การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศแทนซาเนีย โรค COVID-19 สายพันธุ์ไวรัส SARS-CoV-2 สถานที่ แทนซาเนีย ผู้ป่วยต้นปัญหา อารูชา วันแรกปรากฏ 16 มีนาคม พ.ศ. 2563 (4 ปี 8 เดือน 4 สัปดาห์) ผู้ป่วยยืนยันสะสม 509 (14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563) [ 1] หาย 183 (14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563) เสียชีวิต 21 (14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563) เว็บไซต์ของรัฐบาล COVID-19 (ภาษาอังกฤษ)
การระบาดทั่วของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้รับการยืนยันว่าเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศแทนซาเนีย เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563[ 2]
ทางการแทนซาเนียหยุดรายงานตัวเลขผู้ป่วยในเดือนพฤษภาคมหลังจากประธานาธิบดีจอห์น มากูฟูลี กล่าวหาว่าห้องปฏิบัติการรายงานผลบวกปลอม[ 3] ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแทนซาเนียกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่เปิดเผยข้อมูลการติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ได้แก่ เกาหลีเหนือ และเติร์กเมนิสถาน [ 4] [ 5]
ภูมิหลัง
ผู้ป่วย โควิด-19 ใน แทนซาเนีย () เสียชีวิต รักษาหาย ่ป่วยกำลังรักษามี.ค. มี.ค. เม.ย. เม.ย. พ.ค. พ.ค.
15 วันล่าสุด 15 วันล่าสุด
วันที่
# ผู้ป่วย
# ผู้เสียชีวิต
2020-03-16
1 (n.a.)
2020-03-17
1 (=)
2020-03-18
3 (+200%)
2020-03-19
6 (+100%)
⋮
6 (=)
2020-03-22
12 (+100%)
⋮
12 (=)
2020-03-25
13 (+8.3%)
⋮
13 (=)
2020-03-28
14 (+7.7%)
2020-03-29
14 (=)
2020-03-30
19 (+36%)
2020-03-31
19 (=)
2020-04-01
20 (+5.3%)
2020-04-02
20 (=)
2020-04-03
20 (=)
2020-04-04
20 (=)
2020-04-05
22 (+10%)
2020-04-06
24 (+9.1%)
2020-04-07
24 (=)
2020-04-08
25 (+4.2%)
2020-04-09
25 (=)
2020-04-10
32 (+28%)
⋮
32 (=)
2020-04-13
49 (+53%)
2020-04-14
53 (+8.2%)
2020-04-15
88 (+66%)
2020-04-16
94 (+6.8%)
2020-04-17
147 (+56%)
2020-04-18
147 (=)
2020-04-19
170 (+16%)
2020-04-20
254 (+49%)
2020-04-21
254 (=)
2020-04-22
284 (+12%)
2020-04-23
284 (=)
2020-04-24
299 (+5.3%)
⋮
299 (=)
2020-04-29
480 (+61%)
⋮
480 (=)
2020-05-14
509 (+6%)
แหล่งอ้างอิง: ข่าวจากสื่อสารมวลชนและเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุขแทนซาเนีย ดูเพิ่มเติมที่ เส้นเวลา
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจ ของกลุ่มคนในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีนซึ่งมีการรายงานต่อองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562[ 6] [ 7]
อัตราส่วนการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 นั้นต่ำกว่าโรคซาร์ส ในปี พ.ศ. 2546 มาก[ 8] [ 9] แต่การแพร่เชื้อมีมากกว่าอย่างมีนัยโดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดมากอย่างมีนัยสำคัญ[ 8] [ 10]
ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ฟาตมา คารูม (Fatma Karume ) นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังกีดกันไม่ให้ผู้คนไปโรงพยาบาลเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ล้นเกินความสามารถที่จะรองรับ แต่พวกเขาไม่ได้ให้คำแนะนำที่เพียงพอเกี่ยวกับไวรัส คารูมกล่าวว่า: "เมื่อคุณกำลังริดรอนอำนาจประชาชนทั้งประเทศโดยการควบคุมข้อมูลและสร้างความสงสัยว่าพวกเขาควรตอบสนองต่อวิกฤตอย่างไร ผลลัพธ์อาจเป็นหายนะ"[ 11]
ข่าวที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ถูกเซ็นเซอร์ ว่าเป็นข้อมูลที่ผิดหรือบิดเบือนข้อมูล การเผยแพร่ข้อมูลโดยผู้ที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐถูกทำให้เป็นความผิดทางอาญาโดยรัฐบาล[ 12] รัฐบาลเปิดเผยรายชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโควิด-19 และกำหนดให้แหล่งข้อมูลของสื่อทั้งหมดมาจากผู้ที่อยู่ในรายชื่อเท่านั้น บุคคลหลายคนถูกจับกุมและถูกปรับเนื่องจากเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ โควิด-19[ 13] หน่วยงานผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน ได้รายงานถึงการขาดความโปร่งใสและการจำกัดเสรีภาพ[ 14]
เส้นเวลา
มีนาคม พ.ศ. 2563
วันที่ 16 มีนาคม ผู้ป่วยกรณีแรกในแทนซาเนียได้รับการยืนยันในอารูชา [ 15] [ 16] เป็นชาวแทนซาเนียวัย 46 ปีที่เดินทางมาจากเบลเยียม [ 17]
วันที่ 17 มีนาคม นายกรัฐมนตรีคัสซิม มาจาลิวา (Kassim Majaliwa) ได้ประกาศมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการปิดโรงเรียน[ 18]
วันที่ 18 มีนาคม มีรายงานผู้ป่วยอีก 2 รายในแทนซาเนีย[ 19]
วันที่ 19 มีนาคมมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 2 รายรวมเป็นหกราย ห้ารายอยู่ในเมืองหลวงดาร์เอสซาลาม กับอีกรายในแซนซิบาร์[ 20]
วันที่ 22 มีนาคม มีการประกาศว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 12 ราย[ 21]
วันที่ 23 มีนาคม รัฐบาลประกาศว่าผู้เดินทางที่เข้ามาจากประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิดทั้งหมดจะถูกกักบริเวณเป็นเวลา 14 วันโดยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายของตนเอง[ 22]
วันที่ 25 มีนาคม มีการประกาศว่าแซนซิบาร์ พบผู้ป่วยกรณีที่สอง[ 23]
วันที่ 26 มีนาคม มีการประกาศผู้หายจากโควิดเป็นกรณีแรกซึ่งเป็นผู้ป่วยในอารูชา[ 24]
วันที่ 28 มีนาคม มีการรายงานผู้ป่วยรายที่สามในแซนซิบาร์[ 25]
วันที่ 30 มีนาคม มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 5 รายซึ่งรวมถึง 2 รายในแซนซิบาร์และ 3 รายในแทนซาเนียแผ่นดินใหญ่ ทำให้ยอดรวมสะสมเป็น 19 ราย[ 26]
วันที่ 31 มีนาคม มีการรายงานการเสียชีวิตจากโควิดเป็นครั้งแรกในดาร์เอสซาลาม[ 27]
เมษายน พ.ศ. 2563
วันที่ 1 เมษายน มีการรายงานผู้ป่วยใหม่ 1 รายและผู้หายป่วย 1 รายในดาร์เอสซาลามทำให้ยอดรวมสะสมเป็น 20 ราย หายป่วย 2 ราย และเสียชีวิต 1 ราย[ 28]
วันที่ 3 เมษายน มีการรายงานผู้หายป่วยรายที่สามในคาเกรา ทำให้กรณีผู้ป่วยยืนยันมีทั้งหมด 16 ราย[ 29]
วันที่ 5 เมษายน มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 2 รายในแซนซิบาร์[ 30]
วันที่ 6 เมษายน มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่อีก 2 รายในดาร์เอสซาลามและอึมวันซา ทำให้ยอดรวมสะสมเป็น 24 ราย[ 31]
วันที่ 7 เมษายนมีรายงานผู้หายป่วยอีก 2 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยรวมทั้งหมดเป็น 5 ราย[ 32]
วันที่ 8 เมษายน มีการบันทึกกรณีผู้ป่วยใหม่ 1 ราย[ 33] ประธานาธิบดีจอห์น มากูฟูลี เรียกร้องให้ผู้ศรัทธาสวดมนต์ในโบสถ์ และมัสยิด ด้วยความเชื่อว่าจะปกป้องพวกเขา เขาบอกว่าไวรัสโคโรนาเป็นปีศาจดังนั้น "ไม่สามารถอยู่รอดได้ในพระวรกายของพระเยซูคริสต์ มันจะมอดไหม้ไป"[ 34]
วันที่ 10 เมษายน มีการประกาศว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 5 รายบนแผ่นดินใหญ่ ผู้ป่วยรายใหม่บนแซนซิบาร์ 2 ราย และผู้เสียชีวิต 2 รายบนแผ่นดินใหญ่ ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมเป็น 32 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 3 ราย[ 35]
วันที่ 12 เมษายน เที่ยวบินผู้โดยสารระหว่างประเทศทั้งหมดถูกระงับ[ 36]
วันที่ 13 เมษายน มีการประกาศว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 14 รายบนแผ่นดินใหญ่ และ 3 รายใหม่ในแซนซิบาร์ นอกจากนี้ยังมีการรายงานผู้หายป่วย 2 รายในแซนซิบาร์[ 37] [ 38]
วันที่ 14 เมษายน นายกรัฐมนตรีได้แถลงกรณีผู้ป่วยอีก 4 กรณีในดาร์เอสซาลามทำให้ยอดรวมเป็น 53 ราย[ 39]
วันที่ 15 เมษายน ฮาหมัด ราชิด โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของแซนซิบาร์รายงานว่ามีผู้ป่วยอีก 6 ราย มีผู้หายป่วยอีก 2 รายและเสียชีวิตรายแรกในแซนซิบาร์[ 40] ในวันเดียวกันมีการรายงานกรณีใหม่ 29 กรณีบนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ยอดรวมของแทนซาเนียอยู่ที่ 88 ราย โดยมีผู้หายป่วยสะสม 11 ราย และเสียชีวิตสะสม 4 ราย[ 41]
วันที่ 16 เมษายน มีผู้มีผลทดสอบการติดเชื้อเป็นบวกในแซนซิบาร์ 6 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ป่วยเป็น 94 ราย[ 42]
วันที่ 17 เมษายน มีผู้มีผลทดสอบเป็นบวก 53 ราย โดย 38 รายในดาร์เอสซาลาม, 10 รายในแซนซิบาร์, 1 รายในอึมวันซา , 1 รายในปาวานี , 1 รายในลินดี และในคาเกรา 1 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดเป็น 147 รายและเสียชีวิตสะสม 5 ราย[ 43]
วันที่ 19 เมษายน มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 23 รายในแซนซิบาร์ และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย[ 44]
วันที่ 20 เมษายน มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อไวรัสอีก 87 รายรวมถึงชาวแซนซิบาร์ 16 ราย นอกจากนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตรายใหม่ 3 รายบนแผ่นดินใหญ่ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมในแทนซาเนียทั้งหมด 10 ราย[ 45]
วันที่ 22 เมษายน นายกรัฐมนตรีแถลงว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 284 ราย โดยมีผู้หายป่วย 11 ราย และผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 10 ราย[ 46]
วันที่ 24 เมษายน มีผู้หายป่วยเพิ่มขึ้น 37 ราย[ 47] โดยที่มีรายงานผู้ติดเชื้อ 15 รายในแซนซิบาร์[ 48]
วันที่ 28 เมษายน มีผู้มีผลการทดสอบเชื้อเป็นบวกเพิ่ม 7 รายในแซนซิบาร์[ 49]
วันที่ 29 เมษายน มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 196 ราย รวมเป็น 480 รายโดยที่ 167 รายหายป่วย และเสียชีวิต 16 ราย[ 50]
พฤษภาคม พ.ศ. 2563
วันที่ 2 พฤษภาคม ฟรีแมน อึมโบเว (Freeman Mbowe) ผู้นำฝ่ายค้านได้เรียกร้องให้มีการระงับการประชุมรัฐสภาเป็นเวลาอย่างน้อยสามสัปดาห์หลังจากการเสียชีวิตของ ส.ส. 3 คน (Gertrude Rwakatare, Richard Ndassa และ Augustine Mahiga) โดยไม่ทราบสาเหตุในช่วงเวลา 11 วันที่ผ่านมา เขากล่าวโทษว่าการเสียชีวิตเกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 และขอให้มีการทดสอบเชื้อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, เจ้าหน้าที่รัฐสภา และสมาชิกในครอบครัวทั้งหมด[ 51]
วันที่ 4 พฤษภาคม ประธานาธิบดีจอห์น มากูฟูลี ได้สั่งพักงานหัวหน้าหน่วยการทดสอบที่ห้องปฏิบัติการด้านสุขภาพแห่งชาติของแทนซาเนีย และไล่ออกผู้อำนวยการหลังจากห้องปฏิบัติการถูกกล่าวหาว่ารายงานผลการทดสอบเป็นบวกที่ผิดพลาด มากูฟูลี กล่าวว่าเขาจงใจส่งตัวอย่างทางชีวภาพจากมะละกอ , นกกระทา และแพะ เพื่อทดสอบความแม่นยำของห้องปฏิบัติการ ห้องปฏิบัติการวินิจฉัยว่าตัวอย่างเหล่านี้เป็นผลบวกสำหรับไวรัสโคโรนา[ 3]
วันที่ 7 พฤษภาคม มีการประกาศว่าสำหรับแซนซิบาร์ยอดรวมของผู้ป่วยที่บันทึกไว้คือ 134 รายจำนวนผู้หายป่วยสะสมเท่ากับ 16 รายและจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมที่บันทึกไว้คือ 5 ราย โดยผู้ป่วยจำนวน 41 รายรักษาตัวอยู่ในสถานบริการสาธารณสุข และ 72 ราย ดูแลและติดตามที่บ้าน[ 52]
สถานทูตสหรัฐฯในแทนซาเนียออกคำเตือนเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมว่ามีความเสี่ยงในการป่วยโควิด-19 จำกัดในพื้นที่ของดาร์เอสซาลามมีสูงมาก เชื่อว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในอัตราการเพิ่มแบบชี้กำลังในดาร์เอสซาลามและที่อื่น ๆ และคาดว่าโรงพยาบาลจะมีสมรรถภาพในการรักษาไม่เพียงพอ[ 53] ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ท้องถิ่นเอกชนช่องควานซาออนไลน์ ถูกสั่งงดออกอากาศเป็นเวลา 11 เดือนโดยหน่วยงานกำกับดูแล เนื่องจากได้โพสต์คำเตือนของสถานทูตในบัญชีอินสตราแกรม ของตนเอง[ 54]
ทางการแทนซาเนียหยุดรายงานตัวเลขผู้ป่วยในเดือนพฤษภาคม[ 55] [ 56] เมื่อการรายงานหยุดลงจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันอยู่ที่ 509 ราย จำนวนผู้หายจากอาการป่วย 183 ราย และมีผู้เสียชีวิต 21 ราย[ 57]
คนขับรถบรรทุกหลายคนมีผลการทดสอบการติดเชื้อเป็นบวกในบริเวณชายแดนเคนยา และเคนยาได้ปิดพรมแดนสำหรับกรณีการผ่านแดนที่ไม่ใช่สินค้า[ 58] ทั้งสองประเทศตกลงที่จะจัดหาชุดทดสอบการติดเชื้อและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนขับรถบรรทุก[ 59]
วันที่ 21 พฤษภาคม ประธานาธิบดีประกาศว่าวิทยาลัยจะเปิดเรียนอีกครั้งและนักเรียนของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในระบบ 6 โรงเรียนจะกลับเข้าเรียนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน กีฬาจะกลับมาเล่นอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนและเที่ยวบินระหว่างประเทศจะกลับมาดำเนินการต่อโดยไม่มีการกักกันตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม[ 60]
นักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐบาลปกปิดจำนวนที่แท้จริงของการแพร่ระบาดโดยอ้างว่าขณะที่สถิติทางการยังคงแสดงผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 509 รายและผู้เสียชีวิต 21 ราย ได้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 412 รายในดาร์เอสซาลามแห่งเดียวและมีผู้ติดเชื้อ 16,000 ถึง 20,000 คนทั่วประเทศ โดยที่ไม่มีการรายงานผลการทดสอบตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม[ 61]
การขาดข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการทดสอบ, จำนวนผู้ป่วย, ผู้หายป่วย และผู้เสียชีวิต ทำให้เกิดความสนใจจากนักระบาดวิทยา และผู้สร้างแบบจำลองเพื่อประเมินขอบเขตที่แท้จริงของการติดเชื้อโควิด-19 ในแทนซาเนีย โดยคาร์ล เพียร์สัน (Carl AB Pearson) และคณะ ได้ประมาณว่าแทนซาเนียมีผู้ป่วยติดเชื้อ 1,000 รายในช่วงระหว่างวันที่ 6 เมษายนถึง 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 และมีผู้ติดเชื้อ 10,000 รายตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนและไม่เกินวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2563[ 62] ผลการสร้างแบบจำลองที่เผยแพร่โดย MRC Center for Global Infectious Disease Analysis ที่อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน ชี้ให้เห็นว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงในแทนซาเนียระหว่างวันที่ 29 เมษายนถึง 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 คือ 24,869 ราย เพียร์สัน และคณะ คำนวณว่าหลังจากสามเดือนที่ไม่มีมาตรการบรรเทาใด ๆ เกิดขึ้น คาดว่าจะมีผู้ป่วยในแทนซาเนียที่มีอาการระหว่าง 5,900 ถึง 19 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึง 16,000 รายที่เนื่องมาจากโควิด-19[ 63]
มิถุนายน พ.ศ. 2563
วันที่ 8 มิถุนายน ประธานาธิบดีมากูฟูลี ได้ประกาศให้แทนซาเนียปลอดจากไวรัสโคโรนา ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นคำอธิษฐานของพลเมืองของตน[ 64] มีรายงานว่าศูนย์ทดสอบโควิด-19 หลายแห่งปิดตัวลงตามประกาศและผู้ป่วยที่แสดงอาการถูกปฏิเสธการทดสอบเนื่องจากแทนซาเนียไม่มีไวรัส[ 65]
วันที่ 16 มิถุนายน ประธานาธิบดีประกาศว่าโรงเรียนทุกระดับจะเปิดอีกครั้งในวันที่ 29 มิถุนายน[ 66]
กรกฎาคม พ.ศ. 2563
ในเดือนกรกฎาคม รัฐบาลได้ประกาศใช้และเผยแพร่กฎหมายรองฉบับใหม่ที่ให้มีการลงทะเบียนผู้เขียนบล็อก , ฟอรัมสนทนาออนไลน์, ผู้เผยแพร่รายการทางวิทยุและโทรทัศน์ โดยให้การเผยแพร่ "ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรคร้ายแรงหรือโรคติดต่อในประเทศหรือที่อื่นโดยไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" เป็นความผิดตามกฎหมาย[ 67] [ 68]
สิงหาคม พ.ศ. 2563
วันที่ 6 สิงหาคม จอห์น อึนเคนกาซง (John Nkengasong) จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) แสดงความกังวลเกี่ยวกับการขาดข้อมูลจากแทนซาเนียและผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อการพัฒนาและการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ทั่วแอฟริกา[ 69]
ในเดือนสิงหาคม รัฐบาลได้ประกาศใช้และเผยแพร่กฎหมายรองฉบับใหม่ที่ห้ามสื่อท้องถิ่นทั้งหมดออกอากาศเนื้อหาจากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลล่วงหน้า รวมถึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ในแทนซาเนีย[ 70]
ธันวาคม พ.ศ. 2563
ในเดือนธันวาคมมีรายงานว่าผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่โรงพยาบาลอกาข่าน (Aga Khan), โรงพยาบาลศรีฮินดูมัณฑล (Shree Hindu Mandal) และราบินินเซียเมโมเรียล (Rabininsia Memorial) ในดาร์เอสซาลามมีอาการของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา และต่อมามีผลการทดสอบเชื้อเป็นบวก ยิ่งไปกว่านั้นงานศพได้ถูกจัดขึ้นเป็นความลับในเวลากลางคืน และสาเหตุการเสียชีวิตของอดีตประธานาธิบดีเบนจามิน อึมคาปา (Benjamin Mkapa) ไม่ใช่อาการหัวใจวายตามที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการ แต่เกิดจากโควิด-19[ 71]
มกราคม พ.ศ. 2564
ในสัปดาห์แรกของปี 2564 ชาวเดนมาร์ก ที่เดินทางกลับจากแทนซาเนียมีผลทดสอบการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.7 เป็นบวก สถาบันเซรุ่มแห่งเดนมาร์ก ตั้งข้อสังเกตว่าไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ติดเชื้อได้รับเชื้อไวรัสมาจากที่ไหน[ 72] ในวันที่ 19 มกราคมชาวเดนมาร์กอีกสองคนที่เดินทางกลับจากแทนซาเนียมีผลทดสอบเชื้อเป็นบวกสำหรับไวรัสสายพันธุ์ 501.V2 ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันรายที่สองและสามที่ติดเชื้อสายพันธุ์ 501.V2 ในเดนมาร์ก[ 73]
วันที่ 19 มกราคม โรงเรียนนานาชาติโมชิได้ประกาศว่า นักเรียนคนหนึ่งมีผลการทดสอบเชื้อเป็นบวกสำหรับโควิด-19 และได้ถูกแยกกักตัว ในขณะที่ชั้นเรียนของนักเรียนจะสอนทางออนไลน์จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ สองวันต่อมาโรงเรียนออกมาขอโทษสำหรับการออกข้อมูลเท็จและระบุว่าการดำเนินงานของโรงเรียนยังไม่หยุดชะงัก[ 74]
วันที่ 26 มกราคม อาร์ชบิชอปไนซองกา ประธานของการประชุมอิปิสโคปัล แทนซาเนีย ได้ส่งจดหมายถึงอาร์คบิชอป , บาทหลวง และบาทหลวงที่เกษียณแล้ว เตือนให้ระวัง"การติดเชื้อไวรัสโคโรนาระลอกใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้"[ 75]
วันที่ 27 มกราคม ประธานาธิบดีจอห์น มากูฟูลี แสดงความสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ระหว่างการปราศรัยในเมืองชาโต ภูมิภาคเกยตา เขากล่าวว่า “ถ้าชายผิวขาวสามารถฉีดวัคซีนได้ ก็จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ วัณโรค จะกลายเป็นอดีตไปแล้ว วัคซีนป้องกันมาลาเรีย และมะเร็ง จะถูกค้นพบ”[ 76] คำพูดของเขาถูกปฏิเสธโดย มัตชิดิโซ โมเอติ (Matshidiso Moeti) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกในภูมิภาค ที่เรียกร้องให้แทนซาเนียเพิ่มมาตรการด้านสาธารณสุขและการฉีดวัคซีน[ 77] มากูฟูลี ยังปฏิเสธมาตรการปิดกั้นโดยให้เหตุผลในสุนทรพจน์ออกอากาศ: "ข้าพเจ้าไม่คาดหวังว่าจะมีประกาศการปิดกั้นใด ๆ เพราะพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ของเราจะปกป้องเรา เราจะดำเนินมาตรการป้องกันสุขภาพอื่น ๆ ต่อไปรวมถึงการบำบัดด้วยไอน้ำ "[ 4]
วันที่ 31 มกราคม พันธมิตรเพื่อการเปลี่ยนแปลงและความโปร่งใสประกาศว่าประธานและรองประธานคนแรกของแซนซิบาร์ เซอิฟ ชารีฟ ฮาหมัด (Seif Sharif Hamad) พร้อมกับภรรยาของเขาและผู้ช่วยอีกจำนวนหนึ่งได้ติดโควิด-19 และเข้ารักษาในโรงพยาบาล[ 78] [ 79]
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดโรธี กวาจิมา (Dorothy Gwajima) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าแทนซาเนียไม่สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการฉีดวัคซีนแม้จะได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกก็ตาม[ 80] แต่เธอกลับย้ำแนวทางปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่รัฐบาลแนะนำซึ่งรวมถึงการดื่มน้ำปริมาณมากและรับประทานสมุนไพรในท้องถิ่น[ 81]
วันที่ 10 กุมภาพันธ์ สหรัฐเตือนว่าสถานพยาบาลของแทนซาเนียกำลังตกอยู่ในวิกฤตจากการไม่สามารถรองรับปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนมกราคม[ 82]
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ สมาชิกรัฐสภา ซาชาเรีย อิสซาเอ (Zacharia Issaay) แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตเนื่องจากอาการปอดบวม และโรคทางเดินหายใจอื่น ๆ ในเขตเมืองอึมบูลู (Mbulu) ซึ่งเป็นเขคเลือกตั้งของเขา[ 83]
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ มีรายงานว่าโรงพยาบาลใหญ่ในดาร์เอสซาลามเต็มไปด้วยผู้ป่วยที่มีอาการโควิด-19 หน่วยอภิบาลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลเหล่านี้มีผู้ป่วยเต็ม ออกซิเจน และเครื่องช่วยหายใจ ขาดตลาด[ 4]
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ สมาคมแพทย์แห่งแทนซาเนียได้ออกแถลงการณ์เชื่อมโยงการเสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้นกับการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ รวมถึงโควิด-19 คำแถลงดังกล่าวยังกระตุ้นให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทันทีที่พบอาการ[ 84] ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประเทศโอมาน กล่าวว่า ร้อยละ 18 ของผู้เดินทางที่มาจากแทนซาเนียมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งเป็นจำนวนที่เขาระบุว่า"สูงมาก" นอกจากนี้เขายังกล่าวด้วยว่าโอมานกำลังพิจารณาระงับเที่ยวบินจากแทนซาเนีย[ 85]
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ เซอิฟ ชารีฟ ฮาหมัด (Seif Sharif Hamad) รองประธานาธิบดีแซนซิบาร์ วัย 77 ปี เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมเฉียบพลันที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19[ 86] ผู้ช่วยระดับสูงของประธานาธิบดีมากูฟูลี หัวหน้าเลขาธิการจอห์น คิจาซี และเลขานุการทูตตรี ของนามิเบีย ประจำแทนซาเนีย เซลินา ทจฺเฮโร ก็เสียชีวิตในช่วงสัปดาห์เดียวกัน แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้กล่าวว่าพวกเขาติดโควิด-19[ 87]
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ สมาคมกฎหมายแทนกันยีกา ซึ่งเป็นเนติบัณฑิตยสภาแห่งแทนซาเนียแผ่นดินใหญ่ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับการมีการระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศ[ 88]
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ เตโวโดรส อัดฮาโนม (Tedros Adhanom) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ได้เรียกร้องให้แทนซาเนียเริ่มรายงานผู้ป่วยโควิด-19, แบ่งปันข้อมูล, ใช้มาตรการด้านสาธารณสุขที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้ว และเตรียมพร้อมสำหรับการฉีดวัคซีน[ 89]
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ประธานาธิบดีมากูฟูลีเรียกร้องให้แทนซาเนียใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศ กระทรวงสาธารณสุขมีการดำเนินการในวันต่อมาโดยแถลงการณ์ว่า ประชาชนควรใช้ความระมัดระวังรวมถึงการล้างมือ, การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์, ออกกำลังกาย, ปกป้องผู้สูงอายุ และสวมหน้ากากอนามัย [ 90]
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ กระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐเช็ก ประกาศว่านักท่องเที่ยวชาวเช็ก 3 คนที่เดินทางกลับจากแซนซิบาร์ มีผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก โดยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ 501.V2 หรือไม่[ 91] [ 92]
มีนาคม พ.ศ. 2564
วันที่ 3 มีนาคม เลขาธิการทั่วไปของการประชุมอิปิสโคปัลแทนซาเนียกล่าวว่าในช่วงสองเดือนมีบาทหลวงมากกว่า 25 คนและแม่ชี 60 คนเสียชีวิตจากหลายสาเหตุรวมทั้งปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจ[ 93]
วันที่ 10 มีนาคม หนังสือพิมพ์ในเคนยา รายงานว่า ผู้นำชาวแอฟริกัน กำลังเข้ารับการรักษาโควิด-19 ที่โรงพยาบาลในไนโรบี ทำให้เกิดการคาดเดาอย่างกว้างขวางว่าอาจเป็นประธานาธิบดีมากูฟูลี ซึ่งไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์[ 94]
วันที่ 11 มีนาคม มัตชิดิโซ โมเอติ (Matshidiso Moeti) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกในภูมิภาค กล่าวชื่นชมแทนซาเนียสำหรับการดำเนินการเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แต่เรียกร้องให้ปฏิบัติตามขั้นตอนการทดสอบโควิด-19 ที่แนะนำโดยองค์การอนามัยโลก, การกลับสู่ความโปร่งใสและการแบ่งปันข้อมูล รวมทั้งเริ่มต้นการฉีดวัคซีน[ 95]
วันที่ 17 มีนาคม รองประธานาธิบดี ซาเมีย ซูลูฮู ฮัซซัน (Samia Suluhu Hassan) ประกาศว่า ประธานาธิบดีมากูฟูลีเสียชีวิตด้วยโรคแทรกซ้อนทางหัวใจ นักการเมืองฝ่ายค้านอ้างว่าเขาติดโควิด-19[ 96]
เมษายน พ.ศ. 2564
วันที่ 1 เมษายน จอห์น อึนเคนกาซง (John Nkengasong) หัวหน้าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งแอฟริกา (Africa CDC) กล่าวว่ามีการพบสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสที่มีการกลายพันธุ์มากถึง 40 ชนิดในประเทศแองโกลา ในกลุ่มผู้เดินทางจากแทนซาเนีย[ 97]
วันที่ 6 เมษายน ประธานาธิบดี ซาเมีย ซูลูฮู ฮัซซัน ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางจากอดีตประธานาธิบดี โดยเสนอให้มีการประเมินมาตรการของแทนซาเนียในการรับมือกับโควิด-19 ซึ่งเป็นแนวทางที่อิงวิทยาศาสตร์มากขึ้น และการกลับไปเผยแพร่ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ[ 98]
วันที่ 8 เมษายน องค์กร ChangeTanzania เผยแพร่รายงานระหว่างกาลจากการสำรวจออนไลน์ที่จัดทำขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม 2564 โดยผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่ามีผู้ป่วยและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม และสถานการณ์เลวร้ายลงในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์[ 99]
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
↑ "Total Coronavirus Cases in Tanzania" . World Dometers . 2020-04-15.
↑ "Tanzania Confirms First Case of Coronavirus | Voice of America - English" . www.voanews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-13 .
↑ 3.0 3.1 Elliott, Josh K. (6 May 2020). "Tanzanian president blames lab after goat, papaya 'test positive' for coronavirus" . Global News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-09 .
↑ 4.0 4.1 4.2 "Covid-19 Crisis Grows in Tanzania as President Rejects Risks" . Bloomberg News . 2021-02-12.
↑ Rickleton, Christopher (9 April 2020). "Experts doubt isolated Turkmenistan's virus-free 'show' " . CTVNews (ภาษาอังกฤษ).
↑ Elsevier. "Novel Coronavirus Information Center" . Elsevier Connect . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020 .
↑ Reynolds, Matt (4 March 2020). "What is coronavirus and how close is it to becoming a pandemic?" . Wired UK . ISSN 1357-0978 . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2020. สืบค้นเมื่อ 5 March 2020 .
↑ 8.0 8.1 "Crunching the numbers for coronavirus" . Imperial News . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020 .
↑ "High consequence infectious diseases (HCID); Guidance and information about high consequence infectious diseases and their management in England" . GOV.UK (ภาษาอังกฤษ). เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 3 March 2020. สืบค้นเมื่อ 17 March 2020 .
↑ "World Federation Of Societies of Anaesthesiologists – Coronavirus" . www.wfsahq.org . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020 .
↑ "Tanzania says virus defeated through prayer, but fears grow" . Associate Press . 22 May 2020.
↑ Farmer, Ben; Brown, Will; Vasilyeva, Nataliya (5 June 2010). "The 'Ostrich Alliance': Coronavirus and the world leaders embracing denial, quackery and conspiracy" . The Telegraph . สืบค้นเมื่อ 17 March 2021 .
↑ "Tanzania Tramples Digital Rights in Fight Against Covid-19" . cipesa.org . สืบค้นเมื่อ 2020-11-07 .
↑ "Tanzanian media unable to cover Covid-19 epidemic" . Reporters without borders. 5 November 2020. สืบค้นเมื่อ 27 January 2021 .
↑ "Coronavirus Update (Live) - Worldometer" . www.worldometers.info .
↑ "Somalia, Tanzania confirm first coronavirus cases" . Anadolu Agency . 16 March 2020. สืบค้นเมื่อ 17 March 2020 .
↑ "When coronavirus came to Tanzania" . The New Humanitarian (ภาษาอังกฤษ). 2020-03-25. สืบค้นเมื่อ 2020-03-28 .
↑ "Tanzania bans all public gathering, closes schools, suspends the Premier League over Coronavirus" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-10 .
↑ "Coronavirus cases rise to three in Tanzania" . The Citizen . 18 March 2020. สืบค้นเมื่อ 19 March 2020 .
↑
Vidija, Patrick (19 March 2020). "COVID-19: Tanzania traces 112 contacts as cases rise to six" . The Star . สืบค้นเมื่อ 19 March 2020 .
↑ "Covid-19 cases in Tanzania now rise to 12, says President" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "23.03.2020 - Update on COVID-19 in Tanzania" . 23 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2020-04-12. สืบค้นเมื่อ 2021-05-12 .
↑ "Zanzibar confirms second covid-19 case" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "Tanzania first Covid-19 patient recovers" . The East African (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "Zanzibar health minister confirms third covid-19 case" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "VIDEO: Covid-19 cases in Tanzania rise to 19 as five more cases" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "Tanzania records first Covid-19 death" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "Second Tanzanian patient recovers from coronavirus" . The East African (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ Ltd, Tanzania Standard Newspapers. "COVID-19 Response: US gives 2.3bn/-, patient recovers" . dailynews.co.tz (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2020-04-12. สืบค้นเมื่อ 2020-04-06 .
↑ "Coronavirus disease (COVID-19) situation report 77" (PDF) . World Health Organization. 6 April 2020. p. 7. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020 .
↑ "Tanzania's coronavirus cases rise to 24" . The East African (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-10 .
↑ "Tanzania records two more Covid-19 recoveries" . The East African (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-10 .
↑ "Coronavirus disease (COVID-19) situation report 80" (PDF) . World Health Organization. 9 April 2020. p. 7. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020 .
↑ Nicholas Bariyo; Joe Parkinson (8 April 2020). "Tanzania's Leader Urges People to Worship in Throngs Against Coronavirus" . The Wall Street Journal .
↑ "Tanzania records two more deaths as Covid-19 cases rise to 32" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-10 .
↑ TanzaniaSpokesperson (2020-04-12). "The Tanzania Civil Aviation Authority has suspended all international scheduled and chartered passenger planes to Tanzania as a new measure to combat Covid-19. Cargo planes will be allowed in but crew memvers will be quarantined for the whole duration of their stay, at own costspic.twitter.com/r6FEy9GMmg" . @tzspokesperson (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-26 .
↑ "Tanzania's Covid-19 cases rise to 46" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-14 .
↑ "Zanzibar cases of Covid-19 infection reach 12" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-15 .
↑ "Coronavirus disease (COVID-19) situation report 86" (PDF) . World Health Organization. 15 April 2020. p. 8. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020 .
↑ "Zanzibar records first death as cases of Covid-19 infection reach 18" . The Citizen . April 15, 2020.
↑ "Tanzania Covid-19 cases jump to 88 as 29 more test positive in two days" . The Citizen . April 15, 2020.
↑ "Six more test positive in Zanzibar as Covid-19 cases reach 24" . The Citizen . April 16, 2020.
↑ "Covid-19: Tanzania's cases jump to 147 after 53 test positive" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-17 .
↑ "Covid-19: Two dead as Zanzibar records 23 more cases" . The Citizen . April 19, 2020.
↑ "Covid-19: Tanzania records 84 new cases as death toll reaches 10" . The Citizen . April 20, 2020.
↑ "Covid-19: Tanzania's cases rise to 284 with 30 new patients" .
↑ "Covid-19: Tanzania records 37 new recoveries" . The East African . April 24, 2020.
↑ "Zanzibar adds 15 more cases, taking tally to 299" . IPP Media . April 25, 2020.
↑ "Covid-19: Zanzibar's cases rise to 105 after 7 test positive" . The Citizen . April 28, 2020.
↑ "Coronavirus disease (COVID-19) situation report 101" (PDF) . World Health Organization. 30 April 2020. p. 8. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020 .
↑ "Tanzania opposition MPs to boycott Parliament after 3 MPs die" . Al Jazeera. 2 May 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 3 May 2020.
↑ "Covid-19: Zanzibar cases rise to 134 after 29 test positive" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-13 .
↑ "Health Alert: U.S. Embassy Dar es Salaam" . U.S. Embassy in Tanzania. 13 May 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2020-07-12. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020 .
↑ "Tanzania bans Kwanza Online TV for 11 months citing 'misleading' Instagram post on COVID-19" . Committee to Protect Journalists. 9 July 2020. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021 .
↑ "Tanzanian doctors sound alarm over hidden coronavirus cases" . The New Humanitarian (ภาษาอังกฤษ). 14 May 2020. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 May 2020.
↑ "Tanzania opposition angry over no coronavirus update in two weeks" . www.aljazeera.com (ภาษาอังกฤษ). 13 May 2020. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 May 2020.
↑ "Coronavirus disease (COVID-19) situation report 133" (PDF) . World Health Organization. 1 June 2020. p. 7. สืบค้นเมื่อ 7 July 2020 .
↑ "Tanzania Says COVID-19 Defeated With Prayer Despite Fears" . Time Magazine (ภาษาอังกฤษ). 22 May 2020. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 May 2020.
↑ "Tanzania, Kenya resolve dispute over COVID-19 tests for cross-border truck drivers" . MarketWatch . 22 May 2020. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 22 May 2020.
↑ "Tanzania reopens colleges, sports activities as Covid-19 numbers" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-26 .
↑ Fabricius, Peter (2020-05-27). "CORONAVIRUS: Is the Tanzanian government hiding true coronavirus stats?" . Daily Maverick (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-28 .
↑ Pearson Carl AB; Van Schalkwyk Cari; Foss Anna M; O'Reilly Kathleen M; SACEMA Modelling and Analysis Response Team; CMMID COVID-19 working group; Pulliam Juliet RC (7 May 2020). "Projected early spread of COVID-19 in Africa through 1 June 2020" . Euro Surveill . European Centre for Disease Prevention and Control. 25 (18). doi :10.2807/1560-7917.ES.2020.25.18.2000543 . ISSN 1560-7917 . OCLC 474084452 . PMC 7219031 . PMID 32400361 .
↑ Pearson Carl A.B.; Van Zandvoort Kevin; Jarvis Chris I.; Davies Nicolas G.; Thompson Sam; Checchi Francesco; Jit Mark; Eggo Rosalind M. (16 June 2020). "Modelling projections for COVID-19 epidemic in United Republic of Tanzania" . สืบค้นเมื่อ 13 July 2020 .
↑ "Coronavirus: John Magufuli declares Tanzania free of Covid-19" . BBC . 8 June 2020.
↑ "Muddled messaging around COVID-19 complicates response in Tanzania" . Devex . 21 July 2020. สืบค้นเมื่อ 30 July 2020 .
↑ "President Magufuli orders Secondary and Primary schools to re-open" . The Citizen (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-06-22 .
↑ "Government notice No 538" . Gazette of the United Republic of Tanzania . 101 (29): 18. 17 July 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-05-05. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021 .
↑ "In Tanzania, full-throttle COVID-19 denial leaves citizens without access to public health information" . Global Voices. 26 January 2021. สืบค้นเมื่อ 27 January 2021 .
↑ "Africa CDC concerned over Tanzania's virus response" . Face of Malawi. 7 August 2020. สืบค้นเมื่อ 23 November 2020 .
↑ "Crackdown on free press intensifies in Tanzania" . The Standard. 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021 .
↑ Kilaye, Athuman (14 December 2020). "Fresh Corona fears hit "Covid-free" Tanzania" . Sauti Kubwa . สืบค้นเมื่อ 30 December 2020 .
↑ "Status for udvikling af B.1.1.7 i Danmark d. 15. januar 2021" (ภาษาเดนมาร์ก). SSI. 16 January 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-01-16. สืบค้นเมื่อ 26 January 2021 .
↑ "Status for udvikling af B.1.1.7 og andre mere smitsomme varianter i Danmark" (ภาษาเดนมาร์ก). SSI. 24 January 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-01-24. สืบค้นเมื่อ 26 January 2021 .
↑ "Kilimanjaro RC refutes claims of a student testing positive for Covid 19 at ISM" . The Citizen . 22 January 2021. สืบค้นเมื่อ 22 January 2021 .[ลิงก์เสีย ]
↑ "Tanzania government calls for Covid-19 calm as Catholic bishops cautions its faithful" . The Citizen . 27 January 2021. สืบค้นเมื่อ 27 January 2021 .[ลิงก์เสีย ]
↑ "Tanzania's president expresses doubts about COVID vaccines" . AP NEWS . 27 January 2021. สืบค้นเมื่อ January 27, 2021 .
↑ "WHO tells Tanzania to follow science after Magufuli claims Covid-19 vaccines are dangerous" . IOL . 28 January 2021. สืบค้นเมื่อ 3 February 2021 .
↑ Kassala, Vincent (31 January 2021). "TAARIFA KWA UMMA Maalim Seif Apumzishwa Baada ya Kupata Maambukizi ya Covid 19" (ภาษาสวาฮีลี). ACT Wazalendo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-03-01. สืบค้นเมื่อ 1 February 2021 .
↑ Makoye, Kizito (31 January 2021). "Zanzibar's first vice president, wife contract virus" . Anadolu Agency. สืบค้นเมื่อ 1 February 2021 .
↑ "Covid-19: Tanzania has no vaccination plan, minister says" . news.yahoo.com . BBC News. February 2, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-02-03. สืบค้นเมื่อ February 2, 2021 .
↑ Covid cases surging in Tanzania, says US embassy as government downplays virus , cnn.com, 11.02.2021
↑ "Tanzania experiencing surge in COVID-19 cases, says U.S." news.yahoo.com . Reuters. February 10, 2021. สืบค้นเมื่อ February 10, 2021 .
↑ Chidawali, Habel (11 February 2021). "CCM lawmaker speaks about "pneumonia" killing Tanzanians" . The Citizen. สืบค้นเมื่อ 11 February 2021 . [ลิงก์เสีย ]
↑ Mosenda, Jacob (16 February 2021). "Tanzania medical practitioners wade into rising respiratory concerns in the country" . The Citizen. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-05-12. สืบค้นเมื่อ 17 February 2021 .
↑ Al Musalmy, Shaddad (2021-02-16). "Tanzania in focus as Oman mulls halting flights from certain places" . Muscat Daily .
↑ "Zanzibar's vice president dies after suffering Covid" . news.yahoo.com . AFP. February 17, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-03-30. สืบค้นเมื่อ February 17, 2021 .
↑ "Tanzania still in denial about Covid-19 existence despite surge in cases" . Africa News . February 19, 2021. สืบค้นเมื่อ February 20, 2021 .
↑ Mseta, Salima (18 February 2021). "Tamko la TLS Juu ya Wimbi la Pili la Mlipuko wa Ugonjwa wa Korona" (ภาษาสวาฮีลี). Tanganyika Law Society. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-05-12. สืบค้นเมื่อ 20 February 2021 .
↑ "WHO Director-General's statement on Tanzania and COVID-19" . World Health Organization. 20 February 2021. สืบค้นเมื่อ 21 February 2021 .
↑ Owere, Paul (22 February 2021). "Tanzania's Ministry of health now urges precaution against Covid-19" . The Citizen . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-05-12. สืบค้นเมื่อ 24 February 2021 .
↑ "U tří lidí máme podezření na jihoafrickou mutaci koronaviru, oznámil Blatný. Vrátili se ze Zanzibaru" . iROZHLAS (ภาษาเช็ก). สืบค้นเมื่อ 2021-02-23 .
↑ "Sedm podezření na nakažlivější jihoafrickou mutaci koronaviru zaznamenali hygienici v Praze a Brně | Domov" . Lidovky.cz (ภาษาเช็ก). 2021-02-23. สืบค้นเมื่อ 2021-02-23 .
↑ "Over 25 priests, 60 nuns have died in 60 days, says TEC" . The Citizen. 3 March 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-05-12. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021 .
↑ Lewis, David; Miriri, Duncan (10 March 2021). "Where's Magufuli? Tanzanian leader's absence fuels health concern" . Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-03-10. สืบค้นเมื่อ 10 March 2021 .
↑ Kalumbia, Louis (12 March 2021). "WHO praises Tanzania's new position on Covid-19" . The Citizen. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2021-05-12. สืบค้นเมื่อ 13 March 2021 .
↑ "John Magufuli: Tanzania's president dies aged 61 after health rumours" . BBC News (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 2021-03-17. สืบค้นเมื่อ 2021-03-17 .
↑ "Nieuwe coronavariant ontdekt in Afrika" . demorgen.be (ภาษาดัตช์). 2021-04-01. สืบค้นเมื่อ 2021-04-01 .
↑ Jerving, Sara (2021-04-06). "In Brief: Tanzania rethinks its approach to COVID-19" . Devex. สืบค้นเมื่อ 2021-04-11 .
↑ Mwai, Peter; Giles, Christopher (2021-03-17). "Covid: Does Tanzania have a hidden epidemic?" . BBC. สืบค้นเมื่อ 2021-04-13 .
แหล่งข้อมูลอื่น
สถาบัน
ศูนย์ควบคุม และป้องกันโรค โรงพยาบาล และสิ่งเกี่ยวข้อง องค์กร
บุคคล
แพทย์ผู้นำ การปฏิบัติ นักวิจัย เจ้าหน้าที่ จีน อิตาลี สหราชอาณาจักร สหรัฐ
อื่น ๆ ผู้เสียชีวิต
ข้อมูล (แม่แบบ)
ทั่วโลก แอฟริกา เอเชีย ยุโรป (แผนภูมิ )อเมริกาเหนือ โอเชียเนีย อเมริกาใต้