กรดซอร์บิก
|
|
ชื่อ
|
IUPAC name
(2E,4E)-hexa-2,4-dienoic acid
|
เลขทะเบียน
|
|
|
|
|
ChEBI
|
|
ChEMBL
|
|
เคมสไปเดอร์
|
|
ECHA InfoCard
|
100.003.427
|
เลขอี
|
E200 (preservatives)
|
|
|
UNII
|
|
|
|
InChI=1S/C6H8O2/c1-2-3-4-5-6(7)8/h2-5H,1H3,(H,7,8)/b3-2+,5-4+ YKey: WSWCOQWTEOXDQX-MQQKCMAXSA-N YInChI=1/C6H8O2/c1-2-3-4-5-6(7)8/h2-5H,1H3,(H,7,8)/b3-2+,5-4+ Key: WSWCOQWTEOXDQX-MQQKCMAXBN
|
|
คุณสมบัติ
|
|
C6H8O2
|
มวลโมเลกุล
|
112.128 g·mol−1
|
จุดหลอมเหลว
|
135 องศาเซลเซียส (275 องศาฟาเรนไฮต์; 408 เคลวิน)
|
จุดเดือด
|
228 องศาเซลเซียส (442 องศาฟาเรนไฮต์; 501 เคลวิน)
|
pKa
|
4.76 ที่ 25 °C
|
ความอันตราย
|
NFPA 704 (fire diamond)
|
|
|
Chemical compound
กรดซอร์บิก (อังกฤษ: sorbic acid) หรือ 2,4-กรดเฮกซะไดอีโนอิก (2,4-hexadienoic acid) เป็นสารประกอบอินทรีย์ในธรรมชาติ มีสูตรเคมีคือ C6H8O2 เป็นของแข็งไม่มีสี ละลายในน้ำและระเหิดได้เร็ว
การผลิต
แต่เดิมกรดซอร์บิกได้จากการควบแน่นของกรดมาโลนิกและทรานส์-บูเทนอล แต่วิธีในเชิงพาณิชย์จะใช้การทำปฏิกิริยาระหว่างอัลลีลคลอไรด์ อะเซทิลีนและคาร์บอนมอนอกไซด์ ประมาณการกันว่ามีการผลิตกรดซอร์บิก 30,000 ตันต่อปี[1]
ประวัติ
ในปี ค.ศ. 1859 เอากุสท์ วิลเฮล์ม ฟอน ฮอฟมันน์ นักเคมีชาวเยอรมัน ได้สกัดกรดซอร์บิกจากการกลั่นน้ำมันของผลต้นโรแวน[2] (Sorbus aucuparia) ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 1930-1940 มีการค้นพบว่ากรดซอร์บิกมีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงมีการนำมาซื้อขายในเวลาต่อมา จนถึงทศวรรษที่ 1980 มีการใช้กรดซอร์บิกในการยับยั้งเชื้อ Clostridium botulinum ในเนื้อสัตว์แทนไนเตรต ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง[3]
คุณสมบัติและการใช้
กรดซอร์บิกมีค่า pKa เท่ากับ 4.76 มีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงนิยมใช้เป็นวัตถุกันเสียในอาหาร[4] โดยใช้ในรูปของเกลือ เพราะละลายน้ำได้ดีกว่า เนื่องจากค่า pH ที่เหมาะสำหรับการต้านจุลินทรีย์คือ ต่ำกว่า pH 6.5 จึงมีการใช้กรดซอร์บิกที่ความเข้มข้น 0.025% ถึง 0.10%
กรดซอร์บิกมีเลขอี:
นอกจากนี้ ยังมีการใช้กรดซอร์บิกในอุตสาหกรรมยาง และเป็นสารมัธยันตร์ในการผลิตพลาสติกและสารหล่อลื่น
ความปลอดภัย
กรดซอร์บิกมีค่า LD50 ระหว่าง 10-7.4 กรัม/กิโลกรัม ซึ่งถือว่าสูง กรดซอร์บิกเป็นสารที่ไม่เสถียรและสลายตัวในดินได้เร็ว อย่างไรก็ตาม กรดซอร์บิกถือเป็นสารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม[1]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น