ปีที่เปลี่ยนแปลง (พ.ศ.) |
จำนวนนาที ก่อนถึงเที่ยงคืน |
เวลา (นาฬิกา) |
การเปลี่ยนแปลง |
สาเหตุ
|
2490 |
7 |
23:53 |
— |
กำหนดเวลาครั้งแรกของนาฬิกา
|
2492 |
3 |
23:57 |
+4 |
สหภาพโซเวียตทดลองระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก เป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันอาวุธนิวเคลียร์อย่างเป็นทางการ
|
2496 |
2 |
23:58 |
+1 |
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตทดลองอุปกรณ์เทอร์โมนิวเคลียร์ห่างกันไม่ถึง 9 เดือน นับเป็นเวลาใกล้เที่ยงคืนมากที่สุดของนาฬิกาสิ้นโลกจนถึงปัจจุบัน
|
2503 |
7 |
23:53 |
-5 |
เพื่อสนองต่อการรับรู้ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นและความเข้าใจสาธารณะของภัยอาวุธนิวเคียร์ (ตลอดจนการปฏิบัติทางการเมืองเพื่อหลีกเลี่ยง "การแก้แค้นขนานใหญ่") สหรัฐและสหภาพโซเวียตร่วมือและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าในความขัดแย้งภูมิภาค เช่น วิกฤตการณ์สุเอซ พ.ศ. 2499 นักวิทยาศาสตร์นานาประเทศช่วยสถาปนาปีธรณีฟิสิกส์ระหว่างประเทศ เป็นชุดวันสำคัญทั่วโลกที่มีการประสานงานระหว่างประเทศซึ่งเป็นพันธมิตรกับทั้งสหรัฐและสหภาพโซเวียต และการประชุมพักวอชว่าด้วยวิทยาศาสตร์และกิจการโลก (Pugwash Conferences on Science and World Affairs) ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์โซเวียตและอเมริกันมีอันตรกิริยากัน
|
2506 |
12 |
23:48 |
-5 |
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตลงนามสนธิสัญญาห้ามการทดสอบบางส่วน ซึ่งจำกัดการทดสอบนิวเคลียร์ในบรรยากาศ
|
2511 |
7 |
22:53 |
+5 |
เกิดสงครามภูมิภาค ได้แก่ สงครามเวียดนามที่ทวีรุนแรงขึ้น เกิดสงครามหกวันใน พ.ศ. 2510 และสงครามอินเดีย-ปากีสถาน พ.ศ. 2508 ที่เลวกว่านั้น ฝรั่งเศสและจีน สองชาติซึ่งไม่ลงนามสนธิสัญญาห้ามการทดสอบบางส่วน ได้และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เพื่อยืนยันว่าตนเป็นผู้เล่นระดับโลกในการแข่งขันอาวุธนิวเคลียร์
|
2512 |
10 |
23:50 |
-3 |
ทุกชาติในโลก ข้อยกเว้นที่สำคัญคือ อินเดีย ปากีสถานและอิสราเอล ลงนามสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
|
2515 |
12 |
23:48 |
-2 |
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตลงนามในสนธิสัญญาจำกัดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับแรก และสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธทิ้งตัว
|
2517 |
9 |
23:51 |
+3 |
อินเดียทดลองระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก การเจรจาสนธิสัญญาจำกัดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับที่สองหยุดชะงัก ทั้งสหรัฐและสหภาพโซเวียตปรับยานกลับเข้ากำหนดเป้าหมายได้อิสระหลายเป้าหมาย (multiple independently targetable reentry vehicle) ให้ทันสมัย
|
2523 |
7 |
23:53 |
+2 |
หล่มในการเจรจาอเมริกา–โซเวียตที่ทำนายอนาคตไม่ได้ขณะที่สงครามโซเวียตในอัฟกานิสถานยังดำเนินต่อ ผลของสงครามทำให้วุฒิสภาสหรัฐปฏิเสธไม่ให้สัตยาบันความตกลงสนธิสัญญาจำกัดอาวุธทางยุทธศาสตร์ฉบับที่สองระหว่างสองชาติ และประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ถอนสหรัฐจากโอลิมปิกฤดูร้อน 1980 ในกรุงมอสโก รัฐบาลคาร์เตอร์พิจารณาหนทางซึ่งสหรัฐจะสามารถชนะสงครามนิวเคลียร์
|
2524 |
4 |
23:56 |
+3 |
มีการปรับนาฬิกาเมื่อต้น พ.ศ. 2524[9] สงครามโซเวียตในอัฟกานิสถานทำให้ท่าทีนิวเคลียร์ของสหรัฐแข็งกร้าวขึ้น โรนัลด์ เรแกนเป็นประธานาธิบดี ล้มการเจรจาลดอาวุธกับสหภาพโซเวียตและแย้งว่าทางเดียวที่จะยุติสงครามเย็นคือต้องชนะ ความตึงเรียดระหว่างสหรัฐและสหภาพโซเวียตส่งเสริมภัยการทำลายล้างด้วยนิวเคลียร์
|
2527 |
3 |
23:57 |
+1 |
ความตึงเครียดบานปลายขึ้นระหว่างสหรัฐและสหภาพโซเวียต มีการปรับนาฬิกาในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2526 เนื่องจากสงครามอัฟกานิสถานที่กำลังดำเนินอยู่นั้นทำให้สงครามเย็นระอุขึ้น มีการวางกำลังขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยปานกลางเพอร์ชิง 2 ของสหรัฐและขีปนาวุธร่อนในยุโรปตะวันตก[9] โรนัลด์ เรแกนผลักดันให้ชนะสงครามนิวเคลียร์โดยการเพิ่มความเข้มข้นของการแข่งขันอาวุธระหว่างอภิมหาอำนาจ สหภาพโซเวียตและพันธมิตร (ยกเว้นโรมาเนีย) คว่ำบาตรโอลิมปิกในลอสแอนเจลิสเพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรที่มีสหรัฐนำใน พ.ศ. 2523
|
2531 |
6 |
23:54 |
-3 |
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตลงนามสนธิสัญญากำจัดขีปนาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง; ความสัมพันธ์สองประเทศดีขึ้น[10]
|
2533 |
10 |
23:50 |
-4 |
การล่มสลายของกำแพงเบอร์ลินและม่านเหล็ก ร่วมกับการสร้างเอกภาพเยอรมนี หมายความว่า สงครามเย็นใกล้สิ้นสุด
|
2534 |
17 |
23:43 |
-7 |
สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตลงนามสนธิสัญญาลดอาวุธยุทธศาสตร์; สหภาพโซเวียตล่มสลาย สงครามเย็นถึงคราวสิ้นสุด; นับเป็นเวลาที่ห่างจากเที่ยงคืนมากที่สุดของนาฬิกาวันสิ้นโลก
|
2538 |
14 |
23:46 |
+3 |
รายจ่ายทางการทหารทั่วโลกยังอยู่ที่ระดับเมื่อสมัยสงครามเย็นท่ามกลางความกังวลด้านการเผยแพร่อาวุธและกำลังสมองนิวเคลียร์สมัยหลังโซเวียต
|
2541 |
9 |
23:51 |
+5 |
ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างทดลองระเบิดปรมาณูของตนในการแสดงความคุกคามต่ออีกฝ่ายหนึ่งเป็นการตอบแทน; สหรัฐอเมริกาและรัสเซียประสบความยากลำบากในการลดคลังอาวุธเพิ่ม
|
2545 |
7 |
23:53 |
+2 |
การปลดนิวเคลียร์ทั่วโลกมีความคืบหน้าน้อย สหรัฐปกฺเสธชุดสนธิสัญญาควบคุมอาวุธและประกาศเจตนาถอนจากสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธทิ้งตัว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีของผู้ก่อการร้ายนิวเคลียร์ เนื่องจากปริมาณวัสดุนิวเคลีย์ระดับอาวุธที่ไม่ปลอดภัยและอธิบายไม่ได้ทั่วโลก
|
2550 |
5 |
23:55 |
+2 |
เกาหลีเหนือทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ความทะเยอทะยานนิวเคลียร์ของอิหร่าน การเน้นการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางทหารของอเมริกาที่ได้รับฟื้นฟู ความล้มเหลวในการทำให้วัสดุนิวเคลียร์ปลอดภัยเพียงพอ และการยังคงอาวุธนิวเคลียร์ประมาณ 26,000 อันในสหรัฐและรัสเซีย[11] หลังประเมินภัยต่ออารยธรรมแล้ว มีการเพิ่มการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการคาดการณ์การทำลายล้างด้วยนิวเคลียร์เป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดต่อมนุษยชาติ[12]
|
2553 |
6 |
23:54 |
-1 |
ความร่วมมือทั่วโลกในการลดคลังแสงนิวเคลียร์และจำกัดผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ[13] สหรัฐและรัสเซียให้สัตยาบันความตกลงการเจรจาลดอาวุธยุทธศาสตร์รอบใหม่และมีการวางแผนการเจรจาเพื่อลดอาวุธในคลังแสงอเมริกาและรัสเซียอีก การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2552 ในกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ส่งผลให้ประเทศกำลังพัฒนาและอุตสาหกรรมตกลงรับผิดชอบการปล่อยคาร์บอนเพื่อจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิทั่วโลกไว้ที่ 2 องศาเซลเซียส
|
2555 |
5 |
23:55 |
+1 |
การขาดการปฏิบัติทางการเมืองทั่วโลกเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก คลังอาวุธนิวเคลียร์ โอกาสเกิดความขัดแย้งนิวเคลียร์ภูมิภาคและความปลอดภัยของพลังงานนิวเคลียร์[14]
|
2558 |
3 |
23:57 |
+2 |
ความกังวลท่ามกลางการขาดการปฏิบัติเพื่อจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลกที่ยังดำเนินต่อ การปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์ให้ทันสมัยในสหรัฐและรัสเซีย และปัญหากากนิวเคลียร์[15]
|
2560 |
2 1/2 |
23:57 1/2 |
+ 1/2 |
ความรุ่งเรืองของชาตินิยมใหม่, ความเห็นของดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ต่ออาวุธนิวเคลียร์ ภัยคุกคามการแข่งขันอาวุธรอบใหม่ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย และความไม่เชื่อในความเห็นพ้องทางวิยาศาสตร์เรื่องการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของรัฐบาลทรัมป์[16][17][18][19][20] เป็นครั้งแรกที่ใช้เศษส่วน
|
2561 |
2 |
23:58 |
+ 1/2 |
ความล้มเหลวของผู้นำโลกในการจัดการกับภัยคุกคามสงครามนิวเคลียร์และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ใกล้เข้ามา[21]
|
2563 |
1 2/3 |
23:58 1/3 |
+ 1/3 |
ความล้มเหลวของผู้นำโลกในการรับมือกับภัยคุกคามที่น่าจะเกิดขึ้นจากสงครามนิวเคลียร์ เช่นการสิ้นสุดของสนธิสัญญาระหว่างกองกำลังนิวเคลียร์ระดับกลาง (INF) ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียรวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านและต่อเนื่อง รวมถึงการไม่สามารถต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ[5][6][7]
|
2566
|
1+ 1/2
(90 s)
|
23:58:30
|
− 1/6
(−10 s)
|
สาเหตุหลักมาจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียโดยรัสเซีย และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเพิ่มระดับนิวเคลียร์อันเนื่องมาจากความขัดแย้ง สนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายที่เหลืออยู่ระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา นิวสตาร์ท มีกำหนดจะหมดอายุในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 [a] รัสเซียยังนำสงครามไปยังไซต์เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เชอร์โนบิลและซาโปริซเซีย ซึ่งละเมิดระเบียบการระหว่างประเทศและเสี่ยงต่อการปล่อยสารกัมมันตภาพรังสีในวงกว้าง วัสดุ. เกาหลีเหนือยังกลับมาใช้วาทศิลป์ด้านนิวเคลียร์อีกครั้ง โดยเปิดตัวการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางเหนือญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และการพังทลายของบรรทัดฐานระดับโลกและสถาบันต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและภัยคุกคามทางชีวภาพ เช่น เนื่องจากโควิด-19 มีส่วนทำให้การตั้งเวลาเกิดขึ้นด้วย[6]
|