เรือหลวงนราธิวาส

เรือหลวงนราธิวาส (OPV-512) ระหว่างกิจกรรมทางเรือนานาชาติ “มิลาน 2018”
ประวัติ
ประเทศไทย
ชื่อเรือหลวงนราธิวาส
ตั้งชื่อตามจังหวัดนราธิวาส
ผู้ให้บริการราชนาวีไทย
อู่เรือหูตง-จงหัว ชิปบิลดิง, เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน
เข้าประจำการ6 เมษายน พ.ศ. 2549
รหัสระบุ
คำขวัญ
  • ฝ่าฝันไปด้วยกัน ยึดมั่นสามัคคี
  • Work Together Hold on Unity
สถานะอยู่ในประจำการ
สัญลักษณ์
ลักษณะเฉพาะ
ชั้น: เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้นนราธิวาส
ขนาด (ระวางขับน้ำ): บรรทุกสูงสุด 1,440 ลองตัน (1,460 ตัน)
ความยาว: 94.5 เมตร (310 ฟุต 0 นิ้ว)
ความกว้าง: 11.8 เมตร (38 ฟุต 9 นิ้ว)
กินน้ำลึก: 3.3 เมตร (10 ฟุต 10 นิ้ว)
ระบบขับเคลื่อน: 2 × รัสตัน16 อาร์เค 270 เครื่องยนต์ดีเซล, ขับสองเพลาด้วยใบพัดที่สามารถควบคุมได้
ความเร็ว: 25 นอต (46 กิโลเมตรต่อชั่วโมง; 29 ไมล์ต่อชั่วโมง)
พิสัยเชื้อเพลิง: 3,500 nmi (6,500 km; 4,000 mi) ที่ 15 kn (28 km/h; 17 mph)
อัตราเต็มที่: 84 นาย
ระบบตรวจการและปฏิบัติการ:
  • 1 × เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ แบบ ซ้าบ Sea Giraffe 1X
  • 1 × เซเลกซ์ แรน-30เอกซ์/เรดาร์ตรวจจับไอมัลติโหมดร่วมกับไอเอฟเอฟ
  • 1 × เรดาร์ควบคุมการยิง เออร์ลิคอน ทีเอ็มเอกซ์/อีโอ และออปโทรนิกควบคุมการยิง
  • 3 × เรย์เธียน เรดาร์เดินเรือซุทซ์เอ็นเอสซี-25 ซีสเกาต์
  • ระบบการต่อสู้: อัทลัสเอเลคโทรนิค ระบบอำนวยการรบโคซิส
  • 1 × ระบบอำนวยการรบแบบ Catiz
  • 1 × ระบบควบคุมการยิงแบบ STIR 1.2 EO Mk.2
  • ระบบนำทาง: เรย์เธียน อันซุทซ์ไอบีเอส/ไอเอ็นเอส เอ็นเอสซี-ซีรีส์
  • ระบบการสื่อสาร: โรเดอุนท์ชวาตส์ ระบบการสื่อสารแบบบูรณาการ
สงครามอิเล็กทรอนิกส์และเป้าลวง: 1 × ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ Vigile 100S Mk.2
ยุทโธปกรณ์:
อุปกรณ์สนับสนุนการบิน: 1 × ดาดฟ้าบิน

เรือหลวงนราธิวาส (OPV-512) (อังกฤษ: HTMS Narathiwat) เป็นเรือลำที่สองในเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานี สังกัดกองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ [2]กองทัพเรือไทย

ประวัติ

กองทัพเรือไทยได้เสนอโครงการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งจำนวน 2 ลำต่อกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2542 โดยจัดหาเรือจากประเทศจีนด้วยการว่าจ้าง บริษัทไซน่าชิป บิวดิ้ง เทรดดิ้ง จำกัด ในลักษณะระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลจีน งบประมาณผูกพันข้ามปีระหว่างปี พ.ศ. 2545 - 2549 วงเงิน 3,200 ล้านบาท[3] เพื่อตอบสนองภารกิจในการปกป้องอธิปไตย และป้องกันการกระทำผิดทางทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้ประสบปัญหาขาดเรือสำหรับปฏิบัติการไกลจากชายฝั่งซึ่งต้องเป็นเรือขนาดใหญ่และทนทะเลสูง ขณะที่เรือที่มีศักยภาพดังกล่าวคือเรือฟริเกตก็เป็นเรือที่ออกแบบมาสำหรับการรบเป็นหลัก ทำให้มีการใช้กำลังพลและอัตราอาวุธขนาดหนัก ส่งผลให้สิ้นเปลืองการส่งกำลังบำรุงในการปฏิบัติการ กองทัพเรือจึงได้จัดหารเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งเข้ามาปฏิบัติการจำนวน 2 ลำ และมีขนาดใกล้เคียงกับเรือฟริเกต โดยเรือที่จัดหามานี้ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เรือหลวงปัตตานี (OPV-511) และเรือหลวงนราธิวาส (OPV-512)[4]

เรือหลวงนราธิวาส ต่อขึ้นในลักษณะต่อตัวเรือทั้งหมดที่ประเทศจีน พร้อมทั้งติดตั้งระบบอิเล็คทรอนิกส์ต่าง ๆ บนเรือเป็นระบบของประเทศตะวันตก จากนั้นได้นำเรือเปล่าแล่นกลับมาที่ประเทศไทยเพื่อติดระบบอาวุธและระบบอำนวยการรบ[3]

เรือหลวงนราธิวาส ขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2549[3] และมีพิธีต้อนรับเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก วิชัย ยุวนางกูร รองผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธีต้อนรับเรือ[4]

ในปี พ.ศ. 2567 กองทัพเรือได้มีแผนที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเรือหลวงนราธิวาส วงเงินงบประมาณ 2,750 ล้านบาท ประกอบไปด้วย เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ แบบ ซ้าบ Sea Giraffe 1X ระบบอำนวยการรบแบบ Catiz ระบบควบคุมการยิงแบบ STIR 1.2 EO Mk.2 และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ Vigile 100S Mk.2[5]

การออกแบบ

เรือหลวงนราธิวาส มีหมายเลขตัวเรือคือ 512 ต่อโดย หูตง-จงหัว ชิปบิลดิง เซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีคุณลักษณะตัวเรือ ความยาวตลอดลำเรือ 94.50 เมตร ความกว้างเรือ 11.80 เมตร เรือกินน้ำลึก 3.30 เมตร ทำความเร็วสูงสุด 25 นอต มีระวางขับน้ำสูงสุด 1,635 ตัน เรือมีระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,500 ไมล์ มีความคงทนทะเล ได้ถึงสภาวะทะเลระดับ 5 สามารถปฏิบัติการต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 20 วัน มีกำลังพลประจำเรือ 84 นาย เรือมีดาดฟ้าบินรับเฮลิคอปเตอร์น้ำหนักได้ 7 ตัน พร้อมด้วยอากาศยานประจำเรือ แบบ Super Lynx 300

ระบบตรวจการและปฏิบัติการ

  • เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติ แบบ ซ้าบ Sea Giraffe 1X[5]
  • เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำแบบ Selex RAN-30 X/I หรือ Leonardo[6]
  • เรดาร์ทางยุทธวิธีแบบ LPI
  • เรดาร์และออปโทรนิกส์สำหรับควบคุมการยิงแบบ เออร์ลิคอน TMX/EO[6]
  • เรดาร์เดินเรือแบบ X Band
  • เรดาร์เดินเรือแบบ S Band
  • ระบบกล้องตรวจการณ์ 1 ระบบ
  • ระบบสื่อสารแบบระบบรวมการสื่อสาร 1 ระบบ ของบริษัท Rohde & Schwarz
  • ระบบอำนวยการรบแบบ Catiz[5]
  • ระบบควบคุมการยิงแบบ STIR 1.2 EO Mk.2[5]
  • ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ Vigile 100S Mk.2[5]

ระบบอาวุธเรือประกอบไปด้วย

  • ปืนหลักแบบ OTO Melara 76/62 มม. Super Rapid Fire จำนวน 1 กระบอก[7]
  • ปืนกลขนาด 20 มิลลิเมตรแบบ Oerlikon GAM-C01 จำนวน 2 กระบอก
  • ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 2 กระบอก

ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย คือ

  • เครื่องจักรใหญ่แบบ รัสตัน 16 อาร์เค 270 ดีเซล จำนวน 2 เครื่อง[6]
  • ใบจักร แบบ CPP 2 พวง
  • เครื่องไฟฟ้า จำนวน 4 เครื่อง

อ้างอิง

  1. https://www.myshiptracking.com/vessels/htmsnarathiwat-512-mmsi-567043500-imo-0
  2. "ทัพเรือภาคที่ ๑ จัด เรือหลวงนราธิวาส กองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ เป็นหน่วยเรือเดินทางเยือนเมืองท่าโฮจิมินห์". www.navy.mi.th (ภาษาอังกฤษ).
  3. 3.0 3.1 3.2 "เรือหลวงนราธิวาส – Seafarer Library" (ภาษาอังกฤษ).
  4. 4.0 4.1 "กองทัพเรือจัดพิธีต้อนรับเรือหลวงนราธิวาส". ryt9.com.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 ""กองทัพเรือ" ยันเลือกของดี มาตรฐานยุโรป อัพเกรด "รล.ปัตตานี-รล.นราธิวาส" งบฯ 2,750 ล้าน". สยามรัฐ. 2024-09-02.
  6. 6.0 6.1 6.2 "คาดการณ์การปรับปรุงเรือชุดเรือหลวงปัตตานีในปีงบประมาณ 2565 งบ 3 พันล้านบาท". thaiarmedforce. 2021-02-13.
  7. "คาดการณ์การปรับปรุงเรือชุดเรือหลวงปัตตานีในปีงบประมาณ 2565 งบ 3 พันล้านบาท". thaiarmedforce. 2021-02-13.

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!