มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศส: Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นนอร์ม็องดี ประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว[1]
ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน[2] ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยแอมานุแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)
ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 50 คน จากสถิติ ณ ปี ค.ศ. 2015[3]
ประวัติ
ก่อนที่จะมีการสถาปนาราชวงศ์แรกของฝรั่งเศสขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เกาะนี้เคยถูกเรียกว่า มงตงบ์ (Mont Tombe) และตามตำนาน วิหารที่อยู่บนเกาะนี้ถูกสร้างโดยการแนะนำของเทวดามีแชล ที่ได้เข้าฝันนักบุญโอแบร์ บิชอปแห่งมาฟร็องช์เมื่อปี พ.ศ. 1251 แต่เขาก็มิได้ปฏิบัติตาม เนื่องจากนึกว่าปีศาจได้มาเข้าฝัน เขาจึงได้เพิกเฉยไป จนมาถึงการฝันครั้งที่ 3 มีแชลได้ใช้นิ้วของเขาจิ้มที่หัวของโอแบร์ และเมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ได้ตะลึงว่ามีรูอยู่บนหัวจริง ๆ จากนั้นมาเขาจึงตัดสินใจสร้างวิหารบนยอดเขา
ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส เนื่องจากไม่มีพระจำพรรษา ตัววิหารได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่คุมขังนักโทษสำคัญการเมือง จนกระทั่งวิกตอร์ อูโก ได้มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เพื่อคืนความเป็นสิ่งก่อสร้างสำคัญทางสถาปัตยกรรมของชาติ และในที่สุดได้มีการยกเลิกการเป็นเรือนจำ และได้ถูกเปลี่ยนสถานะเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในปี พ.ศ. 2417
ในปี พ.ศ. 2522 ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรม โดยองค์การยูเนสโก
การเดินทาง
ในอดีตการเดินทางไปยังมง-แซ็ง-มีแชล จะเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ด้วยถนนที่สามารถเดินทางได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำปกติจะท่วมและปิดกั้นผิวถนน โดยนักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญ สามารถจอดรถได้ในช่วงที่น้ำลง และเนื่องจากมีถนนที่ตัดเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่ ทำให้ทิศทางไหลของน้ำเกิดการผันแปร และเป็นผลทำให้ระยะทางระหว่างเกาะ กับแผ่นดินใหญ่นั้นสั้นลง อันเกิดจากการสะสมของดินตะกอนปากแม่น้ำ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2549 นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้เริ่มโครงการเพื่อช่วยคืนสภาพความเป็นเกาะให้กับมง-แซ็ง-มีแชล โดยอาศัยการไหลของน้ำเพื่อชะล้าง และลดการสะสมของดินตะกอน ส่วนหนึ่งของโครงการคือสร้างเขื่อนกั้นน้ำ รวมถึงการเปลี่ยนถนนที่เชื่อมกับแผ่นดินเป็นสะพาน เพื่อให้น้ำสามารถหมุนเวียนได้โดยรอบเกาะ รวมถึงการย้ายที่จอดรถไปยังแผ่นดินใหญ่ โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถจอดรถได้บนฝั่ง โดยจะมีรถรับส่งบริการจากจุดจอดรถถึงบริเวณเกาะ
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 สะพานใหม่ออกแบบโดยสถาปนิก ดิมาร์ ไฟซติงเกอร์ (Dietmar Feichtinger) เปิดใช้งาน สะพานโครงสร้างเบาช่วยให้น้ำไหลได้อย่างอิสระรอบเกาะ และปรับปรุงประสิทธิภาพของเขื่อนที่เปิดใช้งานก่อนหน้านั้น โครงการซึ่งมีราคา 209 ล้านยูโร เปิดอย่างเป็นทางการโดยประธานาธิบดี ฟร็องซัว ออล็องด์[4]
ในโอกาสที่หายาก จะเกิดปรากฏการณ์คลื่น "Supertide" ที่สูงมาก ซึ่งสะพานใหม่นี้จมอยู่ใต้น้ำอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2558 โดยระดับน้ำทะเลขึ้นสูงที่สุดในรอบอย่างน้อย 18 ปี ฝูงชนได้มารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก[5]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
แผ่นดินใหญ่ | ทางวัฒนธรรม | |
---|
ทางธรรมชาติ | |
---|
ผสม | |
---|
| |
---|
ดินแดนโพ้นทะเล | ทางวัฒนธรรม | |
---|
ทางธรรมชาติ | |
---|
ผสม | |
---|
|
---|
หมายเหตุ:
- 1 อยู่ในเขตโอเชียเนีย
- 2 อยู่ในทวีปแอฟริกา
- 3 อยู่ในมหาสมุทรอินเดียใต้
- 4 อยู่ในทวีปอเมริกา
|
|
---|
นานาชาติ | |
---|
ประจำชาติ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
อื่น ๆ | |
---|