ซีรีส์หลัก | |
---|
เกมเลื่อนข้าง | |
---|
ภาคแยก | |
---|
รีเมคและชุดสะสม | |
---|
ตัวละคร | |
---|
สื่อ | |
---|
เกี่ยวข้อง | |
---|