เส้นแบ่งโลกที่ไม่ใช่คริสเตียนระหว่างกัสติยากับโปรตุเกส ได้แก่ เส้นเมริเดียนตามสนธิสัญญาตอร์เดซิยัส ค.ศ. 1494 (สีม่วง) และเส้นเมริเดียนฝั่งตรงข้ามตามสนธิสัญญาซาราโกซา ค.ศ. 1529 (สีเขียว)
สนธิสัญญาตอร์เดซิยัส (สเปน : Tratado de Tordesillas ; โปรตุเกส : Tratado de Tordesilhas ) ได้รับการลงนามที่ตอร์เดซิยัส เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1494 เพื่อแบ่งเขตอิทธิพลในดินแดนที่ค้นพบใหม่นอกยุโรประหว่างจักรวรรดิโปรตุเกส กับราชบัลลังก์กัสติยา (ต่อมาคือจักรวรรดิสเปน ) โดยใช้เส้นสมมุติ ที่อยู่ห่างจากหมู่เกาะกาบูเวร์ดี ไปทางทิศตะวันตกเป็นระยะ 370 ลีก [ note 1] เส้นสมมุติดังกล่าวพาดผ่านบริเวณกึ่งกลางระหว่างกาบูเวร์ดีซึ่งขณะนั้นตกเป็นของโปรตุเกสแล้ว กับกลุ่มเกาะที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ได้สำรวจพบในการเดินทางครั้งแรก (ปัจจุบันเรียกว่าคิวบา และฮิสปันโยลา ) และอ้างสิทธิ์ให้แก่กัสติยา
ดินแดนทางตะวันออกของเส้นแบ่งเขตจะเป็นของโปรตุเกส ส่วนดินแดนทางตะวันตกของเส้นแบ่งเขตจะเป็นของกัสติยา ฝ่ายกัสติยาให้สัตยาบันสนธิสัญญาฉบับนี้ที่อาเรบาโล ในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 1494 และฝ่ายโปรตุเกสให้สัตยาบันที่ซึตูบัล ในวันที่ 5 กันยายน ปีเดียวกัน[ 3] อีกด้านหนึ่งของโลกถูกแบ่งเขตในอีกไม่กี่ทศวรรษต่อมาตามสนธิสัญญาซาราโกซา ซึ่งได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 1529 โดยระบุเส้นสมมุติตรงข้ามเส้นแบ่งเขตตามสนธิสัญญาตอร์เดซิยัส ปัจจุบันคู่ฉบับของสนธิสัญญาทั้งสองได้รับการเก็บรักษาไว้ในหอจดหมายเหตุอินดีส ที่เซบิยา และในหอจดหมายเหตุแห่งชาติโตรึดูตงบู ที่ลิสบอน [ 4]
สเปนและโปรตุเกสปฏิบัติตามสนธิสัญญาตอร์เดซิยัสได้ค่อนข้างดีแม้ทั้งสองฝ่ายจะยังไม่มีความรู้ทางภูมิศาสตร์ของ "โลกใหม่ " เท่าไรนัก การกำหนดเส้นแบ่งเขตตามสนธิสัญญานี้ส่งผลให้เกิดอาณานิคมที่มีชื่อว่า "บราซิล " ขึ้นเนื่องจากปลายด้านตะวันออกของทวีปที่ค้นพบใหม่ตกอยู่ในเขตอิทธิพลโปรตุเกส[ 5] อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาตอร์เดซิยัสได้ละเลยชาติมหาอำนาจยุโรปอื่น ๆ ทั้งหมด ชาติเหล่านั้นจึงมักเพิกเฉยต่อสนธิสัญญานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาติที่กลายเป็นโปรเตสแตนต์หลังการปฏิรูปโปรเตสแตนต์
สนธิสัญญาตอร์เดซิยัสได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกความทรงจำแห่งโลก โดยองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เมื่อ ค.ศ. 2007
สนธิสัญญามาดริด
ในวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1750 พระเจ้าฌูเวาที่ 5 แห่งโปรตุเกส และพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 6 แห่งสเปน ทรงลงพระปรมาภิไธยในสนธิสัญญามาดริด หลังจากที่โปรตุเกสและสเปนพยายามกำหนดเขตแดนระหว่างบราซิลกับอเมริกาของสเปนขึ้นใหม่ โดยยอมรับว่าการแบ่งเขตตามสนธิสัญญาตอร์เดซิยัสใน ค.ศ. 1494 นั้นได้ถูกแทนที่ไปแล้วและถือเป็นโมฆะ ตามสนธิสัญญาฉบับนี้ สเปนจะได้รับการยอมรับอธิปไตยเหนือฟิลิปปินส์ ในขณะที่โปรตุเกสจะได้ดินแดนแถบลุ่มน้ำแอมะซอน โปรตุเกสจะต้องสละอาณานิคมซากราเม็งตู ทางฝั่งเหนือของริโอเดลาปลาตา (ปัจจุบันอยู่ในอุรุกวัย ) แต่ก็จะได้รับดินแดนนิคมเยซุอิตทั้งเจ็ด (ปัจจุบันอยู่ในบราซิล)[ 6]
เชิงอรรถ
↑ 370 ลีกเท่ากับ 2,193 กิโลเมตร, 1,362 ไมล์ หรือ 1,184 ไมล์ทะเล
อ้างอิง
↑ Parise, Agustín (23 มกราคม 2017). Ownership Paradigms in American Civil Law Jurisdictions: Manifestations of the Shifts in the Legislation of Louisiana, Chile, and Argentina (16th-20th Centuries) . BRILL. p. 68. ISBN 9789004338203 . สืบค้นเมื่อ 21 กันยายน 2018 .
↑ Emma Helen Blair, ed., The Philippine Islands, 1493–1803 (Cleveland, Ohio: 1903). Frances Gardiner Davenport , ed., European Treaties Bearing on the History of the United States and Its Dependencies to 1648 (Washington, DC: Carnegie Institute of Washington, 1917), 100.
↑ MEMORY OF THE WORLD REGISTER Treaty of Tordesillas Spain and Portugal. 2007, p.2
↑ Frances Gardiner Davenport, ed., European Treaties Bearing on the History of the United States and Its Dependencies to 1648 (Washington, DC: Carnegie Institute of Washington, 1917), p. 85, 171.
↑ MEMORY OF THE WORLD REGISTER Treaty of Tordesillas Spain and Portugal. 2007, p.1
↑ José Damião Rodrigues, Pedro Aires Oliveira (2014) História da Expansão e do Império Português ed. Esfera dos Livros, p.266-267