กระดาษสีบนสุสานในช่วงเทศกาลเช็งเม้ง, สุสานบูกิตบราวน์, สิงคโปร์
ชิงหมิง (จีนตัวย่อ : 清明节 ; จีนตัวเต็ม : 清明節 ; พินอิน : Qīngmíng jié ) หรือ เช็งเม้ง, เชงเม้ง (ตามสำเนียงแต้จิ๋ว ) หรือ "เฉ่งเบ๋ง " (ในสำเนียงภาษาฮกเกี้ยน ) "เช็ง" หรือ "เฉ่ง" หมายถึง สะอาด บริสุทธิ์ และ "เม้ง"หรือ"เบ๋ง" หมายถึง สว่าง รวมแล้วหมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์ เป็นเทศกาลจีนของผู้ที่มีเชื้อสายจีน ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม เทศกาลใบไม้ผลินี้[ 2] [ 3] มักอยู่ในวันแรกของสารท ที่ 5 (มีอีกชื่อว่าชิงหมิง ) ในปฏิทินสุริยจันทรคติ จีนดั้งเดิม ทำให้ตรงกับวันที่ 15 หลังวิษุวัตมีนาคม ซึ่งอยู่ในช่วงวันที่ 4 5 หรือ 6 เมษายนในปีหนึ่ง[ 4] [ 5] [ 6] ในวันชิงหมิง ครอบครัวชาวจีนจะเยี่ยมหลุมฝังศพบรรพบุรุษเพื่อทำความสะอาดสุสานและทำพิธีบูชาบรรพบุรุษ[ 7] ของที่นำมาบูชามักเป็นอาหารพื้นเมืองและเผาธูป กับกระดาษเงินกระดาษทอง [ 7] [ 2] [ 8] เทศกาลนี้ถือเป็นการแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ ในวัฒนธรรมจีน[ 7]
ต้นกำเนิดเทศกาลเช็งเม้งมีมามากกว่า 2,500 ปี แม้ว่าการสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก
ตำนานการเกิดเช็งเม้ง
ในยุคชุนชิว องค์ชายฉงเอ่อ แห่งแคว้นจิ้น หนีภัยออกนอกแคว้น ไปมีชีวิตตกระกำลำบากนอกเมือง โดยมีเจี้ยจื่อทุย ติดตามไปดูแลรับใช้
เจี้ยจื่อทุยมีจิตใจเมตตาถึงขนาดเชือดเนื้อที่ขาของตนเป็นอาหารให้องค์ชายเสวยเพื่อประทังชีวิต ภายหลังเมื่อองค์ชายฉงเอ่อเสด็จกลับเข้าแคว้นและได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าผู้ครองแคว้น นาม จิ้นเหวินกง และได้สถาปนาตอบแทนขุนนางทุกคนที่เคยให้ความช่วยเหลือตน แต่ลืมเจี้ยจื่อทุยไป นานวันเข้าจึงมีคนเตือนถึงบุญคุณเจี้ยจื่อทุย จิ้นเหวินกงเพิ่งนึกขึ้นไป จึงต้องการตอบแทนบุญคุณเจี้ยจื่อทุย โดยจัดหาบ้านให้เขาและมารดาให้เข้ามาอยู่อย่างสุขสบายในเมือง แต่ทว่าเจี้ยจื่อทุยปฏิเสธ
จิ้นเหวินกงได้คิดแผนเผาภูเขา โดยหวังว่าเจี้ยจื่อทุยจะพามารดาออกมาจากบ้าน แต่ผลสุดท้ายกลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด สองแม่ลูกกลับต้องเสียชีวิตในกองเพลิง ดังนั้น เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจี้ยจื่อทุย จิ้นเหวินกงจึงมีคำสั่งให้วันนี้ของทุกปี ห้ามไม่ให้มีการก่อไฟ และให้รับประทานแต่อาหารสด ๆ และเย็น ๆ จนกลายเป็นที่มาของเทศกาลวันกินอาหารเย็น หรือ เทศกาลหันสือเจี๋ย (寒食节) ซึ่งเป็นวันสุกดิบก่อนวันเช็งเม้ง 1 วัน
เนื่องจากคนโบราณนิยมถือปฏิบัติกิจกรรมตามประเพณีวันหันสือเจี๋ยต่อเนื่องไปจนถึงวันเช็งเม้ง นานวันเข้าเทศกาลทั้งสองก็รวมเป็นวันเช็งเม้งวันเดียว การไหว้เจี้ยจื่อทุยจึงค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นการไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษแทน
ประเพณีการทำความสะอาดฮวงซุ้ย
เริ่มมาจากการที่พระเจ้าฮั่นเกาจู ปราบดาภิเษกและสถาปนาราชวงศ์ฮั่น ขึ้นแล้ว เกิดระลึกถึงบุญคุณบิดา มารดาที่เสียชีวิตไปแล้วที่บ้านเกิด จึงเร่งรัดกลับบ้านเกิด แต่ทว่าป้ายชื่อของฮวงซุ้ยแต่ละที่เลือนรางเต็มทน จากสงคราม พระเจ้าฮั่นเกาจูจึงอธิษฐานต่อสวรรค์ ด้วยการโปรยกระดาษสีขึ้นบนฟ้าแล้วให้ลมพัดปลิวไป ถ้ากระดาษตกที่ฮวงซุ้ยไหน ถือว่าเป็นฮวงซุ้ยของบิดา มารดาพระองค์ และเมื่อดูป้ายชื่อชัด ๆ แล้วก็พบว่าเป็นฮวงซุ้ยของบิดา มารดาพระองค์จริง ประเพณีการทำความสะอาดฮวงซุ้ยและโปรยกระดาษสีบนหลุมศพก็เริ่มมาจากตรงนี้เอง
อ้างอิง
อ่านเพิ่ม
Aijmer, Göran (1978), "Ancestors in the Spring the Qingming Festival in Central China", Journal of the Hong Kong Branch of the Royal Asiatic Society , 18 : 59–82, JSTOR 23889632
แหล่งข้อมูลอื่น