ร้อยเอก (อังกฤษ: captain มาจากภาษาฝรั่งเศสว่า capitaine) เป็นยศของนายทหารชั้นสัญญาบัตรกองทัพบกตามประวัติศาสตร์เนื่องจากสอดคล้องกับการบังคับกองร้อยทหาร ยศนี้ใช้งานโดยกองทัพอากาศและนาวิกโยธินบางประเทศ แต่มีความหมายถึงนายทหารระดับอาวุโส ปัจจุบันร้อยเอกมักจะเป็นผู้บังคับหน่วยหรือรองผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อยหรือกองร้อยปืนใหญ่ (หรือกองร้อยทหารม้ากองทัพบกสหรัฐ หรือกองพันทหารม้าในเครือจักรภพ) ในกองทัพปลดปล่อยประชาชน ร้อยเอกอาจจะเป็นผู้บังคับกองร้อย หรือเป็นรองผู้บังคับกองพัน และยศนี้ถูกเริ่มต้นในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2435 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งยศนี้สูงกว่าร้อยโท และตํ่ากว่าพันตรี
ในกองทัพบางประเทศ เช่น กองทัพบกสหรัฐและกองทัพอากาศสหรัฐ และกองทัพบกสหราชอาณาจักร ร้อยเอกเป็นยศเริ่มต้นสำหรับผู้สมัครนายทหารที่มีคุณวุฒิวิชาชีพ อาทิ ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ส่วนใหญ่ (แพทย์ เภสัชกร ทันตแพทย์) และทนายความ ในกองทัพสหรัฐ ทนาายความที่ไม่ได้เป็นนายทหารระดับร้อยเอกหรือสูงกว่านั้นจะได้รับยศร้อยโทในระหว่างการฝึก และได้รับการเลื่อนยศเป็นร้อยเอกหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกแล้วหากประจำอยู่ในหน่วยปฏิบัติการหรือเวลาผ่านไปแล้วระยะหนึ่ง ปกติจะใช้ระยะเวลาหนึ่งปีนับจากวันที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นร้อยโท
ยศร้อยเอกในภาษาอังกฤษนั้นเหมือนกันกับยศนาวาเอก (captain) ของกองทัพเรือ หรือยศนาวาอากาศเอก (group captain) ของกองทัพอากาศ ซึ่งทั้งสองยศนี้เทียบเท่าพันเอกของกองทัพบก
ประวัติ
ที่มาของชื่อยศนี้ย้อนกลับไปถึงในช่วงลาตินตอนปลาย คำว่า capitaneus หมายความว่า "หัวหน้า, ที่โดดเด่น" (chief, prominent)[1] ในภาษาอังกฤษสมัยกลางได้ปรับมาใช้เป็นคำว่า capitayn ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 จากภาษาฝรั่งเศสโบราณคือ capitaine
ยศทหารที่เรียกว่าร้อยเอก (captain) นั้น ใช้งานมาช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1560 มีความหมายถึงนายทหารที่บังคับกองร้อย ในความหมายทางเรือ หมายถึง นายทหารที่บังคับการเรือรบฝรั่งเศส (man-of-war) โดยมีใช้งานมาตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1550 ต่อมาได้ขยายควาหมายเป็น "นายหรือผู้บังคับหน่วยเรือทุกประเภท"
คำว่า captain (ร้อยเอก) ในช่วงก่อนที่จะมีกองกำลังติดอาวุธเกิดขึ้นประจำการในประเทศในยุโรปภายหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ในช่วงเริ่มต้นการสงครามสมัยใหม่ตอนต้น ขุนนางจะสามารถซื้อสิทธิ์การเป็นหัวหน้ากองร้อยได้จากผู้ถือสิทธิ์คนก่อน เขาจะจ่ายเงินให้กับขุนนางอีกคนเพื่อมาทำหน้าที่เป็น lieutenant (ร้อยโท) ซึ่งเงินทุนในการจัดการกองทหารไม่ได้มาจากพระมหากษัตริย์หรือรัฐบาล แต่ captain จะต้องรับผิดชอบในการหาอาหาร ที่อยู่อาศัย และการจัดเตรียมกองร้อย หากไม่สามารถสนับสนุนหรือดูแลกองร้อยหรือต้องขึ้นศาลทหาร เขาจะถูกไล่ออก (จากการฝ่าฝืนวินัย) พระมหากษัตริย์จะขายตำแหน่งสัญญาบัตรของเขาให้กับขุนนางคนอื่นเพื่อบังคับกองร้อยต่อไป ฉะนั้นวิธีการเกษียณตัวเองออกจากการเป็นหัวหน้ากองร้อยคือการขายสิทธิ์ให้กับขุนนางคนอื่นต่อเพื่อรับเงินและเกษียณตัวเองจากตำแหน่ง
กองทัพอากาศ
ในกองทัพอากาศหลายแห่ง เช่น กองทัพอากาศสหรัฐ ใช้โครงสร้างยศและเครื่องหมายยศคล้ายคลึงกับของกองทัพบก
อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร กองทัพอากาศหลายประเทศในเครือจักรภพ และกองทัพอากาศนอกเครือจักรภพอีกจำนวนหนึ่งใช้โครงสร้างยศเฉพาะตัวของกองทัพอากาศ[2] คือเรืออากาศเอก (flight lieutenant) ใช้รหัส OF-2 ในขณะที่นาวาอากาศเอก (group captain) ได้มาจากยศทางเรือของร้อยเอก
ประเทศแคนาดาเป็นอีกข้อยกเว้นที่ไม่เหมือนกับใคร เนื่องจากการรวมเหล่าทัพแคนาดาในปี พ.ศ. 2511 ชื่อยศของกองทัพอากาศจึงเหมือนกันกับกองทัพบกแคนาดา อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับประเทศในเครือจักรภพอื่น ๆ คือการใช้งานเครื่องหมายยศเป็นแถบเปียยศสีเทามึกและเพิ่มขึ้นทีละครึ่งขีด โดยมีการตัดสินใจว่าจะไม่นำระบบยศเก่ากลับมาใช้งานอีกครั้งในส่วนของกองทัพอากาศแคนาดา เนื่องจากก่อให้เกิดความสับสนเกินไป[3]
เครื่องหมายยศ
ดูเพิ่ม
หมายเหตุ
อ้างอิง