ลัมโบร์กีนี ฮูราแคน ภาพรวม บริษัทผู้ผลิต ลัมโบร์กีนี เริ่มผลิตเมื่อ ค.ศ. 2014 – ปัจจุบัน แหล่งผลิต Sant'Agata Bolognese, ประเทศอิตาลี ผู้ออกแบบ ตัวถังและช่วงล่าง ประเภท รถยนต์นั่งสมรรถนะสูง (Sports car)รูปแบบตัวถัง 2 ประตู คูเป 2 ประตู สไปเดอร์ (เปิดประทุน) โครงสร้าง เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสี่ล้อ (M4) (LP610-4, LP640-4) เครื่องยนต์กลางลำหลัง ขับเคลื่อนสองล้อหลัง (RMR) (LP580-2, LP620-2) แพลตฟอร์ม Volkswagen Group Modular Sports System Platform จำนวนประตู 2 แบบบานเปิดธรรมดา รุ่นที่คล้ายกัน ระบบส่งกำลัง เครื่องยนต์ 5.2 L V10 ระบบเกียร์ เกียร์ดูโอคลัช 7 จังหวะ มิติ ระยะฐานล้อ 2,620 mm (103.1 in) ความยาว 4,459 mm (175.6 in) ความกว้าง 1,924 mm (75.7 in) ความสูง 1,165 mm (45.9 in) น้ำหนัก 1,422 kg (3,135 lb) w/o fluids 1,553 kg (3,423 lb) w/ fluids[ 1] ระยะเหตุการณ์ รุ่นก่อนหน้า ลัมโบร์กีนี กัลลาร์โด รุ่นต่อไป ลัมโบร์กีนี เทเมอราริโอ้
ลัมโบร์กีนี ฮูราแคน (สเปน : Lamborghini Huracán ; อ่านว่า "อูรากัน" ) เป็นรถยนต์นั่งสมรรถนะสูง เครื่องยนต์กลางลำท้าย ขับเคลื่อนทุกล้อ (M4)/ขับเคลื่อนสองล้อท้าย (RMR) 2 ประตู 2 ที่นั่ง ผลิตโดยบริษัท ลัมโบร์กีนี จากประเทศอิตาลี ฮูราแคนเป็นรุ่นที่มาแทนที่รุ่นกัลลาร์โด ที่ประสบความเป็นสำเร็จในด้านยอดจำหน่ายมากที่สุดของลัมโบร์กีนี[ 2] ฮูราแคนได้เปิดตัวครั้งแรกในงานเจนีวา ออโตโชว์ 2014[ 3] และเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 ของปี ค.ศ. 2014
ฮูราแคน ได้รับการออกแบบโดย ฟิลิปโป เปอรินี (Filippo Perini) คนเดียวกันกับที่ออกแบบรุ่นอะเวนตาโดร์ ชื่อลงท้าย LP 610-4 นั้นมาจาก แรงม้า จำนวน 640 ตัว และขับเคลื่อนสี่ล้อ ฮูราแคน ได้รับการยกย่องให้เป็น "รถซูเปอร์คาร์แห่งปี ค.ศ. 2014" จากนิตยสาร ท็อปเกียร์ อีกด้วย[ 4]
ชื่อ
ตราสัญลักษณ์ของ ลัมโบร์กีนี ฮูราแคน
ฮูราแคน หรืออ่านว่า "อูรากัน" ในสำเนียงสเปนที่แปลว่า "เฮอร์ริเคน " ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อกระทิงสเปนในสนามแข่ง เช่นเดียวกับชื่อรุ่นลัมโบร์กีนีอีกหลายๆรุ่น โดยฮูราแคนมาจากชื่อกระทิงมาจากการแข่งกระทิงของสเปนในปี 1879[ 5] และฮูราแคนยังหมายถึงพระเจ้า พระเจ้าแห่งสายลมและไฟของชนเผ่ามายา อีกด้วย[ 6]
รุ่นต่างๆ
Huracán LP 610-4 Coupé : รุ่นมาตราฐานของฮูราแคน เปิดตัวในงานเจนีวา ออโตโชว์ 2014
Huracán LP 610-4 Polizia : เป็นรุ่นลัมโบร์กีนีที่มาแทนที่กัลลาร์โด 2 คัน ที่ตำรวจทางด่วนของอิตาลีที่นำไปใช้ชนจนพังหมด[ 7]
Huracán LP 610-4 Spyder : เป็นรุ่นเปิดประทุนของฮูราแคน เปิดตัวเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2014 ในงานแฟรงเฟิร์ตมอเตอร์โชว์
Huracán LP 580-2 Coupe : เป็นรุ่นคูเป ที่ลดกำลังแรงม้าลง ทำให้ราคาลดลงตามไปด้วยกว่า 40,000 ดอลลาร์ จากราคาที่ขายในรุ่น 610-4 Coupé[ 8]
Huracán LP 580-2 Spyder : เป็นรุ่นเปิดประทุนของฮูราแคน เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 2016 ในนครลอสแอนเจลิส
Huracán LP 640-4 Performante : เป็นรุ่นแต่งตัวท็อปของสายการผลิตนี้
Huracán EVO : เปิดตัวเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 2019
Huracán EVO Spyder : เปิดตัวเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2019
Huracán EVO GT Celebration : เปิดตัวเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2019
Huracán EVO RWD : เปิดตัวเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2020
Huracán EVO RWD Spyder : เปิดตัวเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2020
Huracán STO : เปิดตัวเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2020
Huracán Tecnica : เปิดตัวเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2022
Huracán Sterrato : เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 ในฐานะเครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นสุดท้าย และเป็นซูเปอร์คาร์สไตล์ออฟโรดรุ่นแรกของค่าย
Huracán STJ : เปิดตัวเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2024 รุ่นพิเศษเพียง 10 คัน ส่งท้ายขุมพลัง V10
ข้อมูลจำเพาะ
Huracan LP 610-4
Huracán LP 610-4 Polizia
Huracán Avio
Huracan LP 610-4 Spyder
Huracán LP 580-2 ในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ 2016
Huracán LP 580-2 Spyder
Huracán LP 640-4 Performante
Huracán LP 640-4 Performante Spyder
เครื่องยนต์
ฮูราแคนยังคงใช้เครื่องยนต์ 5.2 ลิตร ชนิดเครื่องยนตร์ที่ไม่ใช้ระบบอัดอากาศ (N/A) ของออดี้ /ลัมโบร์กีนี ชนิด 10 ลูกสูบ (V10) แต่มีการพัฒนาแรงม้าเป็น 602 ตัว (610 PS; 449 kW) มีการวางเครื่องไว้ที่กลางลำท้าย และระบบ เริ่ม-หยุด (Start-stop system) ของเครื่องยนต์ด้วย
สมรรถนะ
ฮูราแคน สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 325 กม./ชม. (202 ไมล์/ชม.)[ 9] และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 3.2 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ที่ 9.9 วินาที[ 10] เมื่อวัดในน้ำหนักรถเปล่าที่ 1,422 กก. (3,135 lb)
ความจุของกระบอกสูบ (Displacement)
5,204 cm3 (317.6 cu in)
กำลังสูงสุด (Max. power)
610 PS (449 kW; 602 hp) @ 8,250 rpm
น้ำหนักแรงกำลัง (Weight to Power)
2.36 kg (5.20 lb) / hp
แรงบิดสูงสุด (Max. torque)
560 N·m (413 lb·ft) @ 6,500 rpm
อัตราการปล่อย CO2
290 g/km
การผลิต
ตัวถังทั้งหมดผลิตในโรงงานของออดี ในเมือง Neckarsulm ประเทศเยอรมนี [ 11] ก่อนจะนำตัวถังไปผลิตขั้นตอนสุดท้ายที่ Sant'Agata Bolognese ซึ่งเป็นโรงงานหลักของค่ายลัมโบร์กีนี
เพียงแค่เดือนแรกที่เปิดตัว ฮูราแคน แอลพี 610-4 ก็ได้ส่งรถให้ลูกค้าไปแล้ว 700 คัน[ 12] และก่อนที่จะเปิดตัว ก็มีลูกค้ามาสั่งจองล่วงหน้ามากกว่า 1,000 ยอดสั่งจอง[ 13]
ปี
จำนวน
610-4 Coupé
610-4 Spyder
580-2 Coupé
580-2 Spyder
640-4 Performante
2013[ 14]
76
76
-
-
-
-
2014
1,540
1,540
-
-
-
-
2015[ 15]
2,242
2,242
-
-
-
-
2016
4,706
2,353
2,353
-
-
-
2017
-
-
-
-
-
-
2018
-
-
-
-
-
-
2019
-
-
-
-
-
-
ปรับโฉม (2019)
Huracán EVO / Huracán EVO Spyder
Huracán Evo ในงาน Geneva International Motor Show 2019
พ.ศ. 2562 เปิดตัว “Lamborghini Huracán EVO” (ลัมโบร์กินี ฮูราแคน อีโว) ถูกยกให้เป็นไอคอนใหม่ล่าสุดของแบรนด์กระทิงดุ ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะที่สามารถเลือกสีที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ทั้งการออกแบบสีรถภายในและภายนอก มาพร้อมการตกแต่งภายในที่มีความหรูหรา ด้วย Carbon Forged Composites ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ลัมโบร์กินี และเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสีสันที่จะพบได้ภายในงาน Geneva Motor Show 2019 นั่นก็คือ รถ Supercar คันใหม่ล่าสุด จากค่าย “ กระทิงดุ “ อย่าง Lamborghini Huracan Evo Spyder รุ่นปรับโฉม ในคราบเวอร์ชัน หลังคาเปิดประทุน
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562 ในบริษัท Renazzo Motor ในราคา 24,590,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคัน
Huracán EVO RWD / Huracán EVO RWD Spyder
Huracán Evo Spyder ในงาน 2019 Geneva Motor Show
Supercar จากค่ายกระทิงดุมักเปิดตัวรุ่นที่ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก่อน จากนั้นถึงจะส่งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังตามมา เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบเถื่อนกว่า ส่วนรุ่นล่าสุดตามสูตรดังกล่าวคือ Lamborghini Huracán EVO RWD มาพร้อมกับขุมพลัง V10 5.2 ลิตร 610 แรงม้า ต่อมา ค่ายกระทิงดุเอาใจผู้ที่ชอบความพยศของสปอร์ตขับหลัง และต้องการเปิดประทุนรับลมไปพร้อมกันด้วย Lamborghini Huracán EVO RWD Spyder หลังคาผ้าใบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V10 เสริมด้วยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ และหน้าตาที่ออกแบบมาใหม่ให้มีเอกลักษณ์ของตน
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563 ในบริษัท Renazzo Motor ในราคา 19,800,000 บาท เป็นรถรุ่นนำเข้าทั้งคัน
Huracán Tecnica
Lamborghini Huracán Tecnica
Lamborghini เปิดตัว Huracán Tecnica แทรกกลางระหว่าง EVO RWD ขับเคลื่อนล้อหลัง และ STO ซึ่งจูนมาเพื่อการแข่งโดยเฉพาะ Huracán Tecnica ได้รวมเทคโนโลยีล้ำสมัยของค่ายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งการขับขี่ในชีวิตประจำวันและในสนามแข่ง สิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือรูปลักษณ์ที่มีความพิเศษกว่า Huracán EVO RWD ด้วยพละกำลังที่มากกว่า ชูกจุดเด่นที่น้ำหนักเบาและชุดแอโร่พาร์ทที่ล้ำสมัย ส่วนล้อไดมอนด์คัตลาย Damiso ขนาด 20 นิ้วซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Lamborghini Vision GT ใช้ร่วมกับยาง Bridgestone Potenza Sport หน้า 245/30 R20 และหลัง 305/30 R20
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ในบริษัท Renazzo Motor ในราคาเริ่มต้นที่ 22,980,000 บาท เป็นรถรุ่นนำเข้าทั้งคันจากอิตาลี มีลูกค้าเริ่มจองเข้ามาที่ เรนาสโซ มอเตอร์ แล้ว โดยรถพร้อมส่งมอบภายในไตรมาสแรกปี พ.ศ. 2566
รุ่นพิเศษ
Huracán Evo GT Celebration
Huracan Evo GT Celebration
Lamborghini Huracan EVO GT Celebration ตัวพิเศษนี้ ถูกเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Monterey Car Week เป็นการนำรุ่น Huracan EVO ขับเคลื่อนสี่ล้อ มาทำการตกแต่งใหม่ ให้ล้อ Forged น้ำหนักเบา แบบ Center Lock ขนาด 20 นิ้ว ตัวถังใช้สีเขียว Verde Egeria Green กับสีส้ม Arancio Aten Orange พร้อมหมายเลข 11 ที่ตัวถัง เหมือนกับในรถแข่ง GT3 EVO ของทีม GRT Grasser ที่ได้รับชัยชนะในรายการแข่ง 24 ชั่วโมง Daytona ต่อเนื่อง 2 ครั้ง ในปี 2018-2019 และการแข่ง 12 ชั่วโมง Sebring ในปี 2019
ด้านสเปคตัวรถยังคงรูปแบบปกติ ไม่ได้ถูกแต่งอะไรเพิ่มเติม โครงสร้างตัวรถใช้อะลูมิเนียมกับคาร์บอนไฟเบอร์ผสมกัน น้ำหนักรถเปล่าอยู่ที่ 1,422 กก. มีการกระจายน้ำหนักที่ 43/57 % ดีไซน์กันชนหน้าใช้ทรง Y-shaped รูปแบบเฉพาะตัวของรุ่นขับสี่ มี Diffuser ท้ายขนาดใหญ่ และสปอยเลอร์แบบตูดเป็ด ทีจัดการแอร์โรไดนามิกได้มีประสิทธิภาพ ระบบเบรกติดตั้ง จานคาร์บอน-เซรามิก มาเป็นมาตรฐาน ด้านหน้าให้มาขนาด 380 มม. ก้ามเบรก 6 สูบ และจานหลังขนาด 356 มม. ก้ามเบรก 4 สูบ
สำหรับห้องโดยสารของ Lamborghini Huracan EVO GT Celebration คันนี้ให้เบาะนั่งแบบ Sport Seat เพื่อการนั่งที่กระชับขึ้น สีสันภายในตกแต่งให้เข้ากับภายนอกตัวรถ อย่างการเดินตะเข็บด้านสีส้มรอบคัน เสริมดุด้วยวัสดุ Corbon Skin แต่ถ้าเฉดสียังไม่ถูกใจ ก็สามารถทำสั่งพิเศษผ่านโปรแกรม Ad Personam ด้านความสะดวกสบาย ยังมีหน้าจอทัชสกรีน HMI ขนาด 8.4 นิ้ว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับความบันเทิงแบบจัดเต็มเช่นเคย
เครื่องยนต์ของ Lamborghini Huracan EVO GT Celebration ใช้บล็อก V10 ขนาดความจุ 5.2 ลิตร แบบ N/A ระบบน้ำมันหล่อลื่นแบบ Dry sump กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 84.5 x 92.8 มิลลิเมตร กำลังอัด 12.7 : 1 รีดกำลังได้สูงสุด 640 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตัน-เมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 ใน 2.9 วินาที มีระยะในการเบรก 100-0 กม./ชม. ใน 31.9 เมตร ทำความเร็วสุงสุด 325 กม./ชม. ระบบเกียร์ใช้แบบ 7 สปีด คลัทซ์คู่ LDF และขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ All-Wheel-Drive
สำหรับเจ้า Lamborghini Huracan EVO GT Celebration รุ่นพิเศษนี้ ถูกทำออกมาเพียง 36 คัน และจำหน่ายในตลาดอเมริกาเหนือ เท่านั้น
Huracan STO
Huracán STO
ลัมโบร์กีนี ฮูราแคน เอสทีโอ ใน เอ็มสเฟียร์
นี่คือซุปเปอร์คาร์ภาคสนามที่สามารถใช้งานได้บนถนน เป็นผลงานจากแผนก Squadra Corse’s โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Lamborghini Huracán Super Trofeo EVO และ GT3 EVO โดยปรับแต่งให้ถูกต้องตามกฎหมายสำหรับการใช้งานบนถนนสาธารณะ
สำหรับ Lamborghini Huracan STO หรือชื่อเต็มๆ ก็คือ Lamborghini Huracan Super Trofeo Onologata จัดเป็นกระทิงดุที่พัฒนาโดยทีมแข่ง Squadra Corse ในเวอร์ชันที่สามารถใช้งานบนท้องถนนได้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง V10 ที่สืบทอด DNA มาจาก Huracan Performante ที่เหนือกว่า Huracan EVO โครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา แอร์โรพาร์ทที่เชื่อมโยงระบบอากาศพลศาสตร์แบบรถแข่ง โดยเฉพาะการสร้างแรงกดในย่านความเร็วสูง เครื่องยนต์ V10 หายใจเองโดยไม่พึ่งพาระบบอัดอากาศ กำลังสูงสุด 640 แรงม้า แรงบิด 565 นิวตันเมตร เป็น Lamborghini ที่มีกำลังแรงม้าต่อน้ำหนักดีที่สุด ด้วยตัวเลข 2.09 กิโลกรัมต่อ 1 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 3.0 วินาที เบรกจาก 100-0 กม./ชม. ในระยะ 30 เมตร เบรกจากความเร็ว 200 จนหยุดนิ่ง ใช้ระยะเบรกไกล 110 เมตร
ผลงานชิ้นล่าสุดจาก Squadra Corse’s ซึ่งเป็นแผนก Motor Sport ของค่ายกระทิงดุ ตัวรถได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งที่พิชิตชัยชนะจากรายการ 24 Hour of Daytona 3 สมัย อย่าง Huracán Super Trofeo EVO และ Huracán GT3 EVO นำเอางานวิศวกรรมมาปรับใช้กับ Huracan เวอร์ชันผลิตขายจริง ที่สามารถขับใช้งานได้ทั่วไปบนท้องถนน
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในบริษัท Renazzo Motor เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564 ในราคาเริ่มต้นที่ 29,990,000 บาท เป็นรถรุ่นนำเข้าทั้งคัน จากประเทศอิตาลี
Huracán Sterrato
Lamborghini Huracán Sterrato front view
ลัมโบร์กีนี ฮูราแคน สเตราโต ใน เอ็มสเฟียร์
หลังจากที่ Lamborghini แถลงการณ์เกี่ยวกับผลประกอบการที่ดีที่สุดในไตรมาสที่สาม ก็มีข่าวของการมาของรถซูเปอร์คาร์ของทางค่ายนั้นก็คือรุ่น Sterrato ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นรุ่นที่สามารถขับลุยฝ่าไปได้ในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นทางออฟโรดก็ตาม และจะเปิดตัวครั้งแรกที่ Art Basel ใน ไมอามี ตั้งแต่วันที่ 1-3 ธันวาคม ที่กำลังจะถึง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการเปิดตัวออนไลน์ในปลายเดือนนี้หรือต้องรอจนกว่างานแสดงศิลปะที่ไมอามี บีชเสร็จสิ้น Huracan Sterrato จะถูกผลิตจำกัด 1,499 คัน ทั่วโลก โดยเริ่มผลิตตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี พ.ศ. 2566 ขณะที่ราคาของรถไม่ถูกระบุออกมา
เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในบริษัท Renazzo Motor ภายในเครือ Sharich Holdings (ชาริช โฮลดิ้ง) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ในราคาเริ่มต้นที่ 26,690,000 บาท เป็นรถรุ่นนำเข้าทั้งคัน จากประเทศอิตาลี ซึ่งถือสิทธิ์ ” Lamborghini Bangkok ” ในการจำหน่าย และให้บริการหลังการขายรถยนต์ Lamborghini แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มีโควต้าจำนวนจำกัด 10 คัน ในประเทศไทย !
Huracán LP 640-2 STJ (2567–ปัจจุบัน)
ขุมพลัง V10 แบบไม่มีระบบอัดอากาศจัดว่าเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของค่ายกระทิงดุ และอยู่คู่ Lamborghini Huracán มานับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2014 อย่างไรก็ตาม Supercar รุ่นนี้มาถึงบทสุดท้ายแล้ว โดยจะมีทายาทรุ่นใหม่มารับช่วงต่อในปลายปีนี้ และมาพร้อมกับขุมพลัง Hybrid แบบใหม่ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งท้าย จึงมีการเปิดตัวเวอร์ชั่นพิเศษในชื่อ Lamborghini Huracán STJ จำนวนจำกัด 10 คัน เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2024
STJ ย่อมาจาก Super Trofeo Jota รายการแข่ง one-make race ของ Lamborghini สำหรับความพิเศษของ Huracán STJ มาพร้อมกับชุดแต่งรอบคันที่พัฒนาขึ้นโดยทีมแข่ง Lamborghini Squadra Corse ซึ่งมีทั้งครีบรีดอากาศทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และปรับองศาสปอยเลอร์หลังอีก 3 องศา ช่วยสร้างแรงกดได้อีก 10% ส่วนโทนสีนั้นมีให้เลือกสองแบบจับคู่ภายนอกภายในเสร็จสรรพ ออกแบบโดย Lamborghini Centro Stile
แบบแรกจะมากับตัวถังสีเทา Grigio Telesto ส่วนห้องโดยสารมาในสีดำ Nero Cosmus เบาะหุ้ม Alcantara เดินตะเข็บด้ายสีแดง Rosso Alala ส่วนอีกแบบตัวถังมาในสีน้ำเงิน Blu Eliadi ทั้งสองแบบสีตัวถัง ตัดด้วยหลังคาสีดำ Nero Noctis พร้อมคาดลายสีแดง Ross Mars และสีขาว Bianco Isi ทั้งยังมีเพลทติดในห้องโดยสารระบุว่า “1 of 10” พร้อมมีเพลทพิเศษติดฝั่งผู้โดยสาร ระบุข้อความได้ตามที่ลูกค้าต้องการ
ขุมพลังของ Lamborghini Huracán STJ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ V10 กำลังสูงสุด 640 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 565 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ DCT 7 จังหวะ ลงล้อคู่หลัง ช่วงล่างเปลี่ยนไปใช้โช๊คอัพที่พัฒนาจากสนามแข่งปรับได้ 4 ทิศทาง ปิดท้ายกับล้อขนาด 20 นิ้ว น็อตเดี่ยวล็อคกลาง รัดด้วยยาง Bridgestone Potenza Race
อ้างอิง
ดูเพิ่ม