บันจีจัมป์ เป็นกีฬาที่ผู้เล่นจะต้องกระโดดลงมาจากที่สูงโดยมีเชือกยึดไว้ โดยทั่วไปจะกระโดดลงมาจากสถานที่ที่เคลื่อนที่ไม่ได้ เช่น สะพาน อาคารสูง เป็นต้น แต่บางครั้งก็สามารถกระโดลงมาจากอากาศยานอย่างบัลลูนหรือเฮลิคอปเตอร์ได้เช่นกัน
บันจีจัมป์ เป็นกีฬาท้าความกล้าซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่หนุ่มสาวยุคใหม่ทั่วโลก แต่เดิมเป็นการพิสูจน์ความกล้าหาญ ความป็นชายชาตรีของชาวเมลานีเชี่ยน ชนเผ่าหนึ่งในหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งมีพิธีพิสูจน์ความเป็นชายชาตรีโดยการกระโดดจากหอสูง ประมาณ 20 เมตร โดยใช้เพียงเชือกจากเถาวัลย์มัดขาไว้ แล้วดิ่งตัวลงมา ต่อมาชมรมกีฬาของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดคือ Oxford University Dangerous Sport Club ได้นำกิจกรรมนี้มาดัดแปลง โดยใช้เชือกยางเหนียวนุ่มมัดข้อเท้าแทนเถาวัลย์ และทำการกระโดดจาก London Bridge แต่ทำได้แค่ครั้งเดียว จนต่อมาในปี ค.ศ. 1988 กีฬาบันจีจัมป์ได้ถูกนำกลับมาใช้ในเชิงพาณิชย์โดย A.J. Hackett จากประเทศนิวซีแลนด์ จนได้รับความนิยม และปลอดภัยเชื่อถือได้อย่างทุกวันนี้
อุปกรณ์การเล่น
เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงอุปกรณ์ที่ใช้จึงต้องได้มาตรฐาน และต้องได้รับการตรวจเช็คอย่างละเอียดก่อนที่จะทำการเล่นหรือกระโดดจริง โดยอุปกรณ์หลักประกอบด้วย
1. สายเชือกที่เรียกว่า Bungy Corde ซึ่งเป็นเชือกสายยืดที่ต้องรับน้ำหนักได้อย่างเหมาะสม
2. ที่รัดขา หรือ Leg Wrap ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พันขาโดยจะมีขอเกี่ยวกับ Bungy Corde
ขั้นตอน
ในการเตรียมตัว ผู้เล่นต้องชั่งน้ำหนักโดยปลดทรัพย์สินหรือเครื่องแต่งกายที่ไม่จำเป็นออกเพื่อชั่งน้ำหนักอย่างแท้จริง เพื่อที่ผู้ควบคุมการกระโดดหรือ Jump Master จะได้คำนวณหาค่าที่เหมาะสม สำหรับการปล่อยสายและขนาดของสายที่จะใช้ ที่เรียกว่า Bungy Corde หรือสายยืด ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดที่รับน้ำหนักได้ 40 – 60 กิโลกรัม 60 - 80 กิโลกรัม และ 80 – 100 กิโลกรัม จากนั้นก็นั่งลงให้ Jump Master พันขาด้วย Leg Wrap เหมือนที่รัดหน้าท้อง แล้วก็ใช้ Leg Step หรือเชือกพันขา โดยใช้ Pin ตัวเกี่ยวต่อกับ Bungy Corde ที่คำนวณไว้แล้ว อุปกรณ์ที่สำคัญแม้มีไม่กี่ชิ้น แต่ก็เน้นความปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของ Jump Master ตลอด
ท่ากระโดด
ท่ากระโดดของบันจีจัมป์ มีด้วยกัน 4 ท่า คือ
- DD คือการดิ่งหรือล้มตัวแบบนิ่ง ๆ ลงมา
- Forward การกระโดดพุ่งตัวลงมาจากเครน
- Back ward เป็นการหันหลังกระโดด
- Tandom เป็นการกระโดดคู่
เมื่อสิ้นการคำนวณและใส่อุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ไปขึ้นกระเช้า แล้วเครนก็พาขึ้นไปที่ความสูง 50 เมตร จากนั้น Jump Master ก็ตรวจความพร้อม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็เตรียมกระโดด ซึ่ง Jump Master จะบอกวิธีการกระโดดอีกครั้ง