สนธิสัญญาฮะซัน-มุอาวิยะฮ์
สนธิสัญญาสันติภาพระหว่างฮะซันกับมุอาวิยะฮ์
สนธิสัญญาฮะซัน-มุอาวิยะฮ์ เป็นสนธิสัญญาสันติภาพทางการเมืองที่ลงนามระหว่างเคาะลีฟะฮ์ ฮะซัน อิบน์ อะลี กับมุอาวิยะฮ์ที่ 1 เพื่อหยุดเหตุการณ์ฟิตนะฮ์ครั้งที่หนึ่ง (ค.ศ. 656–661) สนธิสัญญาระบุว่า ฮะซันยกตำแหน่งเคาะลีฟะฮ์ให้กับมุอาวิยะฮ์ด้วยเงื่อนไขบางประการ ซึ่งรวมเงื่อนไขอย่างการให้ความปลอดภัยแก่มุสลิมและห้ามฝ่ายมุอาวิยะฮ์แต่งตั้งผู้สืบทอดอำนาจ[ 1] ถึงกระนั้น มุอาวิยะฮ์ละเมิดเงื่อนไขสนธิสัญญา โดยเฉพาะการแต่งตั้งยะซีด เป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากพระองค์ ก่อให้เกิดราชวงศ์ในรัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์ [ 2]
เนื้อหา
ต่อไปนี้คือเนื้อหาจากสนธิสัญญาระหว่างฮะซันกับมุอาวิยะฮ์:
มุอาวิยะฮ์ควรดำเนินตามคัมภีร์ของอัลลอฮ์, ซุนนะฮ์ของท่านศาสดา[ 3] และพฤติกรรมของเคาะลีฟะฮ์ผู้ทรงธรรม[ 4] [ 5]
หลังจากมุอาวิยะฮ์แล้ว อำนาจควรเป็นของฮะซัน[ 6] [ 7] [ 8] [ 9] [ 10] และถ้ามีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น อำนาจนั้นจะตกเป็นของฮุซัยน์[ 11] มุอาวิยะฮ์ไม่มีสิทธิที่จะมอบอำนาจให้แก่ใครทั้งสิ้น[ 5] [ 12] [ 13]
มุอาวิยะฮ์ควรหยุดสาปแช่งอะลี ซึ่งรวมถึงการอ่านกุนูตตอนละหมาดเพื่อต่อต้านเขา[ 14] มุอาวิยะฮ์ไม่ควรกล่าวชื่ออะลีนอกจากว่าจะมีประสงค์ดี[ 15] [ 16]
มุอาวิยะฮ์ควรแยกสิ่งที่อยู่ในหอพระคลังแห่งกูฟะฮ์ นั่นคือห้าล้าน (ดิรฮัม) มุอาวิยะฮ์ควรส่งเงินให้ฮุซัยน์หนึ่งล้านดิรฮัมทุกปี...และควรแบ่งหนึ่งล้าน (ดิรฮัม) ให้กับลูกชายที่ถูกฆ่ากับอะมีรุลมุอ์มินีนในสงครามอูฐและยุทธการที่ศิฟฟีน และควรจ่ายมันด้วยภาษีใน Dar Abjard[ 17] [ 18] [ 19] [ 20]
ประชาชนควรได้รับความปลอดภัยทุกที่บนผืนดินของอัลลอฮ์ มุอาวิยะฮ์ควรให้ความปลอดภัยแก่ทุกชาติพันธุ์ กลุ่มสหายของอิหม่ามอะลีควรได้รับความปลอดภัย มุอาวิยะฮ์ไม่ควรสร้างความเสียหายทั้งในที่ลับหรือเปิดเผยต่อฮะซัน ฮุซัยน์ หรืออะฮ์ลุลบัยต์ของศาสดา[ 5] [ 15] [ 16] [ 19] [ 21] [ 22] [ 23]
ผลที่ตามมา
หลังฮะซันสละราชสมบัติ มุอาวิยะฮ์เดินทางเข้ากูฟะฮ์พร้อมกับกองทัพอย่างภาคภูมิใจ โดยกองทัพกล่าวต่อสาธารณชนว่าพระองค์ไม่ยอมรับสัญญาที่ทำกับฮะซัน[ 24] ฮะซันเกษียณที่มะดีนะฮ์ โดยเขาถูกห้ามไม่ให้มีส่วนร่วมทางการเมืองหรือต่อต้านมุอาวิยะฮ์[ 25] ฮะซันเสียชีวิตใน ค.ศ. 669 ด้วยอายุ 46 ปี[ 26] เชื่อกันว่ามุอาวิยะฮ์ยุยงให้วางยาพิษใส่ฮะซัน เพื่อให้ยะซีด พระราชโอรสของพระองค์ ได้สืบทอดอำนาจต่อ[ 27] ในรัชสมัยนั้น มุอาวิยะฮ์ข่มเหงพรรคพวกของอะลีคนสำคัญ เช่น ฮุจร์ อิบน์ อะดี เศาะฮาบะฮ์ของมุฮัมมัด ถูกประหารชีวิตใน ค.ศ. 670[ 28] Madelung รายงานว่า มุอาวิยะฮ์ได้จัดตั้งพิธีการสาปแช่งอะลีในละหมาดรวมเพื่อสร้างความชอบธรรมต่อการปกครองของพระองค์[ 29]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
↑ Donaldson (1933 , pp. 66–78). Jafri (1979 , pp. 91–120). Aal-Yasin harvtxt error: no target: CITEREFAal-Yasin (help )
↑ Madelung (1997 , pp. 323, 324)
↑ al-Hadid, Ibn Abu. Sharh Nahj al-Balagha, vol. 4 . p. 6.
↑ Ibn Aqil. al-Nasaih al-Kafiya . p. 156.
↑ 5.0 5.1 5.2 Al-Majlisi. Bihar al-Anwar, vol. 10 . p. 115.
↑ al-Suyūṭī, Jalāl al-Dīn al-Khuḍayrī (3 June 2014). History of the Caliphs:Tarikh Al-Khulafa . CreateSpace Independent Publishing Platform (June 3, 2014). p. 194. ISBN 978-1499770056 .
↑ Ibn Kathir. al-Bidaya wa alNahaya, vol. 8 . p. 41.
↑ al-Asqalani, Ahmad Shahab al-Din. al-Isaba fi Tamiiz al-Sahaba, vol. 2 . pp. 12, 13.
↑ al-Dinawari, Ibn Qutayba. al-Imama wa al-Siyasa . p. 150.
↑ Wajdi, Farid. Dairat al-Marif al-Islamiya, vol. 3 . p. 443.
↑ Ibn al-Muhanna. Umdat al-Talib . p. 52.
↑ Ibn Abu al-Hadid. Sharh Nahj al-Balagha, vol. 4 . p. 8.
↑ Ibn al-Sabbagh. al-Fusw al Muhimma .
↑ al-Amili, Muhsin al-Amin. A'yan al-Shia, vol. 4 . p. 43.
↑ 15.0 15.1 al-Isfahani, Abu al-Faraj. Maqatil al-Talibiyyin . p. 26.
↑ 16.0 16.1 al Hadid, Ibn Abu. Sharh Nahj al-Balagha, vol. 4 . p. 15.
↑ al-Dinawari, Ibn Qutayba. al-Imama wa al-Siyasa . p. 200.
↑ al-Tabarī (January 1988). The History of al-Tabari Vol. 6 . SUNY Press (August 1, 1987). p. 92. ISBN 978-0887067075 .
↑ 19.0 19.1 Ibn Babawayh. Ilal al-Sharaiya . p. 81.
↑ Ibn Kathir. al-Bidaya wa al-Nihaya, vol. 8 . p. 14.
↑ al-Tabarī (January 1988). The History of al-Tabari Vol. 6 . SUNY Press (August 1, 1987). p. 97. ISBN 978-0887067075 .
↑ Ibn al-Aft. al-Kamil fi al-Tarikh, vol. 3 . p. 166.
↑ Ibn Aqil. al-Nasaih al-Kafiya . p. 115.
↑ Madelung (1997 , pp. 323, 324, 350)
↑ Madelung (1997 , p. 327). Jafri (1979 , pp. 110, 112)
↑ Momen (1985 , p. 28)
↑ Madelung (1997 , p. 331). Momen (1985 , p. 28). Burke et al. (2016) . Jafri (1979 , p. 112)
↑ Madelung (1997 , pp. 334, 335, 337). Jafri (1979 , p. 117)
↑ Madelung (1997 , p. 334)
ข้อมูล
Madelung, Wilferd (1997). The Succession to Muhammad: A Study of the Early Caliphate . Cambridge University Press. ISBN 0-521-64696-0 .
Jafri, S.H.M (1979). Origins and early development of Shia Islam . London: Longman.
Momen, Moojan (1985). An introduction to Shi'i Islam . Yale University Press. ISBN 9780853982005 .
Hinds, M. (2021). "Muawiya I" . Encyclopaedia of Islam (Second ed.). Brill Reference Online.
Madelung, Wilferd (2003). "Hasan b. Ali b. Abi Taleb" . Encyclopaedia Iranica . Vol. XII/1. pp. 26–28.
Burke, Nicole; Golas, Mitchell; Raafat, Cyrus L.; Mousavi, Aliyar (2016). "A forensic hypothesis for the mystery of al-Hasan's death in the 7th century: Mercury(I) chloride intoxication" . Medicine, Science, and the Law . 56 (3): 167–171. doi :10.1177/0025802415601456 . ISSN 0025-8024 . PMC 4923806 . PMID 26377933 .
Donaldson, Dwight M. (1933). The Shi'ite Religion: A History of Islam in Persia and Irak . Burleigh Press. pp. 66–78.
Aal-Yasin, Radi; Translated by Jasim al-Rasheed. Sulh al-Hasan (The Peace Treaty of al-Hasan (a)) . Qum: Ansariyan Publications. สืบค้นเมื่อ 30 December 2013 .