อำเภอหว้านใหญ่ |
---|
|
การถอดเสียงอักษรโรมัน |
---|
• อักษรโรมัน | Amphoe Wan Yai |
---|
|
คำขวัญ: เมืองพระพุทธรูปงาช้าง พระปางไสยาสน์ หาดมโนภิรมย์เพลินตา โสภาแก่งกะเบา |
แผนที่จังหวัดมุกดาหาร เน้นอำเภอหว้านใหญ่ |
พิกัด: 16°43′40″N 104°44′19″E / 16.72778°N 104.73861°E / 16.72778; 104.73861 |
ประเทศ | ไทย |
---|
จังหวัด | มุกดาหาร |
---|
พื้นที่ |
---|
• ทั้งหมด | 81.49 ตร.กม. (31.46 ตร.ไมล์) |
---|
ประชากร (2565) |
---|
• ทั้งหมด | 19,783 คน |
---|
• ความหนาแน่น | 242.76 คน/ตร.กม. (628.7 คน/ตร.ไมล์) |
---|
รหัสไปรษณีย์ | 49150 |
---|
รหัสภูมิศาสตร์ | 4906 |
---|
ที่ตั้งที่ว่าการ | ที่ว่าการอำเภอหว้านใหญ่ หมู่ที่ 5 ตำบลหว้านใหญ่ อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร 49150 |
---|
|
หว้านใหญ่ เป็นอำเภอ 1 ใน 7 อำเภอของจังหวัดมุกดาหาร เป็นอำเภอที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดมากที่สุด ทั้งวัดมโนภิรมย์[1] วัดพระศรีมหาโพธิ์[2] วัดลัฎฐิกวัน[3] สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี (วัดสองคอน)[4][5] พิพิธภัณฑ์ท่านหนูฮัก พูมสะหวัน[6] วัดป่าวิเวก[7] หาดมโนภิรมย์[8] และแก่งกะเบา[9]
ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอหว้านใหญ่มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้
ประวัติ
เดิมอำเภอหว้านใหญ่แต่เดิมอยู่ในเขตเมืองพาลุกากรภูมิ ตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2409 ขึ้นเมืองมุกดาหาร ซึ่ง "พาลุกา" แปลว่า "ทรายชายโขง" ตามคำบอกเล่าของชาวข่า และชาวลาวที่อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านพาลุกา เขตเมืองพาลุกากรภูมิทางเหนือตั้งแต่ลำน้ำก่ำ ทางใต้ถึงห้วยบางทราย และต่อมาเมืองพาลุกากรภูมิถูกยุบเป็นหมู่บ้านขึ้นกับตำบลบ้านหว้าน ในปี พ.ศ. 2442 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นกับท้องที่อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม ส่วนบ้านว่านใหญ่ ท้าวสีหานามและท้าวมหาคำ นำราษฏรจากเมืองมหาชัย ประเทศลาวอพยพมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่เป็นสวนว่าน และตั้งบ้านเรือนขึ้นให้ชื่อเรียกว่า บ้านว่านใหญ่ ต่อมาได้เพี้ยนชื่อตามภาษาพูดเป็นภาษาเขียนว่า "หว้านใหญ่"
เมื่อปี พ.ศ. 2519 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรตำบลหว้านใหญ่ ได้พิจารณาว่าสภาพทางภูมิศาสตร์ ลักษณะความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ แนวโน้มมีความเจริญในอนาคต จึงตั้งตำบลในพื้นที่เพื่อเตรียมจัดตั้งขึ้นเป็นกิ่งอำเภอ โดยแยกตำบลหว้านใหญ่ตั้งเป็นตำบลป่งขาม และแยกตำบลบางทรายใหญ่ตั้งเป็นตำบลบางทรายน้อย[10]และในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2520 ความเห็นชอบของคณะกรรมการหมู่บ้าน สภาตำบล หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ จังหวัด สภาจังหวัด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกระทรวงมหาดไทยจึงได้ประกาศเขตท้องที่ของอำเภอมุกดาหาร คือ ตำบลหว้านใหญ่ ตำบลป่งขาม และตำบลบางทรายน้อย ออกมาตั้งเป็น กิ่งอำเภอหว้านใหญ่[11]
ในปี พ.ศ. 2525 จังหวัดนครพนมได้แยกอำเภอมุกดาหาร อำเภอคำชะอี อำเภอดอนตาล อำเภอนิคมคำสร้อย กิ่งอำเภอดงหลวงและกิ่งอำเภอหว้านใหญ่ มาตั้งเป็นจังหวัดมุกดาหาร[12] และเปลี่ยนชื่ออำเภอมุกดาหารเป็นอำเภอเมืองมุกดาหาร ทางกิ่งอำเภอจึงย้ายมาขึ้นกับอำเภอเมืองมุกดาหาร และในปี พ.ศ. 2526 ทางราชการได้แยกตำบลหว้านใหญ่ตั้งเป็นตำบลชะโนด[13] และแยกตำบลป่งขามตั้งเป็นตำบลดงหมูในปี พ.ศ. 2531[14] เนื่องจากหลักเกณฑ์การตั้งอำเภอต้องมีตำบลไม่น้อยกว่า 5 ตำบล นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2532 ทางราชการโอนพื้นที่หมู่ 9 (ในขณะนั้น) บ้านนาแพง ตำบลคำป่าหลาย มาขึ้นกับตำบลหว้านใหญ่[15] เนื่องจากมีระยะทางที่ใกล้กับทางกิ่งอำเภอ ก่อนที่ต่อมาในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2535 ได้ยกฐานะจากกิ่งอำเภอหว้านใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร เป็น อำเภอหว้านใหญ่[16] รวมระยะเวลาการเป็นกิ่งอำเภอทั้งหมด 14 ปี
การแบ่งเขตการปกครอง
การปกครองส่วนภูมิภาค
อำเภอหว้านใหญ่แบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 5 ตำบล 43 หมู่บ้าน ได้แก่
1.
|
หว้านใหญ่
|
|
|
(Wan Yai)
|
|
|
11 หมู่บ้าน
|
2.
|
ป่งขาม
|
|
|
(Pong Kham)
|
|
|
11 หมู่บ้าน
|
3.
|
บางทรายน้อย
|
|
|
(Bang Sai Noi)
|
|
|
11 หมู่บ้าน
|
4.
|
ชะโนด
|
|
|
(Chanot)
|
|
|
05 หมู่บ้าน
|
5.
|
ดงหมู
|
|
|
(Dong Mu)
|
|
|
05 หมู่บ้าน
|
การปกครองส่วนท้องถิ่น
ท้องที่อำเภอหว้านใหญ่ประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4 แห่ง ได้แก่
อ้างอิง
|
---|
อำเภอ | | |
---|
ประวัติศาสตร์ | |
---|
ภูมิศาสตร์ | |
---|
เศรษฐกิจ | |
---|
สังคม | การศึกษา | |
---|
วัฒนธรรม | |
---|
กีฬา | |
---|
การเมือง | |
---|
|
---|
|