ช็อน จี-ฮย็อน (เกาหลี: 전지현; ฮันจา: 全智賢; อาร์อาร์: Jeon Ji-hyeon; เอ็มอาร์: Chŏn Chihyŏn; เกิด 30 ตุลาคม ค.ศ. 1981) หรืออาจรู้จักในชื่อ เจียนนา ช็อน (Gianna Jun; 지아나 전) มีชื่อแต่แรกเกิดว่า วัง จี-ฮย็อน (เกาหลี: 왕지현; ฮันจา: 王智賢) เป็นนักแสดงและนางแบบชาวเกาหลีใต้ มีชื่อเสียงจากการรับบทเป็น "หญิงสาว" จากภาพยนตร์เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม[1]
ทั้งยังมีชื่อเสียงจากภาพยนตร์เรื่องถัดมา เช่น ยัยตัวร้ายกับนายเซ่อซ่า, ยัยตัวร้ายกับโต๊ะผี, ล่าหัวใจ ยัยตัวร้าย และ ยัยตัวร้าย สายพันธุ์อมตะ และยังมีชื่อเสียงจากซีรีส์ เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว[2][3]
วัยเยาว์และการศึกษา
ช็อน จี-ฮย็อน เกิดที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ มีชื่อแต่แรกเกิดว่า วัง จี-ฮย็อน (เกาหลี: 왕지현; ฮันจา: 王智賢) ในวัยเยาว์เธอมีความฝันว่าอยากเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่ขณะที่เธอมีอายุ 16 ปี ได้มีบรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นพบเธอโดยบังเอิญที่กลางถนน[4] หลังจากการติดต่อของบรรณาธิการดังกล่าว เธอเริ่มอาชีพเป็นนางแบบถ่ายแบบลงนิตยสารอีโคล (École Magazine) เมื่อปี ค.ศ. 1997 โดยใช้ชื่อ "ช็อน จี-ฮย็อน" ภายหลังเธอได้เล่าเรียนจนสำเร็จการศึกษาสาขาการแสดงและภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยทงกุก
อาชีพนักแสดง
ช่วงเริ่มต้นและยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม
ภายหลังจากการปรากฏตัวผ่านโทรทัศน์และเป็นนางแบบโฆษณามาบ้างแล้ว เธอก็เริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ โดยแสดงนำในเรื่อง ยัยตัวร้าย หัวใจติดปีก ในปี ค.ศ. 1999 แต่เธอกลับมีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมขึ้นจากงานโฆษณาของซัมซุงมายเจ็ตพรินเตอร์ (Samsung My Jet Printer) ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นสัญรูป (icon) ของกลุ่มชาวเกาหลีวัยยี่สิบต้น ๆ และวัยรุ่นตอนปลาย[5]
หลังจากนั้นเธอได้แสดงบทนำในภาพยนตร์เรื่อง ลิขิตรัก ข้ามเวลา ในปี ค.ศ. 2000 ซึ่งถ่ายทำบนเกาะคังฮวา ภาพยนตร์ดังกล่าวได้ผลตอบรับดีในบ็อกซ์ออฟฟิศ ทำให้เธอเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงขึ้น[5] ทั้งนี้ภาพยนตร์ดังกล่าวได้ถูกรีเมคเป็นเวอร์ชันอเมริกาโดยใช้ชื่อว่า บ้านทะเลสาบ บ่มรักปาฏิหาริย์ ซึ่งออกฉายเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2006
อย่างไรก็ตามผลงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของเธอคือ ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม (ค.ศ. 2001) ซึ่งเป็นภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในเกาหลีและประเทศในเอเชีย โดยเป็นเรื่องราวของหนุ่มมหาวิทยาลัยใจง่ายกับแฟนสาวกึ่งวิกลจริต ภาพยนตร์ดังกล่าวติดอันดับหนึ่งในฮ่องกงถึงสองสัปดาห์ และเธอเองก็เป็นนักแสดงเกาหลีที่กลุ่มผู้ชมที่ใช้ภาษาจีนรู้จักมากที่สุด[6][7][8] ส่งผลให้เธอได้รับรางวัลแกรนด์เบล (Grand Bell Awards) สาขานักแสดงหญิงยอดเยี่ยม เมื่อปี ค.ศ. 2002 จากภาพยนตร์ดังกล่าวทำให้เธอได้รับความนิยมมากในประเทศไทย[9][10] ด้วยรูปพรรณที่มีผิวขาวนวลของเธอ ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีรูปของช็อนปรากฏอยู่ดาษดื่นในไทย เช่น โปสเตอร์ดารา ภาพพื้นหลังในร้านอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่สติกเกอร์ที่ติดอยู่บนกล่องเหล็กใส่ดินสอ[9] ทั้งยังให้สมญาแก่ช็อนว่า "ยัยตัวร้าย" ปรากฏอยู่ในชื่อภาพยนตร์แทบทุกเรื่องที่เธอแสดงนำ[9][10]
ช่วงตกต่ำ
สองปีต่อมาเธอได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ยัยตัวร้ายกับโต๊ะผี ซึ่งเป็นหนังสยองขวัญ อันได้รับคำชมจากผู้วิจารณ์ภาพยนตร์ แต่กลับไม่ได้รับความนิยมจากผู้ชมเท่าใด[11] กระนั้นช่วงเวลาดังกล่าว เธอก็ยังคงปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องตามโฆษณาทางโทรทัศน์หรือแม้แต่ป้ายโฆษณา ทั้งในประเทศและประเทศอื่นในเอเชีย[5][12][13]
ในปี ค.ศ. 2004 เธอได้กลับมาแสดงอีกครั้งภายใต้ผู้กำกับ กวัก แจ-ยง ที่เคยร่วมงานกันในเรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม ในภาพยนตร์เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายเซ่อซ่า เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีโรแมนติกคอมเมดี้ โดยเธอรับบทเป็นตำรวจหญิง ที่ผู้ชมจำนวนมากมองว่าบทบาทดังกล่าวแทบไม่แตกต่างกับบท "หญิงสาว" จากภาพยนตร์ก่อนหน้า[14][15] แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จด้านรายได้รวมเป็นอันดับที่แปดของภาพยนตร์เกาหลีในปี ค.ศ. 2004 และเป็นภาพยนตร์เกาหลีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในญี่ปุ่น ขณะที่ ยัยตัวร้ายกับนายเจี๋ยมเจี้ยม ไม่ใคร่เป็นที่รู้จักนัก[5][16][17] ในปี ค.ศ. 2005 จากการสำรวจของผู้ผลิตภาพยนตร์ผู้ทรงอิทธิพล พบว่าเธอติดอันดับนักแสดงทำเงินสูงสุด 1 ใน 10 ของเกาหลี[18]
ในปี ค.ศ. 2006 เธอมีผลงานแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ล่าหัวใจ ยัยตัวร้าย ร่วมแสดงกับช็อง อู-ซ็อง ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีความน่าสนใจ เนื่องจากถ่ายทำในประเทศเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด โดยมีหลิว เหว่ยเฉียง เป็นผู้กำกับ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับไม่ได้รับการตอบรับจากบ็อกซ์ออฟฟิศและผู้ชมเท่าที่ควร[5][19]
ปลายปี ค.ศ. 2006 ได้มีการประกาศว่าช็อนจะเข้าร่วมกับฮอลิวูดเพื่อแสดงบทนำในเรื่อง ยัยตัวร้าย สายพันธุ์อมตะ[20] ที่มีหลายประเทศร่วมผลิต ถ่ายทำในประเทศจีนและอาร์เจนตินาใน ค.ศ. 2007 ส่วนโครงเรื่องดัดแปลงมาจากอนิเมะญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น[5] โดยเธอต้องเข้าอบรมการเป็นวีรสตรีผู้ใช้ดาบในการต่อสู้อย่างหนักสามเดือน[21] ก่อนออกฉายในปี ค.ศ. 2009[22][23][24] ในเรื่องนี้เธอใช้ชื่อในการแสดงแบบตะวันตกว่า เจียนนา ช็อน (Gianna Jun) [25][26]
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายซูเปอร์แมน เธอรับบทเป็นนักข่าวทำสารคดีเกี่ยวกับมนุษย์ จนพบกับชายผู้หนึ่งที่อ้างตนเป็นซูเปอร์แมนคอยช่วยเหลือคนอื่น ช็อนค่อนข้างกดดัน เพราะต้องมาแสดงคู่กับ ฮวัง จ็อง-มิน นักแสดงที่มีชื่อเสียง เธอกล่าวว่า "แม้กระนั้นก็มีความโชคดีเข้ามาฉันคิดว่ามันเป็นโชคชะตาที่ทำให้นักแสดงพบกับงานใหม่ ในวันแรกที่ฉันพบเขาฉันพบว่ามีหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้จากเขาไม่เพียงแต่การแสดงของเขาแต่เป็นที่การวางตัวด้วย"[27][28]
ในปี ค.ศ. 2010 เธอได้ประชันบทบาทกับหลี่ ปิงปิง ในภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่อง จดหมายลับไป่เหอ โดยนำโครงเรื่องมาจากนิยายขายดีของลิซา ซี กำกับการแสดงโดยเวย์น หวัง เป็นเรื่องราวย้อนไปในประเทศจีนช่วงศตวรรษที่ 19 มีมิตรภาพของหญิงสองคนคือ ไป่เหอและเสว่ฮวาที่เป็นเหล่าถงกัน โดยใช้อักษรพิเศษ "หนี่ซู" สื่อความรักและอารมณ์กับเหล่าถง[29][30][31][32] และในปีนั้นเอง แอนนี ลีเบอวิตซ์ ได้ถ่ายรูปเธอลงในนิตยสารโวคอเมริกันประจำเดือนกรกฎาคม ถือเป็นนักแสดงหญิงเกาหลีคนแรกที่ได้ลงนิตยสารแฟชั่นที่มีชื่อเสียงโดดเด่น[33][34]
กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง
ในปี ค.ศ. 2012 เธอได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง 10 ดาวโจรปล้นโคตรเพชร เป็นเรื่องราวของหัวขโมยที่มาจากจีนและเกาหลีรวมตัวกันเพื่อจะขโมยเพชรมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เก็บอยู่ในห้อง ๆ หนึ่งภายในคาสิโนหรูแห่งหนึ่งของมาเก๊า[35][36][37][38][39][40][41][42] ซึ่งภาพยนตร์ดังกล่าวติดอันดับภาพยนตร์เกาหลีขายดีที่สุดอันดับสอง[43] ในปีถัดมาเธอได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง เบอร์ลิน รหัสลับระอุเดือด รับบทเป็นล่ามที่ต่อมาได้สมรสกับชายซึ่งเป็นตัวแทนหน่วยสืบราชการลับของเกาหลีเหนือ โดย รยู ซึง-วัน ผู้กำกับภาพยนตร์ ได้ออกมาชื่นชมเธอในด้านการแสดงฉากแอ็กชั่นและสำเนียงเกาหลีเหนือของเธอ[44][45][46][47]
หลังทิ้งงานแสดงละครทางโทรทัศน์มานาน 14 ปี เธอได้กลับมาแสดงในซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซีเรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว โดยเป็นเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่ลงมาบนโลกมนุษย์เมื่อ 400 ปีก่อน ช่วงยุคราชวงศ์โชซ็อน รับบทโดย คิม ซู-ฮย็อน มาพบกับนักแสดงสาวที่มีชื่อเสียงที่ช็อนเป็นผู้รับบท[48][49] ซีรีส์ดังกล่าวประสบความสำเร็จในด้านการจัดอันดับ[50] ด้วยเหตุนี้ช็อนจึงได้รับ "รางวัลใหญ่" ของรางวัลแพ็กซัง ประจำปี 2014 อันเป็นรางวัลโทรทัศน์สูงสุด[51][52][53][54] กระนั้นคิม กู-รา และฮอ จี-วุง พิธีกรรายการ Ssul Jeon ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแสดงของเธอว่า "มันน่าเบื่อหน่ายสิ้นดี เพราะเธอมักเลือกเล่นแต่บทเดิม ๆ..." และเธอควรเลือกบทใหม่[55]
ชีวิตส่วนตัว
ช็อน จี-ฮย็อน สมรสกับชเว จุน-ฮย็อก เมื่อวันที่ 13 เมษายน ค.ศ. 2012[56] ทั้งนี้ชเวผู้สามี เป็นหลานชายของ อี ย็อง-ฮี นักออกแบบชุดฮันบก[57] และเป็นบุตรชายของนักออกแบบเสื้อผ้า อี จ็อง-อู[58][59][60][61][62][63] การนี้ช็อนได้ลงปกนิตยสาร ELLE ของเกาหลีฉบับเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกับฉบับจีน, ไต้หวัน และสิงคโปร์ โดยเป็นภาพเธอในชุดแต่งงานชุดเดียวกันแต่ต่างอิริยาบถ[64]
ช็อน โปรดปรานการทำอาหาร โดยทำอาหารเกาหลีเป็นหลัก และเธอมักออกไปจ่ายตลาดบ่อย ๆ [65]
ผลงาน
ภาพยนตร์
ปี
|
ชื่อเรื่อง
|
รับบท
|
1999
|
|
จ็อง-มิน
|
2000
|
|
อึน-จู
|
2001
|
|
หญิงสาว
|
2003
|
|
ย็อน
|
2004
|
|
โย คย็อง-จิน
|
2006
|
|
ฮเยย็อง
|
2008
|
|
ซง ซู-จ็อง
|
2009
|
|
ซายะ โอโตนาชิ
|
2011
|
|
โซเฟีย/เสฺว่ฮฺวา
|
2012
|
|
เยนีคอล
|
2013
|
|
รย็อง จ็อง-ฮี
|
2015
|
|
อัน อก-ยุน/มิตสึโกะ
|
|
รายการโทรทัศน์
ปี
|
ชื่อเรื่อง
|
บทบาท
|
1997
|
The Season of Puberty
|
|
1998
|
- SBS อินกีกาโย
- SBS 인기가요
- Popular Song
|
พิธีกร
|
- แน มาอึมมึล แปซอบวา
- 내 마음을 뺏어봐
- Fascinate My Heart
|
วัง กา-ย็อง
|
1999
|
- แฮปีทูเกทอ
- 해피투게더
- Happy Together
|
โซ ยุน-จู
|
2013–2014
|
|
ช็อน ซง-อี
|
2016–2017
|
|
เซฮวา/ชิม ช็อง
|
2020
|
|
รับเชิญ
|
มิวสิกวิดีโอ
ปี
|
เพลง
|
ศิลปิน
|
1998
|
- "อีแฮฮัลแก"
- 이해할게
- Will You Understand
|
โช กยู-มัน
|
1999
|
- "ซารังงี ชีจัก"
- 사랑의 시작
- The Beginning of Love
|
หลี่ หมิง
|
2000
|
|
จัง ฮย็อก (T.J Project)
|
- "อิร็อลจีแอ"
- 일월지애
- January Love
|
2002
|
- "ซารังงึน อ็อนเจนา มกมารึดา"
- 사랑은 언제나 목마르다
- Love Is Always Thirsty
|
ยูมี
|
|
อ้างอิง
- ↑ "เกาหลีฟีเวอร์". ASTV ผู้จัดการรายวัน. 21 ธันวาคม พ.ศ. 2547. สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2557. [ลิงก์เสีย]
- ↑ "เมื่อยัยตัวร้าย'จวน จีฮุน'กระโดดลงจอแก้ว". คมชัดลึก. 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2557.
- ↑ "ยัยตัวร้าย "จอนจีฮุน" 32 สุดแจ๋ว! โกยรายได้เฉพาะโฆษณา รวยเละคนเดียว 640 ล้านบาท!". มติชน. 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2557.
- ↑ Wang, Ping (23 January 2006). "New image for sassy Girl". CCTV International. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 Paquet, Darcy. "Actors and Actresses of Korean Cinema: Jeon Ji-hyun". Koreanfilm.org. สืบค้นเมื่อ 2012-04-18.
- ↑ Yeo, Shi-dong (24 November 2002). "My Bizarre Girlfriend Gets Highest Model Contract Ever". The Chosun Ilbo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-08. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Jeong, Hyeon-seok (10 February 2004). "One Interview After the Other for Jeon Ji-hyun". The Chosun Ilbo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-12. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Top Korean Female Star Makes Waves in the Chinese Mobile Market". The Chosun Ilbo. 7 May 2004. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ (9 สิงหาคม 2562). "จอน จี ฮยอน (จวนจีฮุน) : 18 ปี อยากบอกให้เธอได้ฟังคิดถึงเธอจัง "ยัยตัวร้าย"". The People. สืบค้นเมื่อ 26 มิถุนายน 2565.
- ↑ 10.0 10.1 ณัฐนันท์ เฉลิมพนัส (30 ตุลาคม 2563). "ชอนจีฮยอน 'ยัยตัวร้าย' ที่หลายคนหลงรัก". The Standard. สืบค้นเมื่อ 26 มิถุนายน 2565.
- ↑ "A Tale of Two Jeons". The Chosun Ilbo. 1 April 2004. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Hong Joo-hyun, Wohn Dong-hee (20 January 2005). "Beauty brands seek Korean faces". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Shim, Seo-hyun (10 December 2011). "Jun Ji-hyun replaced as Elastine's go-to girl". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jeon Ji-hyun Cedes Advertising Power to Jang Dong-gun". The Chosun Ilbo. 30 March 2007. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "When Stars Bank on Advertising Only". The Chosun Ilbo. 5 September 2009. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Windstruck to Premiere in Hong Kong". The Chosun Ilbo. 28 May 2004. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Walsh, Bryan (31 May 2004). "A Force to Reckon With". Time. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-17. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jang Dong-gun Voted Korea's Most Bankable Star". The Chosun Ilbo. 20 October 2005. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jeon Ji-hyun Vehicle Aims Straight for the Tear Ducts". The Chosun Ilbo. 19 March 2006. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Jeon Ji-hyun Looks to Confound Critics in Vampire Film". The Chosun Ilbo. 18 May 2009. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Korean Stars Make Beeline for Hollywood". The Chosun Ilbo. 9 July 2009. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jun hypes vampire movie". Korea JoongAng Daily. 5 June 2009. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Yoon, Susan (24 September 2009). "Taking a shot at Hollywood". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Garcia, Cathy Rose A. (5 June 2009). "Jun Ji-hyun Shines but Blood Disappoints". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Frater, Patrick (22 May 2007). "Korean star reborn in Blood: Jun Ji-hyun changes name". Variety. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Mike, Fury (22 January 2010). "Interview with Gianna Jun – Jade Screen". MikeFury.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-03. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Hyo-won (8 January 2008). "Jun, Hwang Become Super Heroes". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Actress Jeon Ji-hyun Making Korean Comeback". The Chosun Ilbo. 28 September 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-07-08. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jun Ji-hyun Cast in Snow Flower". The Korea Times. 7 January 2010. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jeon Ji-hyun to Star in Chinese Movie". The Chosun Ilbo. 5 February 2010. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jun Ji-Hyun Interview at Cannes (By Dispatch)". Soompi. 23 May 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Jeon Ji-hyun Narrates Hollywood Trailer". The Chosun Ilbo. 28 March 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jeon Ji-hyun to feature in July Issue of Vogue". The Chosun Ilbo. 28 March 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Powers, John (28 June 2011). "Eastern Promise: Gianna Jun and Li Bing Bing". Vogue. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-27. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Jin-ho (13 June 2012). "Jun Ji Hyun Talks about Kissing with Kim Soo Hyun for The Thieves". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-29. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Hong, Grace Danbi (5 July 2012). "Jun Ji Hyun is Just Getting Started as an Actress". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-29. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "'The Thieves' Jun Ji Hyun, "A Competition With Kim Hye Soo? I Can't Even Compete With Her Breasts."". Korea Portal. 11 July 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-14. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Hye-ji (11 July 2012). "Jun Ji-hyun "The success of My Sassy Girl gave me both light and shadow"". 10Asia. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Jin-ho (15 July 2012). "Star Dictionary 2.0: Jun Ji Hyun, "My Sassy Girl Was A Sweet Disaster". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Jeon Ji-hyeon satisfied with her role in new movie". The Korea Herald. 23 July 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-02. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Jin-ho (22 July 2012). "Interview: Jun Ji Hyun Invites Everyone Into Her Veil of Secrecy". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Jeon Ji-hyun Gets Back into Groove with The Thieves". The Chosun Ilbo. 4 August 2012. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "The Thieves Emerges as Most Popular Korean Movie". The Chosun Ilbo. 4 October 2012. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Sunwoo, Carla (5 January 2013). "Jun Ji-hyun injured in action scene". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2013-01-09.
- ↑ Oh, Mi-jung (9 January 2013). "Jun Ji Hyun Says She Had to Pretend She was Awkward in Action Scenes for The Berlin File". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-10. สืบค้นเมื่อ 2013-01-09.
- ↑ Lee, Jin-ho (3 February 2013). "Interview: Jun Ji Hyun Says She's Become More Confident Following Her Marriage". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2013-02-04.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Jeong, Ji-won (7 February 2013). "Jun Ji-hyun starts anew". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2013-02-07.
- ↑ Bae, Ji-sook (17 December 2013). "Gianna Jun proves aging is good: Actress to return to small screen with Kim Soo-hyun on My Love from the Star". The Korea Herald. สืบค้นเมื่อ 2014-01-08.
- ↑ Won, Ho-yeon (26 December 2013). "Jun Ji-hyun back on TV, sassier, flashier than ever". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2014-01-08.
- ↑ Chung, Ah-young (2 March 2014). "My Love sparks hallyu sensation". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ 2014-03-04.
- ↑ Chung, Joo-won (27 May 2014). "Song Gang-ho, Jun Ji-hyun get top nods at Baeksang Awards". The Korea Herald. สืบค้นเมื่อ 2014-05-28.
- ↑ Hong, Grace Danbi (28 May 2014). "Jun Ji Hyun and Song Kang Ho Receive Highest Honors at the Baeksang Arts Awards". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-29. สืบค้นเมื่อ 2014-05-28.
- ↑ Jeon, Su-mi (28 May 2014). "Jun Ji Hyun Sends a Love Call to Kim Soo Hyun". enewsWorld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-14. สืบค้นเมื่อ 2014-05-28.
- ↑ Sunwoo, Carla (29 May 2014). "My Love stars sweep Baeksang Arts Awards". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2014-05-29.
- ↑ ""คิมกูรา" บ่นเบื่อการแสดงของ "จวนจีฮุน"". สยามดารา. 20 มกราคม 2557. สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2557. [ลิงก์เสีย]
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ แต่งงาน
- ↑ Sunwoo, Carla (23 March 2012). "Designer talks about actress granddaughter-in-law Jun Ji-hyun". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Cho, Chung-un (13 April 2012). "Actress Jun Ji-hyun ties the knot". The Korea Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-05-20. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Kwon, Mee-yoo (13 April 2012). "Actress Jun ties knot with designer's grandson". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "Today's Photo: April 14, 2012". The Chosun Ilbo. 14 April 2012. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Lee, Jin-ho (14 April 2012). "Jun Ji Hyun Ties Knot With Banker". enewsWorld. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Han, Ah-yeong (14 April 2012). "Jun Jihyun reveals her love story and propose". StarN News. สืบค้นเมื่อ 2012-12-26.
- ↑ "Jeon Ji Hyun marries Choi Jun Hyuk in lavish ceremony". Channel NewsAsia. 16 April 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-07. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ Sunwoo, Carla (20 April 2012). "Jun Ji-hyun to star in wedding pictorial for Elle Asia". Korea JoongAng Daily. สืบค้นเมื่อ 2012-11-18.
- ↑ "จอนจีฮยอน (Jeon Ji Hyun) เผย "ชอบทำอาหาร มักทำอาหารเกาหลีกินเองบ่อย ๆ"". popcornfor2.com. 12 มีนาคม พ.ศ. 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-06-25. สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2557.
- ↑ "Assassination หนังใหม่ยัยตัวร้าย! "จอนจีฮยอน" ร่วมภารกิจลอบสังหาร". ASTV ผู้จัดการออนไลน์. 12 กันยายน พ.ศ. 2557. สืบค้นเมื่อ 5 ตุลาคม 2557. [ลิงก์เสีย]
แหล่งข้อมูลอื่น