พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ[1]กรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 159/2557 อดีต[2]รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา[3] อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ[4]อดีตราชองครักษ์พิเศษ [5] และอดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ชีวิตและครอบครัว
พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ หรือ พลตำรวจเอก ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ เกิดเมื่อวันที่เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2497 ที่กรุงเทพมหานคร มีชื่อเล่นว่า "กุ้ย" (สื่อมวลชนเรียกว่า "บิ๊กกุ้ย") เป็นบุตรชายของ ร.ต.ต.แดง กับนางเอี่ยมจิตต์ ประสารราชกิจ สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมต้นและมัธยมปลายจากโรงเรียนวิมุตยารามพิทยากร, ปริญญาตรีรัฐประศาสนศาสตร์จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) รุ่นที่ 29, ปริญญาโทด้านการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมจากมหาวิทยาลัยแอละแบมา และปริญญาเอกด้านอาชญาวิทยาจากมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตต สหรัฐอเมริกา สมรสกับ รศ.ปิยานันต์ ประสารราชกิจ (บุตรสาวของ ศ.อนันต์ กรุแก้ว) มีบุตร 2 คน เป็นชาย 1 คน คือ นายปัณฑพล ประสารราชกิจ (นักร้องนำวงค็อกเทล) และหญิง 1 คน คือ นางสาวมณฑน์กร ประสารราชกิจ[6]
การรับราชการตำรวจ
พล.ต.อ. ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ รับราชการครั้งแรกในตำแหน่งผู้ช่วยนายเวรรองอธิบดีกรมตำรวจ ฝ่ายกิจการพิเศษ ติดยศว่าที่ร้อยตำรวจตรี (ร.ต.ต.) เป็นรองสารวัตรปราบปราม (รอง สวป.) สถานีตำรวจนครบาลพญาไท เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2528 จากนั้นก็ได้เลื่อนตำแหน่งและได้ใกล้ชิดกับการเมืองมากขึ้น ด้วยการเป็นนายเวรอธิบดีกรมตำรวจ (พล.ต.อ.เภา สารสิน) และผู้ช่วยนายเวรอธิบดีกรมตำรวจ จากนั้นได้เปลี่ยนเป็นทำหน้าที่ดูแลด้านปราบปรามยาเสพติด และกลับเข้ามาสู่การเมืองอีกครั้งด้วยการเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง สมัยรัฐบาลอานันท์ ปันยารชุน เมื่อปี พ.ศ. 2534 จากนั้นก็ได้กลับไปสู่หน้าที่ปราบปรามยาเสพติดและกิจการต่างประเทศอีกครั้ง จนกระทั่งได้ขึ้นเป็นถึงผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2546
หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้านกิจการพิเศษ
จากนั้นในต้นปี พ.ศ. 2552 ได้รับแต่งตั้งให้ทำหน้าที่โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แทนที่ พล.ต.ท. พงศพัศ พงษ์เจริญ ตามคำสั่งของ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยเหตุผลว่ามีความเป็นนักวิชาการมากกว่า[7]
ในต้นปี พ.ศ. 2552 ได้รับเลื่อนยศเป็นพลตำรวจเอก (พล.ต.อ.) และดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ในกลางปี พ.ศ. 2552 หลังจากที่ พล.ต.อ. พัชรวาท เกษียณอายุราชการไป ที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ไม่สามารถสรรหาผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ทำให้มีข่าวว่า พล.ต.อ. ดร.วัชรพล อาจจะได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้เป็นคนต่อไป แต่เจ้าตัวได้ปฏิเสธและให้เหตุผลว่าในบรรดาผู้ที่มีคุณสมบัตินั้นตนมีอาวุโสน้อยที่สุด[8]
หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ เป็นรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในวันที่ 29 กันยายน แล้ว พล.ต.อ. ดร.วัชรพล ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ด้วย โดยให้เหตุผลว่าเป็นมารยาทที่เป็นตำแหน่งที่แต่งตั้งโดย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนเก่า (พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ) ที่เมื่อ ผบ.ตร. คนเก่าเกษียณออกไปแล้วก็สมควรลาออกเพื่อให้ ผบ.ตร. ที่เข้ามาใหม่ได้พิจารณาแต่งตั้งใหม่[9]
ในกลางปี พ.ศ. 2553 ชื่อของ พล.ต.อ. ดร.วัชรพลก็กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อมีชื่อคาดหมายว่าอาจจะเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ หลังจาก พล.ต.อ. ปทีป รักษาราชการฯ ได้เกษียณอายุไป โดยตกเป็นชื่อคู่กับ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รอง ผบ.ตร. อีกคน แล้วในที่สุดตำแหน่งนี้ก็ตกเป็นของ พล.ต.อ. วิเชียรไป[10]
และในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 หลังการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิบัติหน้าที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว) ที่ถูกสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี [11]
งานการเมือง
พล.ต.อ.วัชรพล ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา[12] ต่อมาได้ขอลาออกจากตำแหน่งในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558[13] เพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็นกรรมการ ปปช.
การรับราชการประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
พลตำรวจเอกวัชรพล ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2558
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, วันที่สืบค้น 1 มกราคม 2559
- ↑ กรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
- ↑ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๐๕/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง[ลิงก์เสีย]
- ↑ อนุกรรมการในคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ
- ↑ อดีตราชองครักษ์พิเศษ
- ↑ พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ
- ↑ ปลด พงศพัศ พ้นโฆษกตำรวจ วัชรพล ประสารราชกิจ เสียบ
- ↑ "'วัชรพล'ปัดข่าวนั่งแท่นผบ.ตร.คนใหม่". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-26. สืบค้นเมื่อ 2009-09-27.
- ↑ วัชรพลลาออกเลขากตช.-โฆษกสตช.[ลิงก์เสีย]
- ↑ ผบ.ตร.พบอภิสิทธิ์โชว์วิสัยทัศน์.html[ลิงก์เสีย]จากคมชัดลึก
- ↑ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๕๗ เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่และให้รักษาราชการแทน ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๑ ตอน ๘๘ ง พิเศษ หน้า ๑ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗
- ↑ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๐๕/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง[ลิงก์เสีย]
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ข้าราชการการเมืองลาออกจากตำแหน่ง (พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ)
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2007-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๕, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๔๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2017-12-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๑๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๑๗๖ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๗, ๑๖ ตุลาคม ๒๕๓๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๑๐๘ ตอนที่ ๑๑๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๕๔, ๒๒ มิถุนายน ๒๕๓๔
|
---|
ประธาน ปปช. | |
---|
กรรมการ | |
---|
เลขาธิการ ปปช. | |
---|