อาณาจักรแพ็กเจ

แพ็กเจ

백제 (百濟)
18 ปีก่อนค.ศ.–ค.ศ. 660
อาณาจักรแพ็กเจในช่วงที่รุ่งเรือง ค.ศ. 375
อาณาจักรแพ็กเจในช่วงที่รุ่งเรือง ค.ศ. 375
เมืองหลวงวีรเยซ็อง
(18 ปีก่อนค.ศ. – ค.ศ. 475)

อุงจิน
(ค.ศ. 476–538)

ซาบี
(ค.ศ. 538–660)
ภาษาทั่วไปภาษาเกาหลีโบราณ
ศาสนา
พระพุทธศาสนา, ลัทธิขงจื๊อ, ลัทธิเต๋า, เชมัน
การปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์
พระมหากษัตริย์ 
• 18 ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ. 28
อนจอ
• ค.ศ. 346-375
กึนโชโก
• ค.ศ. 523-554
ซอง
• ค.ศ. 641-660
อึยจา
ยุคประวัติศาสตร์โบราณ
• สถาปนาอาณาจักรแพ็กเจ
18 ปีก่อนค.ศ.
• การรบของพระเจ้ากึนโชโก
ค.ศ. 346-375
• การรับศาสนาพุทธ
ค.ศ. 385
• เสียเมืองซาบี
18 กรกฎาคม ค.ศ. 660
ประชากร
• 
3,800,000[ต้องการอ้างอิง] (ค.ศ. 660)
ก่อนหน้า
ถัดไป
อาณาจักรโคกูรยอ
อาณาจักรพูยอ
สมาพันธรัฐมาฮัน
อาณาจักรรวมซิลลา

อาณาจักรแพ็กเจ (เกาหลี:백제, ฮันจา: 百濟; 18 ปีก่อนค.ศ. - ค.ศ. 660) สถาปนาขึ้นโดยพระเจ้าอนจอพระราชโอรสองค์เล็กในจักรพรรดิดงเมียงยองในพุทธศตวรรษที่ 13 เมื่อจักรวรรดิโคกูรยอพยายามจะกลืนอำนาจของอาณาจักรพูยอ พระเจ้าอนจอได้นำกำลังคนกลุ่มหนึ่งแยกตัวออกมาจากจักรวรรดิโคกูรยอลงมาทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลอำนาจของอาณาจักรมาฮัน โดยข้ามแม่น้ำฮันมา เลือกชัยภูมิอยู่ใกล้ ๆ กับที่เป็นโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ในปัจจุบัน เพื่อตั้งเมืองใหม่ชื่อ วิเรซอง แล้วสถาปนาเป็นอาณาจักรซิปเจหลังสิ้นรัชกาลของพระองค์มีกษัตริย์ปกครองต่อมาอีกหลายพระองค์ จนถึงกษัตริย์รัชกาลที่ 31 ซึ่งเป็นรัชกาลสุดท้ายคือพระเจ้าอึยจา ก็พ่ายแพ้แก่กองทัพพันธมิตรซึ่งประกอบด้วยกองทัพชิลลาและกองทัพถังของจีนในปี ค.ศ. 660 (พ.ศ. 1203) ทำให้อาณาจักรแพ็กเจที่ปกครองมานานถึง 678 ปีก็ถึงกาลอวสาน

ประวัติศาสตร์

สถาปนาอาณาจักร

ในบันทึกประวัติศาสตร์ ซัมกุก ยูซา กล่าวว่า พระเจ้าอนจอนั้นก็คือโอรสพระองค์หนึ่งของจักรพรรดิดงเมียงยอง ที่ขัดแย้งกับพี้น้องสายอื่น แล้วแยกตัวออกมาก่อตั้งอาณาจักรใหม่ชื่อว่า ซิปเจ ต่อมาแคว้นบีริวถูกจักรวรรดิโคกูรยอโจมตี กษัตริย์ของแคว้นบีริวปลิดชีพตนเอง ผู้คนของบีริวก็อพยพเข้ามารวมกันในอาณาจักรซิปเจ จึงทำให้อาณาจักรแห่งนี้ใหญ่ขึ้น ซึ่งต่อมาพระเจ้าอนจอก็เปลี่ยนชื่ออาณาจักรใหม่เป็น แพ็กเจ การเติบโตอย่างรวดเร็วของอาณาจักรแพ็กเจ ทำให้กษัตริย์ของอาณาจักรมาฮันคิดระแวง จึงพยายามกดดันพระเจ้าอนจอจนต้องย้ายเมืองหลวงอยู่หลายครั้ง

การขยายอาณาเขต

ในรัชกาล พระเจ้าโกอี กษัตริย์องค์ที่ 8 ของอาณาจักรแพ็กเจทรงทำให้อาณาจักรขยายตัวอย่างมากและในปี ค.ศ. 249 (พ.ศ. 792) ทรงแผ่ขยายการเป็นสัมพันธมิตรกับ อาณาจักรกายา (ค.ศ. 42-642) อาณาจักรเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของแพ็กเจและในรัชกาล พระเจ้ากึนโชโก กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งอาณาจักรแพ็กเจได้ทรงขยายชายแดนออกไปถึงทางเหนือจนติดกับชายแดนของ จักรวรรดิโคกูรยอ

รวมอาณาจักร

กระทั่ง พ.ศ. 675 ในสมัยพระเจ้าแกรูเมืองหลวงก็ถูกย้ายไปอยู่ที่บริเวณภูเขาพุกฮัน ซึ่งปัจจุบันคือเมืองกวางจู ตลอดช่วงพุทธศตวรรษที่ 6 แลที่ 7 แพ็กเจพยายามขยายอำนาจครอบคลุมเมืองอื่นๆโดยตลอด จนกระทั่งในพุทธศตวรรษที่ 8 ก็สามารถกลืนเขตอิทธิพลทั้งหมดของอาณาจักรมาฮันได้อย่างเบ็ดเสร็จ แล้วตั้งตนเป็นอาณาจักรแพ็กเจที่ยึดครองอำนาจสืบต่อแทนอาณาจักรมาฮัน

ภาษาและวัฒนธรรม

รูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่วัดโฮรีวจิ (Hōryū-ji) เมืองนาระ ศิลปะแพ็กเจ

พุทธศาสนา

ค.ศ. 384 ในรัชสมัยพระเจ้าชิมนยู พระภิกษุมาลานันทา (Mālānanda) จากประเทศอินเดียเดินทางมายังอาณาจักรแพ็กเจเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนามาถึงอาณาจักรแพ็กเจเป็นครั้งแรก ต่อมาในค.ศ. 526 ในสมัยพระเจ้าซ็องพระภิกษุชาวแพ็กเจชื่อว่าคย็อม-อิก (겸익, 謙益) เดินทางไปยังประเทศอินเดียเพื่อศึกษาพระธรรม พระภิกษุคย็อม-อิก เดินทางกลับจากอินเดียพร้อมกับพระภิกษุเวทัตตา (Vedatta) มายังแพ็กเจ ก่อตั้งพุทธศาสนานิกาย กเย-ยูล (계율, 戒律) หรือนิกายวินัยศึกษา เน้นการศึกษาพระธรรมวินัยเป็นหลัก ในสมัยพระเจ้าซ็องพุทธศาสนาในแพ็กเจเจริญรุ่งเรือง และยังเผยแพร่พุทธศาสนาต่อไปยังญี่ปุ่นอีกด้วย

ภาษาแพ็กเจ

อเล็กซานเดอร์ โววิน (Alexander Vovin) นักภาษาศาสตร์เสนอทฤษฎีว่า ในยุคซัมฮันนั้นประชากรในคาบสมุทรเกาหลีเดิมพูดภาษาในกลุ่มโปรโต-ญี่ปุ่น (Proto-Japonic)[1] หรือภาษาญี่ปุ่นคาบสมุทร (Peninsular Japonic)[1] โดยอาศัยหลักฐานจากชื่อสถานที่ต่างๆที่ปรากฏในซัมกุกซากีและบันทึกของจีน ต่อมาเมื่ออาณาจักรพูยอและอาณาจักรโคกูรยอซึ่งพูดภาษากลุ่มเกาหลี (Koreanic) เรืองอำนาจขึ้นในทางตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี ทำให้ภาษากลุ่มเกาหลีจากทางเหนือเข้าแทนที่[1]ภาษากลุ่มญี่ปุ่นทางภาคใต้ของคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของอาณาจักรแพ็กเจในยุคต้น ซึ่งผู้ก่อตั้งอาณาจักรแพ็กเจนั้นมาจากอาณาจักรโคกูรยอทางเหนือเข้าปกครองประชากรท้องถิ่นในรัฐมาฮัน และการขยายอิทธิพลของกลุ่มชนที่พูดภาษากลุ่มเกาหลีจากทางเหนือยังทำให้ประชากรดังเดิมของคาบสมุทรเกาหลีที่พูดภาษากลุ่มญี่ปุ่นอพยพข้ามทะเลไปสู่หมู่เกาะญี่ปุ่น[1]และหมู่เกาะรีวกีว กลายเป็นชาวยาโยอิในที่สุด อย่างไรก็ตามทฤษฎีนี้ไม่ได้รับการยอมรับจากนักวิชาการเกาหลีใต้

ไม่มีวรรณกรรมในภาษาแพ็กเจตกทอดหลงเหลือมาถึงยุคปัจจุบัน บันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์เหลียงกล่าวว่า ภาษาของอาณาจักรแพ็กเจนั้นคล้ายคลึงกับภาษาของอาณาจักรโคกูรยอ[2] บันทึกของราชวงศ์โจวเหนือกล่าวว่า ในภาษาของแพ็กเจนั้น ชนชั้นขุนนางเรียกกษัตริย์ของตนเองว่า[3] 於羅瑕 (จีนยุคกลาง: ʔɨʌ lɑ ɦˠa) ในขณะที่ราษฎรแพ็กเจทั่วไปเรียกกษัตริย์ของตนว่า 鞬吉支 (จีนยุคกลาง: kɨɐn kiɪt̚ t͡ɕiᴇ) โคโนะ โรกูโร่ และคิม บัง-ฮัน นักภาษาศาสตร์ตั้งทฤษฎีว่าในอาณาจักรแพ็คเจนั้นประกอบไปด้วยสองภาษาซึ่งชนชั้นปกครองและชนชั้นสามัญชนพูดภาษาที่ต่างกัน[3] โดยที่ชนชั้นปกครองของแพ็คเจนั้นพูดภาษากลุ่มเกาหลี ในขณะที่ชนชั้นสามัญชนพูดภาษากลุ่มญี่ปุ่น นิฮนโชกิ บันทึกประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นบันทึกคำภาษาแพ็กเจไว้จำนวนสี่สิบสองคำ โดยเรียกกษัตริย์ของแพ็กเจว่า "โอริโกเกะ (Orikoke)" ผู้ปกครองแพ็กเจเรียกว่า "กิชิ (Ki1si)"

oinclude>

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 Vovin, Alexander. Origins of Japanese Language. Oxford Research Encycloedia in Linguistics. September 2017
  2. Lee, Ki-Moon; Ramsey, S. Robert. A History of the Korean Language. Cambridge University, 2011.
  3. 3.0 3.1 Kōno, Rokurō. The bilingualism of the Paekche language. Memoirs of the research department of the Toyo Bunko, 1987.

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!