ในจิตวิทยา หรือจิตเวชศาสตร์ การสร้างเรื่องจากความจำเสื่อม [ 1] หรือ การกุเหตุความจำเสื่อม [ 2] (อังกฤษ : confabulation มากจากคำในภาษาละติน ที่แปลว่า "การเล่าเรื่อง"[ 3] ) เป็นความปั่นป่วนของความจำที่ปรากฏโดยคำพูดหรือการกระทำที่ไม่ตรงกับประวัติ ภูมิหลัง หรือสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะหลอกลวง[ 4]
การกุเหตุความจำเสื่อมต่างจากการโกหก เพราะไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวง และบุคคลนั้นไม่รู้ว่า ข้อมูลของตนนั้นไม่ตรงกับความจริง[ 5]
แม้ว่า บุคคลนั้นอาจจะแสดงเนื้อความที่ปรากฏอย่างโต้ง ๆ ว่าไม่จริง แต่ว่า เรื่องที่กุขึ้นบางครั้งอาจจะเชื่อมโยงกัน สอดคล้องกัน และไม่มีอะไรแปลก[ 5]
บุคคลที่กุความขึ้นอาจจะมีความจำที่ไม่ถูกต้อง "เริ่มตั้งแต่เป็นความเพี้ยนไปเพียงเล็กน้อย จนถึงเป็นเรื่องกุที่แปลกประหลาด"[ 6]
และมักจะมั่นใจถึงความจำของตน แม้ว่าจะมีหลักฐานที่ขัดแยังกัน[ 7]
เหตุที่ปรากฏของการกุโดยมากมาจากความเสียหายในสมองหรือภาวะสมองเสื่อม เช่นที่เกิดจากโรคพิษสุรา[ 8] (alcoholism) จากหลอดเลือดโป่งพอง หรือจากโรคอัลไซเมอร์
รูปแบบ
การกุเหตุความจำเสื่อมโดยทั่วไปมีสองแบบคือ แบบเกิดขึ้นเอง (spontaneous) หรือแบบมีการชักนำ (provoked)
การกุเหตุความจำเสื่อมแบบเกิดขึ้นเอง (อังกฤษ : spontaneous confabulation ) หรือ การกุเหตุความจำเสื่อมปฐมภูมิ (อังกฤษ : primary confabulation ) ไม่ได้เกิดขึ้นตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น [ 9]
และปรากฏเหมือนกับไม่ได้อยู่ใต้อำนาจจิตใจ[ 10]
การกุแบบเกิดขึ้นเองค่อนข้างจะมีน้อย
และอาจเป็นผลจากการทำงานร่วมกันของพยาธิในสมองกลีบหน้า และภาวะเสียความจำแบบ dissociative[ 11]
และเกิดขึ้นบ่อยในคนไข้ภาวะสมองเสื่อม [ 12]
ส่วน การกุเหตุความจำเสื่อมแบบมีการชักนำ (อังกฤษ : provoked confabulation ) หรือ การกุเหตุความจำเสื่อมแบบชั่วขณะ (อังกฤษ : momentary confabulation ) หรือ การกุเหตุความจำเสื่อมทุติยภูมิ (อังกฤษ : secondary confabulation ) เป็นเรื่องสามัญสำหรับคนไข้มีความจำเสื่อม และเกิดขึ้นบ่อย ๆ ทั้งในภาวะเสียความจำและทั้งในภาวะสมองเสื่อม [ 12]
การกุแบบมีการชักนำจะปรากฏชัดเจนด้วยการทดสอบความจำ[ 9]
การจำแนกการกุเหตุความจำเสื่อมอีกอย่างหนึ่งก็คือแยกเป็นทางวจีกรรม (verbal) และทางกายกรรม (behavioral)
การกุทางวจีกรรมเป็นการกล่าวคำโดยใช้ความจำที่ผิดพลาด และเกิดขึ้นบ่อยกว่า
ในขณะที่การกุทางกายกรรมเกิดขึ้นเมื่อบุคคลนั้นกระทำการโดยใช้ความจำที่ผิดพลาดนั้น[ 10]
ลักษณะ
ความจำที่นำไปสู่การกุมักจะอยู่ในส่วนของระบบความจำเกี่ยวกับอัตชีวประวัติ (autobiographical memory)
ซึ่งชี้ให้เห็นถึงกระบวนการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนที่สามารถเกิดความผิดพลาดขึ้นในช่วงเข้ารหัส (encoding) ช่วงบันทึก (storage) และช่วงระลึกถึง (recall) ความจำอย่างใดอย่างหนึ่ง ช่วงใดช่วงหนึ่งก็ได้[ 7]
การกุเหตุความจำเสื่อมแบบนี้พบได้บ่อยในคนไข้ที่มี Korsakoff's syndrome[ 13] [ 14]
อาการที่เป็นลักษณะเฉพาะ
การกุเหตุความจำเสื่อมมีลักษณะเฉพาะหลายอย่าง
ทั่วไปมักเกิดทางคำพูด แต่เกิดขึ้นได้ด้วยทางการทำท่าทางที่แสดงความหมาย หรือทางการกระทำ
สิ่งที่กุอาจจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับอัตชีวประวัติและเกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับตนอื่น ๆ เช่นประวัติศาสตร์ นิทาน และที่เกี่ยวกับ semantic memory แบบอื่น ๆ
เรื่องที่พูดถึงอาจจะแปลกประหลาดหรือคล้องจองกัน
ประเด็นและรายละเอียดของเรื่องที่พูดอาจจะไม่เป็นความจริง
เรื่องที่พูด มาจากความจำของคนไข้เกี่ยวกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ รวมทั้งความคิดในอดีตและในปัจจุบัน
คนไข้ไม่มีความสำนึกถึงความผิดปกติหรือความไม่สมควรของเรื่องที่พูด และไม่มีความสนใจหรือความวิตกกังวลถ้าบอกความผิดพลาดนั้นต่อคนไข้
คนไข้ไม่มีจุดประสงค์ที่ซ่อนเร้นอะไร ๆ ในการเล่าเรื่องนั้น
บุคลิกของคนไข้อาจจะมีอิทธิพลต่อความพร้อมที่จะกุเรื่อง[ 5]
ดูเพิ่ม
เชิงอรรถและอ้างอิง
↑ "ศัพท์บัญญัติ ๔๐ สาขาวิชา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา" .{{cite web }}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์ )
↑ "ศัพท์บัญญัติอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (คอมพิวเตอร์) รุ่น ๑.๑"
↑ Merriam-Webster Collegiate Dictionary, 11th Edition
↑ Fotopoulou, A., Conway, M. A., & Solms, M. (2007) . "Confabulation: Motivated reality monitoring". Neuropsychologia , 45 (10), 2180-2190.
↑ 5.0 5.1 5.2 Moscovitch M. 1995. "Confabulation". In (Eds. Schacter D.L., Coyle J.T., Fischbach G.D., Mesulum M.M. & Sullivan L.G.), Memory Distortion (pp. 226–251) . Cambridge, MA: Harvard University Press.
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-01-03. สืบค้นเมื่อ 2014-02-20 .
↑ 7.0 7.1 Nalbantian, edited by Suzanne (2010). The memory process : neuroscientific and humanistic perspectives . Cambridge, Mass.: MIT Press. ISBN 978-0-262-01457-1 . ;
↑ ICD-10 F10.2 ความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรมที่เกิดจากการเสพสุรา (แบบติด)
↑ 9.0 9.1 Metcalf, Kasey (1 February 2007). "Models of confabulation: A critical review and a new framework". Cognitive Neuropsychology . 24 (1): 23–47. doi :10.1080/02643290600694901 .
↑ 10.0 10.1 Gilboa, A. (13 April 2006). "Mechanisms of spontaneous confabulations: a strategic retrieval account". Brain . 129 (6): 1399–1414. doi :10.1093/brain/awl093 .
↑ dissociative amnesia หรือ organic amnesia เป็นภาวะเสียความจำที่เกิดจากสภาวะทางจิต ไม่ใช่เกิดจากความเสียหายโดยตรงต่อสมองที่เกิดจากความบาดเจ็บที่ศีรษะ จากการบาดเจ็บที่กาย หรือจากโรค
↑ 12.0 12.1 Kopelman, M.D. Two types of confabulation. J Neurol Neurosurg Psychiatry 1987a; 50: 1482–7.
↑ ICD-10 F10.6 กลุ่มอาการหลงลืมซึ่งเป็นความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรมที่เกิดจากการเสพสุรา
↑ D. Kopelman, Michael. "The Korsakoff Syndrome: Clinical Aspects, Psychology and Treatment" . oxford journals . 44 (2): 148–154. doi :10.1093/alcalc/agn118 . PMID 19151162 . สืบค้นเมื่อ 5 March 2012 .
แหล่งข้อมูลอื่น