ซาการะ โยชิฮิ เป็นไดเมียวคนที่ 18 ของตระกูลซาการะ มีชีวิตอยู่ในช่วงยุคเซ็นโกคุและยุคอะซุจิ-โมโมยามะ ชื่อเดิมของเขาคือ โยริฟุสะ (頼房)
ชีวิตช่วงต้น
เป็นลูกชายของ ซาการะ ฮารุฮิโระ และมีศักดิ์เป็นหลานของ ซาการะ โยชิชิเงะ เขาเกิดวันเดียวกับน้องชายของเขา แต่เนื่องด้วยเขาเกิดมาจากภรรยาเอก จึงมีสิทธิในการสืบทอดตระกูล ซึ่งแน่นอนว่า บรรดาขุนนางส่วนใหญ่ต่างสนับสนุนให้เขาได้เป็นผู้นำตระกูล
เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตในราว ปี ค.ศ.1555 เขาจึงขึ้นปกครองตระกูลเมื่ออายุได้ 11 ปี และได้รับความช่วยเหลือในการดูแลและการบริหาร จาก อุเอมุระ โยริโอกิ นอกจากนี้ เขาได้พยายามสงบศึกกับตระกูลอะโซ ซึ่งเป็นศัตรูเก่าแก่ของตระกูลซาการะ
เมื่อเขาเข้าสู่วัยรุ่น ก็เริ่มมีแผนที่จะผนวกดินแดนโองุจิในจังหวัดซัตสึมะ เขาจึงให้ ฮิชิการิ ชิเงโตะ (菱刈重任) ให้ทำภารกิจในการโจมตีและการเจรจากับกลุ่มนิชิฮาระ (西原) แต่ในช่วงปี ค.ศ.1557 ระหว่างที่เขากำลังขยายดินแดน อุเอมุระ โยริตากะ, อุเอมุระ โยริกาตะ และ อินาโดเมะ นางาคุระ ได้ก่อกบฏ ซึ่งทางโยชิฮิสามารถจัดการกับกบฏได้อย่างรวดเร็ว และทำการปล่อยตัวโยริตากะให้เป็นอิสระ จากนั้นอีก 2 ปี ก็เกิดกบฏฮิกาชิ นาโอะมาสะ และ มารุเม โยริโยชิ ซึ่งโยชิฮิก็ได้จัดการกบฏอย่างราบคาบที่อุโซโนะบารุ
ผู้นำตระกูลซาการะ
ในปี ค.ศ.1562 เขาได้ทำการเจรจากับชิมาสุ ทากาฮิสะ และ ฮอนโงะ โทกิฮิสะ เพื่อทำการฟื้นฟูดินแดนของคิตะฮาระ คาเนะจิกะแห่งตระกูลคิตะฮาระ กองทัพของเขาประสบความสำเร็จในการควบคุมปราสาทมังงาตะ (馬関田城) กับ ปราสาทอิโนะ (飯野城) นอกจากนี้ เขาได้ทำสัญญากับทางชิมาสุและทางฮอนโงะว่า จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยได้ลงนามสัญญาที่ศาลเจ้าชิราโตริ
แต่แล้วในปี ค.ศ.1563 ลุงของคิตะฮาระ คาเนะจิกะ ไม่ต้องการให้ตระกูลชิมาสุมีอำนาจ จึงได้ชักจูงเขาและอิโตะ โยชิสุเกะแห่งตระกูลอิโตะ ให้มาเป็นแนวร่วมต่อต้านชิมาสุ และทำสงครามกันที่ปราสาทไดเมียวจิน (大明神城) ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลซาการะกับตระกูลชิมาสุเริ่มย่ำแย่
ตระกูลชิมาสุได้ส่งทหารมาโจมตีดินแดนของตระกูลซาการะ ซึ่งเขาสามารถเอาชนะทหารชิมาสุได้ที่ปราสาทฮาสุโอะ (筈尾城) ซึ่งชัยชนะของเขานั้น มีผลประโยชน์ทางการเมืองตามมา คือ โชกุนอะชิกางะ โยชิเทรุได้มอบชื่อใหม่ คือ โยชิฮิ (義陽) และมอบตำแหน่งขุนนางชั้นสี่ (従四位下) กับ ผู้อำนวยการซ่อมแซม (修理大夫) ให้แก่เขา ซึ่งทำให้ทางชิมาสุกับทางโอโตโมะไม่ค่อยพอใจ เนื่องด้วยตำแหน่งของโยชิฮิมีความใกล้เคียงกับตำแหน่งของพวกเขา โยชิฮิเป็นหนึ่งในขุนศึกที่คอยส่งบรรณาการให้กับทางรัฐบาล ก่อนที่บรรณาการทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การดูแลของโอดะ โนบุนากะ หลังจากที่บรรณาการบางส่วนถูกนำไปใช้อย่างลอยนวล
ในช่วง ค.ศ.1565 เขาได้เอาชนะ นาวะ ยูกินาโอะ (名和行直) และเข้ายึดปราสาทโทโยฟุกุ (豊福城) และที่นั่นเอง เขาได้พบกับ ไค โซอุน ซึ่งเป็นกุนซือของตระกูลอะโซ
ตั้งแต่วันที่ 24 ถึง 25 พฤศจิกายน ค.ศ.1567 เขาก็ประสบกับความพ่ายแพ้ต่อตระกูลชิมาสุ เนื่องด้วยกองทัพชิมาสุสามารถเข้ายึดดินแดนของตระกูลซาการะได้หลายพื้นที่ แม้ว่าเขาจะสามารถกลับมาตั้งตัวได้ในปี ค.ศ.1568 แต่แล้ว ตระกูลอิโตะก็ประสบความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในการรบที่คิซากิ ทำให้เขาต้องตัดสินใจยอมสงบศึกชั่วคราวกับตระกูลชิมาสุในปี ค.ศ.1575 โดยมีราชสำนักเป็นคนกลาง แต่เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ค่อยปรองดองกันมานาน จึงทำให้เกิดสงครามอีกครั้งใน ค.ศ.1577 ซึ่งสงครามจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของตระกูลซาการะ เขาไม่มีทางเลือก นอกจากต้องยอมจำนน และส่งตัวลูกชายของเขาไปเป็นตัวประกัน
ยุทธการฮิบิกิบาระ
เมื่อเขายอมแพ้ต่อตระกูลชิมาสุ เขาก็ได้รับคำสั่งให้ไปโจมตีจังหวัดฮิโงะตอนเหนือ ดูเหมือนว่าเขาจะได้เปรียบในช่วงการโจมตีสองครั้งแรก แต่ทว่าเมื่อเขากำลังจะโจมตีเป็นครั้งที่สาม ก็ถูกกองทัพตระกูลอะโซเข้าโจมตีอย่างฉับพลัน ผลการรบคือ เขาเสียชีวิตในสนามรบ และเมื่อทาง ไค โซอุน ได้ทราบข่าวการตายของเขา โซอุนก็ได้แสดงความไว้อาลัยต่อเขา
หลังจากที่เขาเสียชีวิต ขุนนางเก่าแก่ คือ ฟุกามิ นางาโตโมะ และ อินโด โยริยาสุ ได้เชิญ ทาดะฟุสะ ลูกชายคนโต ขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลต่อจากเขา
อ้างอิง