เดอะโครนิเคิลส์ออฟนาร์เนีย: เดอะไลออน, เดอะวิตช์ แอนด์เดอะวอร์โดรบ
เดอะโครนิเคิลส์ออฟนาร์เนีย: เดอะไลออน, เดอะวิตช์ แอนด์เดอะวอร์โดรบ (อังกฤษ: The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe) เป็นวิดีโอเกมแอ็กชันผจญภัยที่ได้รับการเปิดตัวใน ค.ศ. 2005 โดยบริษัทแทรเวลเลอส์เทลส์ เกมดังกล่าวสร้างจากภาพยนตร์ดัดแปลงนวนิยายที่มีชื่ออังกฤษเดียวกัน ซึ่งเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนก่อนภาพยนตร์สำหรับคอนโซลหลักอย่างเกมคิวบ์, พีซี, เอกซ์บอกซ์, เพลย์สเตชัน 2, นินเท็นโด ดีเอส และเกมบอยอัดวานซ์ นอกจากนี้ ใน ค.ศ. 2005 ทางดิสนีย์โมบายล์ได้เปิดตัวเกมสวมบทบาท, เกมวางแผน และเกมหมากรุก (ที่ทั้งหมดมีชื่อเดียวกัน) สำหรับระบบโทรศัพท์ไร้สาย[2][3] อนึ่ง วิลเลียม มอสลีย์, สแกนดาร์ เคนส์, แอนนา ป็อปเปิลเวลล์, จอร์จี เฮนเลย์, เอลิซาเบธ ฮอว์ธอร์น และจิม บรอดเบนต์ รับบทเป็นตัวละครสำคัญในภาพยนตร์
รูปแบบการเล่น
วัตถุประสงค์ของภาคเดอะไลออน, เดอะวิตช์ แอนด์เดอะวอร์โดรบ คือการควบคุมเด็กสี่คนของตระกูลพีเวนซี่—ซึ่งได้แก่ ปีเตอร์, ซูซาน, เอ็ดมัน และลูซี่—ผ่านดินแดนที่น่าหลงใหลและหนาวเหน็บของนาร์เนียขณะที่พวกเขาต่อสู้เพื่อยุติการปกครองของแม่มดขาวผู้ชั่วร้ายด้วยความช่วยเหลือจากอัสลาน ซึ่งเป็นสิงโตพูดได้ และราชาที่แท้จริงแห่งนาร์เนีย[4] เกมนี้แบ่งออกเป็นสิบห้าเลเวล โดยเป็นไปตามรูปแบบการเล่นแบบเส้นตรง และใช้องค์ประกอบรูปแบบการเล่นที่หลากหลาย ทั้งการลอบเร้น, การต่อสู้, การไขปริศนา และยุทธศาสตร์[5] ในขณะที่สองเลเวลแรกมีฉากในคริสต์ทศวรรษ 1940 ของอังกฤษ ส่วนเลเวลสามมุ่งเสนอฉากนาร์เนีย[5] นอกจากนี้ มีคลิปภาพยนตร์จากอภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ตอน ราชสีห์ แม่มด กับตู้พิศวง ปรากฏที่จุดเริ่มต้นและบทสรุปของแต่ละเลเวล[6] เกมดังกล่าวมีทั้งโหมดผู้เล่นเดี่ยวและโหมดร่วมมือกัน โดยผู้เล่นสองคนเท่านั้นที่สามารถเล่นได้ในครั้งเดียวกัน แต่มีตัวละครที่สามารถเล่นได้มากถึงสี่ตัวเพื่อสลับไปมาในแต่ละเลเวล[4]
ระหว่างทาง เด็ก ๆ จะได้พบและต่อสู้กับสัตว์ประหลาดต่าง ๆ ในการรับใช้แม่มดขาว[5] ทั้งนี้ ปีเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในกลุ่ม ซึ่งถือดาบ รวมทั้งซูซานสามารถใช้การยิงธนูและโจมตีด้วยอาวุธระยะไกล เช่น ลูกบอลหิมะ[6] ส่วนเอ็ดมันถือคบเพลิงและสามารถปีนขึ้นไป ในขณะที่ลูซี่สามารถทำให้สัตว์ต่าง ๆ เชื่องและขี่ได้[6] ซึ่งผู้เล่นสามารถสลับตัวละครได้ตลอดเวลา โดยใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวและคุณลักษณะพิเศษของตัวละครแต่ละตัว[6] เด็กแต่ละคนมี "ท่าพลัง" พิเศษเก้าอย่าง ตัวอย่างเช่น ลูซี่สามารถรักษาตัวละครอื่น ๆ ได้[5] นอกจากนี้ เหล่าตัวละครดังกล่าวยังสามารถร่วมทีมกันเพื่อสร้างท่าคอมโบต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ปีเตอร์จะเหวี่ยงเอ็ดมันไปรอบๆ เป็นวงกลม ในขณะที่เอ็ดมันจะเตะทุกอย่างที่ขวางหน้า[5]
ผู้เล่นยังสามารถเก็บเหรียญ ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนเป็นท่าพิเศษ และการอัปเกรดตัวละคร เช่น การเพิ่มพลังชีวิต[6] ผู้เล่นยังสามารถทำเครื่องหมายรูปปั้นของเหล่าวีรบุรุษที่กลายเป็นหินเพื่อให้อัสลานกู้คืน สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณกำลังเสริมที่ผู้เล่นจะมีในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับแม่มดขาว[5] ส่วนไอเทมโบนัสอื่น ๆ สามารถพบและรวบรวมได้ตลอดทั้งเกม[6]
เวอร์ชันพกพา
รูปแบบการเล่นของเกมบอยอัดวานซ์ (GBA) และนินเท็นโด ดีเอส (DS) ต่างจากเพลย์สเตชัน 2, เกมคิวบ์ และเอกซ์บอกซ์ เวอร์ชันดังกล่าวประกอบด้วยสิบเจ็ดตอน[7] เวอร์ชันเกมบอยอัดวานซ์มีรูปแบบการเล่นที่ง่ายกว่า โดยมีตัวละครเพียงตัวเดียวให้เล่นตามบทและไม่มีความสามารถในการสลับไปมาระหว่างตัวละครระหว่างเลเวล[8] ในการสำรวจดินแดนที่กลายเป็นน้ำแข็ง ตัวละครอาจต้องขจัดสิ่งกีดขวางทางธรรมชาติด้วยการกำจัดกองหิมะหรือย้ายก้อนหินออกจากเส้นทางของพวกเขา[7] ส่วนการต่อสู้สำหรับตัวละครประกอบด้วยการโจมตีปกติและการโจมตีที่รุนแรงกว่า[7] ทักษะบางอย่างที่เรียกว่าขุนนางนั้นเรียนรู้โดยเหล่าตัวละครอันเป็นผลมาจากการช่วยเหลือสิ่งมีชีวิต และเด็กทุกคนจะเข้าถึงได้เมื่อเรียนรู้ และขุนนางหนึ่งคนช่วยให้ตัวละครรักษาผู้อื่นได้ เป็นต้น[7] นอกจากนี้ หีบบรรจุสารบำรุงสุขภาพนั้นสามารถพบได้ตลอดทั้งเกม เช่น ชาและลูกอม รวมถึงไอเทมอื่น ๆ[7]
ในทางตรงกันข้าม เวอร์ชันนินเท็นโด ดีเอส ใช้ระบบของความก้าวหน้าตามเลเวล[9] ตัวละครจะได้รับคะแนนประสบการณ์เมื่อพวกเขาเอาชนะศัตรู และหลังจากได้รับจำนวนที่กำหนด, เพิ่มเลเวล แต่ละเลเวลที่ได้รับจะจัดสรรคะแนนคุณธรรมให้ผู้เล่นหนึ่งคะแนนเพื่อเพิ่มสถิติของตัวละครที่เลือก และปรับปรุงค่าพลังชีวิต, ความแข็งแกร่ง, การป้องกัน หรือความสามารถในการใช้ทักษะบ่อยครั้ง[9] นอกเหนือจากการสำรวจนาร์เนียแล้ว ตัวละครยังสามารถสำรวจดันเจียนต่าง ๆ เพื่อปัดป้องศัตรูและบอสได้เช่นกัน[9] ผู้เล่นยังสามารถไปทำภารกิจรองต่าง ๆ และได้รับรางวัลด้วยการเรียนรู้ทักษะเฉพาะ[9] ทั้งนี้ เวอร์ชันนินเท็นโด ดีเอส ช่วยให้ผู้เล่นสามารถสลับไปมาระหว่างเหล่าตัวละครได้ แม้ว่าอาจไม่ครบทุกตัวในบางเลเวล[8] ส่วนตัวละครที่เล่นได้ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ถูกควบคุมโดยผู้เล่นสามารถสั่งโจมตี, ป้องกัน หรือกระทำการอื่น ๆ เช่น การรักษา[8]
ทั้งสองเวอร์ชันบ่งบอกถึงความอบอุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวละครของผู้เล่นหนาวเพียงใดในดินแดนที่หนาวเหน็บ โดยในเวอร์ชันเกมบอยอัดวานซ์การลดลงของแถบส่งผลเสียต่อพลังชีวิตตัวละครของผู้เล่น ในขณะที่ในเวอร์ชันนินเท็นโด ดีเอส ความเย็นจะส่งผลต่อการสะสมคะแนนประสบการณ์และความเร็วในการต่อสู้[8][10] ซึ่งในเวอร์ชันเกมบอยอัดวานซ์การก่อไฟหรือดื่มชาหรือขนมปังปิ้งจะช่วยคืนความอบอุ่นให้แก่ตัวละคร[7] และสำหรับเวอร์ชันนินเท็นโด ดีเอส การหลบภัยจะทำให้เหล่าตัวละครดังกล่าวอบอุ่น[9] ทั้งนี้ เวอร์ชันนินเท็นโด ดีเอส ยังมีรอบกลางวันและกลางคืนซึ่งแตกต่างกันไปตามอุณหภูมิและศัตรูที่พบ[9]
โครงเรื่อง
ดินแดนแฟนตาซีแห่งนาร์เนียอยู่ภายใต้มนต์สะกดของแม่มดขาวผู้ชั่วร้าย ผู้ซึ่งทำให้เป็นฤดูหนาวตลอดเวลา ทว่าไม่มีวันคริสต์มาส แต่เมื่ออัสลานมาถึง ดินแดนแห่งนี้จะกลับมาเป็นฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง และการครองราชย์ของแม่มดจะสิ้นสุดลง เด็กสี่คนเข้าสู่นาร์เนีย และร่วมกับอัสลาน สิงโตในตำนาน เพื่อช่วยเอาชนะแม่มดขาวและสมุนชั่วร้ายของเธอ
การตอบรับ
เกมดังกล่าวได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวก ส่วนรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกันเล็กน้อยมีทั้งการยกย่องและวิพากษ์วิจารณ์
รูปแบบการเล่นของทีมยังได้รับการตอบรับที่หลากหลาย เหล่านักวิจารณ์เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้ควบคุมเด็กคนอื่น ๆ "แน่นิ่ง" โดยบ่นว่าพวกเขาไม่ได้ช่วยอะไรมากเมื่ออยู่ในระหว่างการต่อสู้ ส่วนความถูกต้องของเกมที่ใช้เสียง, ฉากหลัง และเพลงจากภาพยนตร์ได้รับการพิจารณาว่าดี
หนังสือพิมพ์เดอะซิดนีย์มอร์นิงเฮรัลด์ให้คะแนนสามดาวจากห้าดาว และกล่าวถึงเกมนี้ว่าเป็น "การเริ่มต้นที่ดีในสิ่งที่จะเป็นซีรีส์เกมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้"[39]
ซึ่งเกมดังกล่าวมียอดจำหน่ายมากกว่า 2 ล้านชุด[40]
อ้างอิง
- ↑ "Game information from Xbox.com". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-14.
- ↑ "IGN information page". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-12. สืบค้นเมื่อ 2008-07-25.
- ↑ Buchanan, Levi. "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch, and the Wardrobe". IGN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-12. สืบค้นเมื่อ 2021-02-25.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 Castro, Juan (December 1, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe". IGN. IGN Entertainment, Inc. pp. 1–2. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 Castro, Juan (July 26, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe". IGN. IGN Entertainment, Inc. pp. 1–2. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ 6.00 6.01 6.02 6.03 6.04 6.05 6.06 6.07 6.08 6.09 Mueller, Greg (December 9, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe Review". GameSpot. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 7.6 Mueller, Greg (December 19, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Review (GBA)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 Bozon, Mark (December 6, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe". IGN. IGN Entertainment, Inc. p. 1. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ 9.0 9.1 9.2 9.3 9.4 9.5 9.6 Mueller, Greg (December 19, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Review (DS)". GameSpot. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ 10.0 10.1 Bozon, Mark (December 1, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe (DS)". IGN. IGN Entertainment, Inc. p. 1. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ Gibson, Ellie (November 30, 2005). "Chronicles of Narnia Review (PS2)". Eurogamer. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ 12.0 12.1 12.2 Helgeson, Matt (December 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch, and The Wardrobe". Game Informer. No. 152. p. 159. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-05-28. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ 13.0 13.1 13.2 Bones (November 15, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Review". GamePro. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 26, 2005. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ Alan Marriott, Scott (December 27, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe Review". G4tv. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 1, 2006. สืบค้นเมื่อ December 27, 2005.
- ↑ Vasconcellos, Eduardo (December 1, 2005). "GameSpy: The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe (NDS)". GameSpy.
- ↑ Vasconcellos, Eduardo (November 17, 2005). "GameSpy: The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe (PS2)". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 24, 2005. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ Abner, William (December 21, 2005). "GameSpy: The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe (PC)". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 29, 2005. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ Vasconcellos, Eduardo (November 29, 2005). "GameSpy: The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe". GameSpy. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 23, 2005. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ David, Mike (December 8, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe - NDS - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 15, 2008. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ Bedigian, Louis (November 9, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe - PS2 - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 29, 2008. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ Eberle, Matt (January 12, 2006). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe - PC - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 5, 2009. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ Pettinelli, Derek (December 7, 2005). "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe - XB - Review". GameZone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 6, 2009. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ 23.0 23.1 "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe". Nintendo Power. 200: 115. January 2006.
- ↑ Kohler, Chris (January 2006). "Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe". Official U.S. PlayStation Magazine. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 3, 2014. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe". Official Xbox Magazine: 83. December 25, 2005.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe". PC Gamer: 102. March 2006.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe for DS". GameRankings. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-09. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe for PlayStation 2". GameRankings. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-09. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe for Game Boy Advance". GameRankings. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-09. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe for PC". GameRankings. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-09. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe for GameCube". GameRankings. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-09. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe for Xbox". GameRankings. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-09. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Critic Reviews for DS". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Critic Reviews for PlayStation 2". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Game Boy Advance Reviews". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Critic Reviews for PC". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Critic Reviews for GameCube". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ "The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and The Wardrobe Critic Reviews for Xbox". Metacritic. สืบค้นเมื่อ March 2, 2014.
- ↑ Hill, Jason (December 17, 2005). "Muggle trouble". The Sydney Morning Herald. pp. 1–2. สืบค้นเมื่อ March 3, 2014.
- ↑ Davidson, Neil (December 16, 2005). "Canadians spent more than $21 million on Xbox 360 in November". Grande Prairie Daily Herald-Tribune. p. 39. สืบค้นเมื่อ January 25, 2022 – โดยทาง Newspapers.com.
แหล่งข้อมูลอื่น
|
|