วอลล์ - อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย

วอลล์ - อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย
โปสเตอร์ภาพยนตร์
กำกับแอนดรูว์ สแตนตัน
เขียนบทแอนดรูว์ สแตนตัน (เรื่อง/บทภาพยนตร์)
พีต ดอกเตอร์ (เรื่อง)
จิม แรดอน (บทภาพยนตร์)
อำนวยการสร้างจิม มอร์ริส
จอห์น แลสเซตเตอร์
นักแสดงนำเบน เบิร์ต
เอลิซซา ไนต์
ซิกอร์นีย์ วีเวอร์
เจฟฟ์ การ์ลิน
เฟร็ด วิลลาร์ด
จอห์น แรตเซนเบอร์เกอร์
แคธี นาจิมี
ตัดต่อสตีเฟน ชาฟเฟอร์
ดนตรีประกอบโธมัส นิวแมน
ปีเตอร์ แกเบรียล (เพลง)
ผู้จัดจำหน่ายวอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์
วันฉาย27 มิถุนายน พ.ศ. 2551 (สหรัฐอเมริกา)
18 กรกฎาคม 2551 (สหราชอาณาจักร)
11 กันยายน 2551 (ออสเตรเลีย)
12 สิงหาคม 2551 (ประเทศไทย)
ความยาว98 นาที
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ทุนสร้าง180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1]
ทำเงิน533 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1]
ข้อมูลจาก All Movie Guide
ข้อมูลจาก IMDb
ข้อมูลจากสยามโซน

วอลล์ - อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย (ชื่อเดิม หุ่นน้อยหัวใจรักษ์โลก) (อังกฤษ: WALL•E) เป็นภาพยนตร์การ์ตูนสัญชาติอเมริกัน และจัดจำหน่ายโดย วอลต์ ดิสนีย์ พิกเชอส์ กำกับโดย แอนดรูว์ สแตนตัน ออกฉายเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ในสหรัฐอเมริกา และออกฉายในประเทศไทยเมื่อ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ถือเป็นเรื่องที่เก้าจากดิสนีย์และพิกซาร์ แอนิเมชัน สตูดิโอส์ นอกจากนี้ วอลล์ - อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย ยังเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดถึง 6 รางวัล[2] แต่ในจำนวนนี้ วอลล์ - อี ได้ชนะเลิศรางวัลเพียง 1 สาขา คือ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม ส่วนที่เหลืออีก 5 รางวัล ได้พ่ายแพ้ให้กับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ

เนื้อเรื่องย่อ

หลังจากที่มนุษย์ปล่อยโลกให้ทิ้งร้างไปด้วยขยะเป็นเวลา 700 ปี วอลล์-อี (WALL-E) หุ่นยนต์กำจัดขยะ มาจากชื่อเต็มคือ Waste Allocation Load Lifter – Earth-Class ก็ยังคงทำหน้าที่เก็บขยะอยู่บนโลก โดยมีแมลงสาบเป็นเพื่อน จนวันหนึ่งฟ้าก็ส่งหุ่นยนต์สำรวจรุ่นล่าสุดที่ชื่อ อีฟ (EVE) มาจากชื่อเต็มคือ Extraterrestrial Vegetation Evaluator มายังโลกเพื่อค้นหาต้นไม้ วอลล์-อีได้เจอกับอีฟ และตกหลุมรัก หลังจากทั้งคู่ได้สานสัมพันธ์กัน วอลล์-อี ก็ได้มอบของขวัญแก่อีฟ คือต้นไม้ และนั่นเป็นจุดพลิกผันให้วอลล์-อี ต้องเดินทางจากโลกไป ติดตามอีฟมายังยานอวกาศแอกเซี่ยมที่ซึ่งมนุษย์ใช้เป็นยานลี้ภัย เพื่อหนีไปจากโลก

บนยานแอ็กเซี่ยมแห่งนี้ เต็มไปด้วยมนุษย์และหุ่นยนต์ที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ดูผิวเผินแล้ว อาจดูเหมือนว่ามนุษย์เป็นเจ้านาย คอยสั่งการให้หุ่นยนต์ทำตามคำสั่ง และช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ตนเอง แต่ในความเป็นจริงนั้น มนุษย์ได้ตกเป็นทาสของความสะดวกสบาย ไม่สามารถทำแม้แต่เรื่องง่ายอย่างการล้างหน้าแปรงฟันด้วยตนเองได้ ทุกอย่าง ทุกกิจกรรม ล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาหุ่นยนต์ทั้งสิ้น เรื่องกลับกลายเป็นว่าหุ่นยนต์ที่มีหน้ารับใช้มนุษย์ ได้ควบคุมมนุษย์ไว้ได้โดยสิ้นเชิง แต่เมื่อวอลล์-อีเข้ามา ก็ทำให้ทุกๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป

ความใสซื่อของวอลล์-อี นอกจากจะชนะใจอีฟแล้ว ยังทำให้เหล่ามนุษย์ที่ทิ้งโลกที่ตนทำให้สกปรก เสียหาย และเต็มไปด้วยเศษขยะจากความไม่ใส่ใจของพวกตน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของแผ่นดินเกิด และการยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่หวังพึ่งพาแต่หุ่นยนต์เหมือนเช่นที่ผ่านมา

ตัวละคร

  • วอลล์-อี (WALL-E) พากย์ไทยโดย คุณ ธานี พูนสุวรรณ
  • อีฟ (EVE) พากย์ไทยโดย คุณ นพวรรณ เหมะบุตร
  • โม (M-O) พากย์ไทยโดย คุณ ณัฐนันท์ ศิริเจริญ
  • ออโต้ (Auto) พากย์ไทยโดย คุณ ณฐพงศ์ เธียรสวัสดิ์กิจ
  • โก-โฟร์ (GO-4)
  • กัปตัน บี แมคเครีย (Captain B. McCrea)
  • รีเจ็ค บ็อทส์
  • จอห์นและแมรี (John and Mary) พากย์ไทยโดย คุณ กฤษณะ ศฤงคารนนท์ และคุณ พจมาน หงษ์ทอง
  • เชบี ฟอร์ธไรท์ (Shelby Forthright) พากย์ไทยโดย คุณ สิทธิสม มุทธานุกูลวงศ์
  • คอมพิวเตอร์ พากย์ไทยโดย คุณ นิรมล กิจภิญโญชัย

งานสร้าง

แนวคิดเรื่องนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ระหว่างมื้ออาหารกลางวันของสแตนตัน, จอห์น แลสเซตเตอร์, พีต ดอกเตอร์ และ โจ แรนท์ พวกเขาคุยถึงไอเดียหนังเรื่องต่อจาก Toy Story ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและอยู่ระหว่างงานสร้างขณะนั้น สแตนตันกล่าวว่า "มันเริ่มมาจากไอเดียของหุ่นยนต์ตัวน้อยที่ถูกทิ้งไว้บนโลก มันเป็นตัวละครตัวน้อยแบบ โรบินสัน ครูโซ"[3] พีต ดอกเตอร์เริ่มพัฒนาเป็นเวลา 2 เดือนในปี 1995 หลังจากสแตนตันอธิบายเรื่องราว แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะสร้าง Monsters, Inc. (2001) แทน เพราะเขาไม่มั่นใจกับเรื่องราวที่เป็นความรัก[4]

เดิมทีผู้สร้างอยากให้เรื่องนี้เป็นแนวตลก แต่สุดท้ายก็เป็นหนังที่ผสมผสานหลายแนวไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัก ความตลก และหนังไซไฟ ที่มีองค์ประกอบจากหนังไซไฟในยุคทศวรรษ 1960 และ 1970 เข้าไปด้วย และอีกแรงบันดาลใจคือภาพและเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Hello, Dolly! ภาพยนตร์ในปี ค.ศ. 1969 ที่สแตนตันดูระหว่างที่กำลังหาดนตรีประกอบอยู่ [3]

ในการเตรียมตัว ทำแอนิเมชัน ทีมงานพิกซาร์เดินทางไปทัศนศึกษาที่โรงงานรีไซเคิล เพื่อสังเกตการณ์การทำงานของเครื่องบดขนาดยักษ์ และเครื่องจักรกลอื่น ๆ เพื่อศึกษาหุ่นยนต์อย่างใกล้ชิด โดยทีมงานใช้หลักการ "วัตถุดิบสมจริง" คือการนำวัสดุธรรมดา ๆ มาออกแบบให้มีชีวิตและแสดงบุคลิกของหุ่นแต่ละตัว แต่ยังคงมีขีดจำกัดด้านกายภาพของแต่ละแบบดีไซน์เอาไว้ โดยสแตนตันพูดไว้ว่า "เราอยากให้ผู้ชมเชื่อว่าพวกเขากำลังได้เห็นเครื่องจักรกลที่มีชีวิต ยิ่งพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นเครื่องจักรมากเท่าไหร่ เรื่องราวก็ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเท่านั้น"[3]

ตัวละครหลักอย่าง วอลล์-อี มาจากตัวละคร Luxo, Jr ที่เป็นตัวละครโลโก้ของพิกซาร์กับกล้องส่องทางไกล ที่สแตนตันมีแนวคิดจากครั้งหนึ่งที่ชมการแข่งขันเบสบอลแล้วได้ใช้กล้องส่องทางไกล เขาได้แนวคิดว่า เขาสามารถแสดงความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งดีใจ เสียใจ เพียงแค่เอียงกล้องไปมา ส่วนตัวละคร อีฟ หุ่นยนต์ล้ำยุคที่มีต้นแบบมาจากเครื่องไอพอด โดยได้ทีมงานจากแอ็ปเปิ้ลมาช่วยออกแบบให้ ส่วนเสียงของหุ่นยนต์ ได้เบน เบิร์ต นักออกแบบเสียงให้กับ อาร์ทู-ดีทู ในสตาร์วอร์ส โดยเบิร์ตร่วมงานตั้งแต่งานสร้างตั้งแต่การสร้างสรรค์เสียงทั้งหมดให้กับตัวละครหุ่นยนต์และยานอวกาศรวมถึงสิ่งแวดล้อมทั้งหมด[3]

ด้านเพลงประกอบ ได้โธมัส นิวแมน ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 8 ครั้งมาช่วยแต่ง ซึ่งเขาเคยร่วมงานกับสแตนตันแล้วใน Finding Nemo และได้ปีเตอร์ แกเบรียลมาแต่งเพลงใหม่ที่ชื่อว่า "Down To Earth"[3]

อ้างอิง

  1. 1.0 1.1 "Production Budget of Wall E". Boxofficemojo. สืบค้นเมื่อ August 20, 2016.
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-09-11. สืบค้นเมื่อ 2009-11-05.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 นิตยสารสตาร์พิกส์ ฉบับที่ 2 ของเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 หน้า 68-72
  4. James White (April 2008). "How We Made WALL-E", Total Film, pp. 113–116.

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!