วิดีโอเกมยิงเชิงยุทธวิธี ค.ศ. 1999
สวาต 3: โคลสควอเตอส์แบตเทิล (อังกฤษ : SWAT 3: Close Quarters Battle ) เป็นวิดีโอเกมยิงเชิงยุทธวิธี ที่พัฒนาโดยเซียร์รานอร์ทเวสต์ และเผยแพร่โดยบริษัทเซียร์ราเอนเตอร์เทนเมนต์ สำหรับพีซี ที่ใช้ไมโครซอฟท์ วินโดวส์ เกมนี้เป็นภาคที่เจ็ดของซีรีส์โพลิซเควสต์ และเป็นเกมแรกในซีรีส์ที่เล่นจากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง โดยไม่เหมือนกับวิดีโอเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง อื่น ๆ สวาต 3 ให้ความสำคัญกับวิธีการและยุทธวิธีของตำรวจที่สมจริง รวมถึงการกวาดล้างห้องที่เหมาะสม, การใช้อาวุธที่มีอันตรายน้อย , การปฏิบัติตามคำสั่งและการจับกุม ศัตรูแทนที่จะยิงทันทีที่เห็น ตลอดจนการแยกความแตกต่างระหว่างการใช้กำลังถึงตาย โดยได้รับอนุญาตและโดยไม่ได้รับอนุญาต
สวาต 3 มีฉากในลอสแอนเจลิส ค.ศ. 2005 โดยผู้เล่นจะสวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ สวาต ของกรมตำรวจลอสแอนเจลิส ซึ่งเป็นผู้นำหน่วยห้านายของเพื่อนร่วมทีมที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทางลอสแอนเจลิสมีกำหนดเป็นเจ้าภาพหลัก ในการลงนามในสนธิสัญญาการลดอาวุธนิวเคลียร์ ที่ดำเนินการโดยองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเข้าร่วมโดยมหาอำนาจจำนวนหนึ่ง หน่วยสวาตของกรมตำรวจลอสแอนเจลิสได้รับมอบหมายให้ปกป้องงานสนธิสัญญาและบุคคลสำคัญที่เข้าร่วมจากกลุ่มอาชญากรและผู้ก่อการร้ายที่มีอารมณ์ดุเดือดจำนวนมาก ที่พยายามจะล่วงละเมิดหรือขัดขวางการลงนามในสนธิสัญญาเพื่อประโยชน์ของตนเอง
สวาต 3 ได้รับการตอบรับด้วยเสียงวิจารณ์เชิงบวก โดยได้รับการยกย่องในด้านกราฟิกและความซับซ้อนของปัญญาประดิษฐ์ ส่วนสวาต 4 ซึ่งเป็นภาคต่อได้รับการเปิดตัวในดือนเมษายน ค.ศ. 2005 โดยได้รับการพัฒนาและเผยแพร่โดยบริษัทอิแรชันแนลเกมส์ และเซียร์ราที่เป็นเจ้าของโดยบริษัทวีว็องดียูนิเวอร์แซล
รูปแบบการเล่น
เจ้าหน้าที่หน่วยสวาตที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์พยายามเกลี้ยกล่อมผู้ต้องสงสัยที่ตกตะลึงให้ยอมจำนน
สวาต 3 เป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งแบบทีมที่ใช้ยุทธวิธี โดยเล่นร่วมกับคอมพิวเตอร์หรือเพื่อนร่วมทีมที่ควบคุมโดยมนุษย์ ซึ่งเป็นหน่วยสวาต ของตำรวจ ห้านาย เกมดังกล่าวแบ่งออกเป็นหลายภารกิจ โดยเป็นตัวแทนของการนำหน่วยสวาตเคลื่อนกำลังพลสู่สถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ สภาพแวดล้อมของภารกิจมักจะอยู่ภายในอาคาร ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีการรบระยะประชิด แบบห้องต่อห้อง ปฏิบัติการรวมถึงการชิงตัวประกัน , การเผชิญหน้าด้วยอาวุธ และการทำลายล้างวัตถุระเบิด ส่วนศัตรูที่เรียกว่า 'ผู้ต้องสงสัย' ได้แก่ บุคคล, กลุ่มเล็ก ๆ ที่ไม่เป็นระเบียบ และผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการฝึกและมีแรงจูงใจทางการเมือง
ไม่เหมือนกับเกมยิงในทางทหาร เช่น เกมเรนโบว์ซิกส์ ที่เปรียบเทียบกันได้ ผู้เล่นและเพื่อนร่วมทีมได้รับการคัดเลือกให้เป็นตำรวจมากกว่าทหาร วัตถุประสงค์หลักในการจัดการกับผู้ต้องสงสัยติดอาวุธ คือการจับกุม พวกเขาทั้งเป็นแทนที่จะยิงทันทีที่เห็น[ 1] ส่วนเหตุการณ์บางอย่างของการใช้กำลังถึงตาย โดยไม่ได้รับอนุญาต (การยิงตัวละครที่ไม่มีอาวุธ, ไร้ความสามารถ, ยอมแพ้ หรือไม่คุกคาม) จะส่งผลให้ภารกิจล้มเหลว
จอแสดงภาพการตระเตรียมก่อนภารกิจ ซึ่งการตระเตรียมอาวุธและกระสุนของเจ้าหน้าที่แต่ละนายในหน่วยนั้นสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน
เกมดั้งเดิมมีทั้งหมด 16 ภารกิจ ตั้งแต่การเคลื่อนกำลังพลพร้อมอาวุธอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงการคุ้มกันบุคคลสำคัญ แผนที่บางส่วนอิงตามสถานที่จริง เช่น ศาลาว่าการลอสแอนเจลิส และศูนย์การประชุม ส่วนเสริมดังกล่าวได้เพิ่มภารกิจใหม่ 11 ภารกิจ ทำให้เกมมีทั้งหมด 27 ภารกิจ ซึ่งภารกิจก่อ่นหน้านี้เป็นการเคลื่อนกำลังพลพร้อมอาวุธของหน่วยสวาตเป็นประจำมากกว่า ทำให้ช่วงเส้นโค้งแห่งการเรียนรู้ ไม่ลึกสำหรับผู้เล่นใหม่
อุปกรณ์ของทีมสวาตมุ่งเน้นไปที่อาวุธที่ไม่ทำให้ถึงตาย และยุทธวิธีการต่อสู้ระยะประชิด โดยมีการอัปเดตบางอย่างเพื่อให้เหมาะกับบรรยากาศแห่งอนาคต นอกเหนือจากอาวุธหน่วยสวาตของกรมตำรวจลอสแอนเจลิสอย่างสปริงฟีลด์เอ็ม 1911 ฉบับมาตรฐานแล้ว ผู้เล่นยังสามารถติดตั้งปืนกลมือเอชเค เอ็มเพ5 หรือเอ็มเพ5เอ็สเด, ปืนลูกซองเบเนลลี เอ็ม1 ซูเปอร์ 90 หรือคาร์บิน โคลต์ เอ็ม4เอ1 ให้แก่สมาชิกในทีมได้ โดยเอ็ม4เอ1 มีลำกล้องรองสำหรับยิงกระสุนถุงตะกั่ว ที่ไม่เป็นอันตราย นอกเหนือจากกระสุนหัวบอล แล้ว เอ็ม1 ซูเปอร์ 90 สามารถบรรจุลูกตะกั่วที่ยิงจากปืนสั้น หรือกระสุนลูกโดด เพื่อทำลายประตูที่ล็อกได้ และสามารถเลือกใส่เอ็มเพ5, เอ็มเพ5เอ็สเด และเอ็ม 1911 ด้วยกระสุนหัวบอล หรือกระสุนหัวรู แบบขยายก็ได้ โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งอาวุธทั้งหมดมีการแนบไฟฉาย เกมดังกล่าวอนุญาตให้ใช้กระสุนประเภทต่าง ๆ ในระดับการเจาะที่แตกต่างกันผ่านวัสดุต่าง ๆ ทำให้การยิง "การยิงโจมตีไปมั่ว ๆ " มีความเสี่ยง เนื่องจากมีโอกาสโจมตีตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุม ที่มองไม่เห็น
นอกจากอาวุธปืนแล้ว เจ้าหน้าที่หน่วยสวาตของผู้เล่นยังได้รับการติดตั้งระเบิดแฟลช และระเบิดแก๊สน้ำตา เพื่อทำให้ผู้ต้องสงสัยสับสนและอ่อนกำลัง, ระเบิดทำลายล็อกเพื่อเปิดประตูที่ล็อก, แท่งไฟ สำหรับให้สัญญาณและให้แสง, ชุดเครื่องมืออเนกประสงค์แบบพกพาเลเธอร์แมน และ 'ออปติ-วอนด์'; ซึ่งเป็นกล้องบนไม้ถือติดกล้องส่องทางไกล ใช้สำหรับมองมุมและทางเข้าประตูอย่างปลอดภัย - เทียบเท่าเทคโนโลยีขั้นสูงของกระจกในชีวิตจริงบนเครื่องมือแบบแท่งที่ใช้เพื่อจุดประสงค์เดียวกัน ทั้งนี้ เหล่าเจ้าหน้าที่สวมเกราะส่วนบุคคล และหมวกนิรภัยแบบปิดพร้อมอุปกรณ์ช่วยหายใจในตัว รวมถึงฮัด ที่ฉายอยู่ภายในหน้ากาก ซึ่งใช้เป็นคำอธิบายในเกมสำหรับการนำเสนอการนับจำนวนกระสุน, การกำหนดเป้าหมายเส้นเล็ง และข้อมูลอื่น ๆ
พลังชีวิต ของตัวละครผู้เล่นจะแสดงเป็นมาตราส่วนแนวตั้ง ซึ่งในเกม นี่แสดงถึงการอ่านเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ภายในเสื้อผ้าของเจ้าหน้าที่ที่วัดการสูญเสียเลือด, อุณหภูมิร่างกาย และสัญญาณชีพ อื่น ๆ พลังชีวิตไม่วกกลับมาใหม่และอาการบาดเจ็บไม่สามารถรักษาได้ระหว่างปฏิบัติภารกิจ เหล่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทนต่อการบาดเจ็บจำนวนมากได้โดยไม่ต้องทำให้ทุพพลภาพ สิ่งนี้สนับสนุนให้ผู้เล่นใช้ยุทธวิธีการรบระยะประชิดที่ช้าและมีแบบแผน โดยใช้ระเบิดแฟลชและแก๊สน้ำตา มากกว่าการโจมตีแบบเกมแนวรันแอนด์กัน
บรรดาภารกิจสามารถเข้าถึงได้ทั้งในโหมดลอบเร้น (stealth) หรือเคลื่อนที่ (dynamic) ซึ่งในโหมดลอบเร้น หน่วยสวาตเคลื่อนไหวช้าและรอบคอบ, พูดเบา ๆ และหลีกเลี่ยงเสียงดัง (เช่น ปลดล็อกประตูด้วยมัลติทูลอย่างเงียบ ๆ แทนที่จะทำลายด้วยเสียงดังด้วยระเบิดหรือกระสุนลูกโดด) รวมทั้งใช้ประโยชน์จากออปติ-วอนด์ สิ่งนี้ทำให้หน่วยสวาตมีส่วนจู่โจมแบบไม่ให้ตั้งตัวเมื่อเลือกที่จะจัดการกับผู้ต้องสงสัย ส่วนในโหมดเคลื่อนที่ ทีมดังกล่าวจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว, พูดเสียงดังและใช้อาวุธทำลายล้าง รวมถึงระเบิดแฟลชอย่างอิสระเพื่อเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ผู้เล่นสามารถสลับไปมาระหว่างโหมดลอบเร้นและโหมดเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ เกมนี้จะเปลี่ยนจากการลอบเร้นเป็นเคลื่อนที่โดยอัตโนมัติเมื่อทีมถูกบุกรุกด้วยเสียงดัง หรือพบกับผู้ต้องสงสัย
ระดับความยาก มีตั้งแต่ระดับง่าย, ปานกลาง และยาก ซึ่งส่งผลต่อความก้าวร้าวและโอกาสในการมอบตัวผู้ต้องสงสัย ผู้เล่นยังสามารถปรับเปลี่ยนเวลาการเกิดปฏิกิริยา ของทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องสงสัยแยกจากกันได้ตั้งแต่ 1 ถึง 20 มิลลิวินาที
สวาต 3 ยังมีโหมดหลายผู้เล่น รวมถึงโหมดเดธแมตช์ ดั้งเดิมและโหมดเดธแมตช์ของทีม เช่นเดียวกับการเล่นแบบร่วมมือกัน โดยใช้ภารกิจผู้เล่นเดี่ยว กระทั่งหลังจากการซื้อบริษัทเซียร์ราโดยบริษัทแอ็กติวิชัน เซิร์ฟเวอร์หลายผู้เล่นของสวาต 3 ก็หยุดทำงานอย่างถาวร แม้ว่าเซิร์ฟเวอร์ของบุคคลที่สามอย่างไม่เป็นทางการจะยังคงได้รับการสานต่อโดยบรรดาผู้เล่นอยู่ก็ตาม
นอกจากนี้ สวาต 3 มีเครื่องมือและการสนับสนุนสำหรับการปรับเปลี่ยนเกม ซึ่งชุมชนตัวปรับแต่งเกม ได้เติบโตขึ้นรอบตัวสวาต 3 ทำให้เกิดภารกิจใหม่, แผนที่, อาวุธ รวมถึงโมเดลตัวละครสำหรับใช้ทั้งในโหมดผู้เล่นเดี่ยวและโหมดหลายผู้เล่น[ 2]
โครงเรื่อง
ผู้ต้องสงสัยติดอาวุธพร้อมตัวประกัน ซึ่งปัญญาประดิษฐ์ของผู้ต้องสงสัยมักจะเอาผู้บริสุทธิ์ไว้ระหว่างพวกเขากับเจ้าหน้าที่หน่วยสวาต เพื่อเป็นโล่มนุษย์ [ 3]
ใน ค.ศ. 2005 สหประชาชาติ ได้เตรียมลงนามในสนธิสัญญาการเลิกใช้นิวเคลียร์ ณ ศูนย์การประชุมลอสแอนเจลิส งานนี้ดึงดูดผู้นำระดับโลก, ผู้แทน และนักท่องเที่ยวมาที่ลอสแอนเจลิส แต่ก็ยังรวมถึงอาชญากรและผู้ก่อการร้ายที่ใช้ความรุนแรงซึ่งพยายามใช้การลงนามและการหลั่งไหลของบุคคลสำคัญเป็นเวทีสำหรับข้อเรียกร้องของพวกเขา ซึ่งหน้าที่ในการปกป้องเมืองและผู้แทนคือกรมตำรวจลอสแองเจลิสและกองบังคับการนครบาล โดยอำนาจการยิงและความต้องการทางยุทธวิธีเป็นความรับผิดชอบของหมวดดี หน่วยสวาต
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2005 กรมตำรวจลอสแองเจลิสดำเนินการออกหมายค้น ต่อสมาชิกลัทธิโลกาวินาศ ของกลุ่มพลเมืองต้านกฎหมาย อย่างซอฟเวอเรนอเมริกา หลังจากนั้นไม่นาน ได้เกิดการโจมตีหลายครั้งทั่วเมือง สถานกงสุล ตุรกี ถูกวางระเบิด และเอกอัครราชทูต ถูกลักพาตัว โดยกลุ่มชาตินิยมเคิร์ด ซึ่งคือพรรคประชาชนเคิร์ด ส่วนคฤหาสน์ฮอลลีวูดฮิลส์ ของซีอีโอผู้ให้บริการเคเบิล โดนัลด์ โฟร์แมน ได้ถูกบุกโดยกลุ่มติดอาวุธที่จับตัวเขาและครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ รวมถึงอัครบิดร ออร์ทอดอกซ์ อะเลคเซย์ที่ 3 และผู้ติดตามของเขาถูกจับเป็นตัวประกันโดยผู้ก่อการร้ายในอาสนวิหาร ออร์ทอดอกซ์ที่แผ่บริเวณ ซึ่งได้มีการกรีธาพลหน่วยสวาตเพื่อจัดการกับแต่ละเหตุการณ์ และกรมตำรวจลอสแองเจลิสทราบว่าอัครบิดรอะเลคเซย์ที่ 3 กำลังวางแผนที่จะเข้าร่วมพิธีลงนาม
ทันใดนั้น เครื่องบินพาณิชย์ ของประธานาธิบดี แอลจีเรีย ถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดบนเครื่อง ความโกลาหลที่เกิดขึ้นจากการปิดของท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ได้สร้างเป้าหมายที่อ่อนแอจำนวนมากสำหรับขีปนาวุธเพิ่มเติม รวมถึงเครื่องบินของประธานาธิบดี รัสเซีย อีกอร์ สโตมัส กระทั่งหน่วยสวาตระบุตำแหน่งของมือสังหาร ซึ่งเป็นพรรคปลดปล่อยแห่งประชาชนลัทธิคอมมิวนิสต์ นีโอโซเวียต ในสถานที่ก่อสร้าง และเอาชนะพวกเขาได้ก่อนที่พวกเขาจะยิงขีปนาวุธอีก หลังจากนั้นไม่นาน พรรคปลดปล่อยแห่งประชาชนบุกห้องส่งโทรทัศน์ ในระหว่างรายการทอล์กโชว์ช่วงบ่าย โดยจับนายกเทศมนตรีลอสแอนเจลิส มาร์ลิน ฟิตซ์แพทริก, ประธานสมาคมพิทักษ์ความอดกลั้น เฮอร์แมน โมเยอร์, พิธีกร ดอนนา บริกส์ รวมถึงผู้ชมและเจ้าหน้าที่สถานีหลายคนเป็นตัวประกัน โดยเรียกร้องให้มีการออกอากาศระหว่างประเทศสำหรับข้อความการรวมชาติของสหภาพโซเวียตของพวกเขา ซึ่งกรมตำรวจลอสแอนเจลิสแสร้งทำเป็นออกอากาศ โดยเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้หน่วยสวาตเคลื่อนที่เข้าไป และปลดปล่อยตัวประกัน
ผู้ต้องสงสัยที่ทำการบุกรุกบ้านของโฟร์แมนกับความขัดแย้งในอาสนวิหารได้รับการระบุตัวแล้ว และหน่วยสวาตจับกุมพวกเขาที่ไนต์คลับ หลังจากสกัดกั้นการปล้นธนาคารโดยซอฟเวอเรนอเมริกาและช่วยเหลือนักสืบหมดหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากผู้ปล้น หน่วยสวาตถูกส่งไปช่วยเหลือสโตมัสจากพรรคปลดปล่อยแห่งประชาชน ซึ่งบุกเข้าไปในห้องชุดเพนต์เฮาส์ ของเขาที่โรงแรมคาร์ไลล์ และเรียกร้องให้บินไปมอสโก ด้วยความตั้งใจที่จะพาสโตมัสไปด้วย
กรมตำรวจลอสแอนเจลิสได้รับอนุญาตให้ใช้หน่วยสวาตเพื่อป้องกันบุคคลสำคัญ ที่ศูนย์ประชุม โดยช่วยชีวิตผู้ทรงเกียรติในการประชุมก่อนการลงนามจากผู้โจมตีติดอาวุธ ส่วนความพยายามที่จะขัดขวางการลงนามในสนธิสัญญาโดยกลุ่มก่อการร้ายอื่น ๆ จะเริ่มขึ้นในไม่ช้า อันได้แก่: พรรคปลดปล่อยแห่งประชาชนยึดหอการควบคุมจราจรทางอากาศ ของท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ซึ่งทำให้เกิดเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศ ตลอดจนติดตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธบนหอคอยเพื่อคุกคามแอร์ฟอร์ซวัน และประธานาธิบดีสหรัฐ ; ส่วนองค์การการค้าโลก ที่โรงแรมเวนทูราถูกโจมตีหลังจากกลุ่มติดอาวุธขู่ฆ่า; และสถานีไฟฟ้าย่อย ถูกระเบิด โดยตัดกระแสไฟฟ้าส่วนใหญ่ของเมือง ตลอดจนปล่อยให้ซอฟเวอเรนอเมริการวมถึงผู้นำของพวกเขาที่ชื่อโทบีอัส สตร็อม เข้ายึดลอสแอนเจลิสซิตีฮอล ส่วนเรื่องที่ซับซ้อนยิ่งกว่านั้น กรมตำรวจลอสแอนเจลิสรู้ว่าสตร็อมชนะการประมูลอาวุธนิวเคลียร์แบบกระเป๋าเดินทาง ในตลาดมืด และวางที่หนึ่งในชั้นบนของซิตีฮอล โดยตั้งใจที่จะทำลายทั้งเมืองให้สิ้นซาก หน่วยสวาตสามารถกำจัดผู้ก่อการร้าย รวมทั้งสตร็อมและซอฟเวอเรนอเมริกา คลอดจนปลดชนวนนิวเคลียร์ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งในไม่ช้า อำนาจก็ฟื้นคืนสู่ลอสแอนเจลิส
เนื่องจากการลงนามในสนธิสัญญาใกล้จะเกิดขึ้น กรมตำรวจลอสแอนเจลิสจึงเพิ่มความระมัดระวังสูง จากการสืบสวนรายงานของ "เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุง" พร้อมอุปกรณ์รื้อถอนที่เห็นเข้าไปในท่อระบายน้ำ ใต้ถนนที่มีกำหนดขบวนพาเหรด หน่วยสวาตรู้ว่าพวกนั้นเป็นผู้ก่อการร้ายที่ปลอมตัวมามุ่งเป้าไปที่ขบวนพาเหรด และกำจัดพวกนั้นในการปะทะข้างใต้เมืองดังกล่าว ในวันที่ลงนามในสนธิสัญญาคือวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2005 หน่วยสวาตได้กรีฑาพลไปปกป้องศูนย์การประชุม แต่พรรคปลดปล่อยแห่งประชาชนฉากการโจมตีครั้งสุดท้ายในพิธี โดยจับผู้ลงนามเป็นตัวประกันและซ่อนอาวุธนิวเคลียร์แบบกระเป๋าเดินทางใบที่สองไว้ในอาคารดังกล่าว หน่วยสวาตกำจัดพรรคปลดปล่อยแห่งประชาชน, ช่วยเหลือผู้ลงนาม และพยายามค้นหาอาวุธนิวเคลียร์แบบกระเป๋าเดินทาง โดยการสิ้นสุดของเกมขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นจัดการปลดชนวนอาวุธนิวเคลียร์แบบกระเป๋าเดินทางได้หรือไม่ หากล้มเหลว นิวเคลียร์จะระเบิด รวมถึงทำลายเกรเทอร์ลอสแอนเจลิส และสังหารทุกคนในนั้น แต่หากทำสำเร็จ พิธีลงนามจะดำเนินต่อไปตามแผนที่วางไว้ การลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดบรรลุผลสำเร็จ และวันที่ 6 สิงหาคม ถือเป็นวันสันติภาพโลก ในขณะที่หน่วยสวาตของกรมตำรวจลอสแอนเจลิสกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่
การพัฒนา
ผู้อำนวยการผลิตของเกมนี้คือร็อด เฟิง[ 4] [ 5] และผู้ออกแบบคือแทมมี ดาร์แกน โดยทั้งคู่เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่พัฒนาโพลิซเควสต์: สวาต [ 6] ซึ่งการพัฒนาเบื้องต้นของสวาต 3 เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1997 และใช้เวลากว่า 18 เดือนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ โดยมีนักพัฒนา 20 คนทำงานในเกมนี้[ 6]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น