กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อังกฤษ: Protection and Crowds Control Division) เป็นหน่วยงานในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มมวลชน พร้อมกับการถวายความปลอดภัยแด่องค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และอารักขาบุคคลสำคัญตามแต่ละโอกาส มีหน่วยงานอยู่ในสังกัด 4 กองกำกับการ กองบังคับการก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ผู้บังคับการกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนคนปัจจุบัน คือ พลตำรวจตรี ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ
ประวัติ
กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เป็นกองบังคับการในสังกัดของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552 ตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552 มีภารกิจควบคุมฝูงชน พร้อมกับการถวายความปลอดภัยแด่องค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และอารักขาบุคคลสำคัญ[1]
ปฏิบัติการ
กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ในส่วนของกองกำกับควบคุมฝูงชน 1 และ 2 ได้ปฏิบัติภารกิจในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเมืองต่าง ๆ ทั้งการใช้กำลังของหน่วยเอง และสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร้องขอกำลังจากตำรวจภูธร[2] และตำรวจตระเวนชายแดน[3] ในด้านการบังคับบัญชา และการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 มีการจัดกำลังเพื่อควบคุมฝูงชนทั่วกรุงเทพมหานคร ในการชุมนุมที่แยกผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 มีการใช้อาวุธปืน และลูกระเบิดเอ็ม 79 ส่งผลให้ตำรวจที่เข้ามาเพื่อควบคุมพื้นที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากการใช้ความรุนแรงในครั้งนั้น[4][5]
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564
การประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2564 มีการตรึงกำลังเป็นรายวันทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ในการชุมนุมที่แยกปทุมวัน ได้เกิดการสลายการชุมนุมขึ้น ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน และมีผู้ถูกจับกุมกว่า 100 คน จากการใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงผสมสารแก๊สน้ำตา[6]
ในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม พ.ศ. 2564 มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการยกระดับการใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ซึ่งมีตำรวจสังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนเป็นกำลังหลักในการใช้อาวุธ คือกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการปฏิบัติหน้าที่[7]
ในการชุมนุมวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ส.ต.ต.เดชวิทย์ เล็ทเทนสัน ผบ.หมู่ กองกำกับการอารักขา 1 กองบังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน (บก.อคฝ.) ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ทะลุหมวกกันน็อคได้รับบาดเจ็บสาหัส[8]ภายในซอยดินแดง 1 ขณะปฏิบัติงานบริเวณแยกดินแดงโดยกล่าวหาว่ากระสุนมาจากฝั่งผู้ชุมนุม ในขณะที่ผู้ชุมนุมถูกจับกุมทั้งสิ้น 73 คน เป็นเยาวชน 21 คน และผู้ใหญ่ 52 คน[8] โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าจะออกหมายจับผู้ก่อเหตุการยิงเจ้าหน้าที่ดังกล่าว[9]
ในขณะที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลออกประกาศผู้ชนะการเสนอราคาจ้างซ่อมแซมรถฉีดน้ำแรงดันสูง จำนวน 5 คัน ซึ่งถูกทำลายได้รับความเสียหายจากการชุมนุมในระหว่างปี 2563 - 2564 ความเสียหายมูลค่าสูงกว่า 30 ล้านบาท[10]
ภารกิจ
- ถวายอารักขา สำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ
- รักษาความปลอดภัยผู้แทนพระองค์ บุคคลสำคัญ
- รักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มมวลชนต่าง ๆ
- สนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
- กองกำกับการอำนวยการและสนับสนุน
- กองกำกับการอารักขา 1
- กองกำกับการอารักขา 2
- กองกำกับการควบคุมฝูงชน 1
- กองกำกับการควบคุมฝูงชน 2
ยุทโธปกรณ์
อาวุธปืน
รุ่น
|
ภาพ
|
ประเภท
|
ที่มา
|
หมายเหตุ
|
อ้างอิง
|
เอฟเอ็น 303
|
|
ปืนปราบจลาจล
|
เบลเยียม
|
พบใช้งานครั้งแรกช่วงกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2564[12]
|
[13]
|
รถยนต์
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|
---|
กองบังคับการตำรวจ | | |
---|
กองบังคับการ | |
---|
หน่วยขึ้นตรง | |
---|
หน่วยปฏิบัติการพิเศษ | |
---|
|