ภาษาเอสเปรันโต
ภาษาเอสเปรันโต (อักษรโรมัน : Esperanto) หรือชื่อเดิม Lingvo Internacia เป็นภาษาประดิษฐ์ ในกลุ่มภาษาช่วยในการสื่อสารสากล (International auxiliary language) ที่ใช้กันมากที่สุดในโลก[ 4] เป็นหนึ่งในภาษาที่มีกลุ่มผู้ใช้น้อยกลุ่มหนึ่งของโลก โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็นเครื่องสื่อสารทางเลือกและเป็นผลงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอย่างหนึ่ง[ 5] ในปี พ.ศ. 2555 ภาษาเอสเปรันโตได้รับการเพิ่มเข้าไปในกูเกิลแปลภาษา [ 6] ในปี พ.ศ. 2559 ปรากฏชื่อภาษาเอสเปรันโตในลิสต์รายชื่อภาษาที่เป็นที่รู้จักและเรียนมากในประเทศฮังการี[ 7] ชื่อภาษาเอสเปรันโตมาจากนามปากกา “D-ro Esperanto„ ในหนังสือของ แอล.แอล. ซาเมนฮอฟ (L.L. Zamenhof) จักษุแพทย์ชาวโปแลนด์ ซึ่งเป็นหนังสือพื้นฐานของภาษานี้เล่มแรก (โดยมักเรียกชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า Unua Libro ซึ่งเขียนในภาษารัสเซีย ได้รับการอนุญาตจำหน่ายเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2430 โดยต้องการให้ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาที่เรียนรู้ได้ง่าย และเป็นภาษาที่สอง
ประมาณการกันว่ามีผู้พูดภาษาเอสเปรันโตมากกว่า 2,000,000 คน และที่ไม่เหมือนกับภาษาประดิษฐ์อื่นคือมีผู้ที่พูดภาษานี้มาตั้งแต่เกิดประมาณ 2,000 คน สมาคมเอสเปรันโตสากล (Universala Esperanto-Asocio) มีสมาชิกอยู่ในมากกว่า 120 ประเทศ
การประชุมใหญ่เอสเปรันโตสากล (Universala Kogreso de ESperanto) เป็นการประชุมของผู้พูดภาษาเอสเปรันโต ในระดับนานาชาติอันหนึ่งที่มีประวัติยาวนาน โดยจัดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2448 (ค.ศ.1905) ที่เมืองบูลอน ซู แมร์ ในประเทศฝรั่งเศส
วันที่ 15 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันฉลองของภาษาเอสเปรันโต ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของซาเมนโฮฟ ซึ่งในวันนี้ผู้ใช้ภาษาเอสเปรันโตจะรวมตัวกันในฤดูหนาว และเลี้ยงฉลองกัน โดยบางคนจะซื้อหนังสือภาษาเอสเปรันโตเล่มใหม่ในวันนี้
ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาเดียวที่มีธงประจำภาษา โดยทั่วไปแล้วภาษาอื่น ๆ จะไม่ใช้ธงชาติ มาเป็นธงประจำภาษา เนื่องจากชาติหรือประเทศหนึ่งอาจมีได้หลายภาษา และภาษาหนึ่งอาจพูดในหลายชาติหรือประเทศ ธงประจำภาษาเอสเปรันโต พื้นธงเป็นสีเขียว มีรูปดาวสีเขียวบนพื้นที่สีเหลี่ยมสีขาวอยู่มุมบนซ้าย นอกจากธงแล้วยังมีเพลงประจำภาษาเอสเปรันโตอีกด้วย ชื่อเพลงว่า La Espero แปลว่า ความหวัง ซึ่งมีชื่อเหมือนกับเพลงชาติ ของอิสราเอล
ประวัติ
ภาษาเอสเปรันโตคิดค้นขึ้นช่วงปลาย คริสต์ทศวรรษ 1870 และต้น คริสต์ทศวรรษ 1880 โดยซาเมนฮอฟ ในช่วงเวลาพัฒนา 10 ปีนั้น ซาเมนฮอฟได้ใช้เวลาในการแปลวรรณกรรมต่าง ๆ มาเป็นภาษาเอสเปรันโต รวมทั้งการเขียนและพัฒนาหลักไวยกรณ์ต่าง ๆ ของภาษา โดยหนังสือไวยกรณ์เล่มแรกในภาษาเอสเปรันโต ชื่อ Международный языкъ. Предисловіе и полный учебникъ หรือที่เรียกกันว่า อูนูอาลิโบร (Unua Libro ความหมายในภาษาเอสเปรันโตว่า หนังสือเล่มแรก ) ตีพิมพ์ที่ กรุงวอร์ซอว์ ในเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2430 ซึ่งหลังจากนั้นจำนวนผู้ใช้ภาษาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 20 ปีต่อมา โดยเริ่มต้นจากจักรวรรดิรัสเซีย และ ยุโรปตะวันออก และได้เข้าสู่ ยุโรปตะวันตก อเมริกา ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในปี พ.ศ. 2448 การประชุมเอสเปรันโตสากล ได้จัดตั้งขึ้น โดยจัดครั้งแรกที่เมืองบูลอญ-ซูร์-แมร์ (Boulogne-sur-Mer) ในประเทศฝรั่งเศส และหลังจากนั้นมีการจัดประชุมกันทุกปี (ยกเว้นช่วงสงครามโลก) โดยเปลี่ยนสถานที่จัดไปทั่วโลก
ในปัจจุบันภาษาเอสเปรันโตไม่ได้เป็นภาษาทางการ ของประเทศใด แต่ได้มีการเรียนการสอนในหลายประเทศ อย่างไรก็ตามในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 บริเวณฉนวนโมเรสเนต (Neutral Moresnet, 2359-2462) ได้ถือว่าเป็นรัฐแรกที่ใช้ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาทางการ
ในปี พ.ศ. 2511 สาธารณรัฐโรสไอส์แลนด์ ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งอิตาลี ประมาณ 11 กม. ได้ประกาศตั้งตัวเป็นประเทศเอกราช และได้ใช้ภาษาเอสเปรันโตเป็นภาษาทางการเช่นกัน อย่างไรก็ตาม โรสไอแลนด์ ไม่ถือว่าเป็นประเทศจากชาติอื่น
ในปี พ.ศ. 2454 ระหว่างช่วงการปฏิวัติซินไฮ่ ในประเทศจีน ได้มีนโยบายในการเปลี่ยนภาษาทางการจากภาษาจีน เป็นภาษาเอสเปรันโต ด้วยเหตุผลที่ว่าให้ประเทศเป็นสากล แต่ได้ถูกยกเลิกไป
ในปี พ.ศ. 2467 ในสหรัฐอเมริกา เริ่มมีการใช้ภาษาเอสเปรันโตสำหรับวิทยุสื่อสาร โดยคาดหวังว่าจะใช้เป็นภาษาหลักในการสื่อสาร แต่สุดท้ายไม่ได้รับการนิยมและได้ยกเลิกไป
การศึกษาภาษาเอสเปรันโต
หนังสือ Unua Libro ฉบับภาษารัสเซีย, 2430
ในปัจจุบันมีอยู่บางโรงเรียนที่มีการสอนภาษาเอสเปรันโต มีมากใน จีน ฮังการี บัลแกเรีย และ ออสเตรเลีย นอกจากนี้คนส่วนมากเรียนรู้ภาษา โดยการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และมีการสอนโดยอาสาสมัครต่างๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต เช่นเว็บไซต์ lernu!
นักวิจัยหลายท่านได้ศึกษาว่าการเรียนรู้ภาษาเอสเปรันโต ช่วยให้ผู้ที่ใช้ภาษาในภาษากลุ่มอินโดยูโรเปียน (เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน) เรียนภาษาอื่น ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น อาจเนื่องมาจาก รูปแบบของภาษา ไวยากรณ์ และคำศัพท์ต่าง ๆ[ 8] การวิจัยพบว่า เปรียบเทียบกลุ่มนักเรียน 2 กลุ่ม โดย กลุ่มแรก เรียนภาษาเอสเปรันโต 1 ปี และภาษาฝรั่งเศส 3 ปี กับกลุ่มที่สอง เรียนภาษาฝรั่งเศส 4 ปี ผลออกมาว่า กลุ่มแรกสามารถใช้ภาษาฝรั่งเศสได้ดีกว่ากลุ่มที่สอง ที่เรียนภาษาฝรั่งเศสมากกว่าหนึ่งปี
ตัวอักษร
ภาษาเอสเปรันโตใช้ตัวอักษรละติน ประกอบด้วยตัวอักษร 28 ตัว ซึ่งมีรูปทั้งตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก โดย 22 ตัวเหมือนตัวอักษรในภาษาอังกฤษ โดยไม่มีรูป Q, W, X และ Y และบนตัวอักษรบางตัวมีเครื่องหมายพิเศษ ตัวอักษรทั้งหมดมีดังนี้
A
B
C
Ĉ
D
E
F
G
Ĝ
H
Ĥ
I
J
Ĵ
K
L
M
N
O
P
R
S
Ŝ
T
U
Ŭ
V
Z
a
b
c
ĉ
d
e
f
g
ĝ
h
ĥ
i
j
ĵ
k
l
m
n
o
p
r
s
ŝ
t
u
ŭ
v
z
อย่างไรก็ตาม รหัสแอสกี ไม่มีสัญลักษณ์ที่ใช้แทนตัวอักษรเหล่านี้ Ĉ, Ĝ, Ĥ, Ĵ, Ŝ, Ŭ จึงมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเขียนให้เป็น CH, GH, HH, JH, SH, U หรือ CX, GX, HX, JX, SX, UX ตามลำดับ เมื่อต้องการพิมพ์หรือบันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันนี้ปัญหาดังกล่าวไม่มีแล้วเนื่องจากใช้รหัสยูนิโคด แทน
ไวยากรณ์เบื้องต้น
ไวยากรณ์เบื้องต้นของภาษาเอสเปรันโต ประกอบด้วย รากคำ ที่มีความหมายในตัวของมันเอง แล้วนำอักษรบางตัวไปต่อท้ายเพื่อเปลี่ยนหน้าที่ของคำในประโยค ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้[ 9]
คำนำหน้าคำนาม
คำนำหน้าคำนาม (Artikolo) มีเพียง la ที่ใช้กล่าวถึงสิ่งเฉพาะเจาะจง ซึ่งมีความหมายคล้ายกับ the ในภาษาอังกฤษ
La leono estas danĝera besto.
สิงโต (ตัวนั้น) เป็นสัตว์ที่อันตราย
leono estas danĝera besto.
สิงโต (ทั่วไป) เป็นสัตว์ที่อันตราย
คำนาม
คำนาม (Substantivo) ลงท้ายด้วย -o ส่วนคำนามที่เป็นพหูพจน์ให้เติม -j ต่อท้าย และหากคำนามนั้นทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค หรือนำหน้าคำบุพบท เช่น de ซึ่งแปลว่า ของ (ขึ้นอยู่กับความหมาย) ให้เติม -n ต่อท้ายเข้าไปอีก
La hundo persekutis la katojn de la knaboj al la domo per bojado .
สุนัข วิ่งไล่ (รูปอดีต) แมว (หลายตัว) ของเด็ก (หลายคน) เข้าไปในบ้าน โดยการเห่า
คำคุณศัพท์
คำคุณศัพท์ (Adjektivo) ลงท้ายด้วย -a รวมไปถึงจำนวนที่บ่งบอกลำดับที่ หรือคำนามอื่นที่ทำหน้าที่ขยายคำนามนั้น และเติม -j กับ -n ให้เหมือนคำนามที่ขยายด้วย คำคุณศัพท์จะวางไว้หน้าคำนามเสมอ
La bruna hundo persekutas la nigrajn katojn.
สุนัขสีน้ำตาล กำลังวิ่งไล่แมวสีดำ (หลายตัว)
คำคุณศัพท์ขั้นกว่า ให้ใช้ pli นำหน้าคำคุณศัพท์แล้วตามด้วยคำสันธาน ol เหมือนการใช้ more...than ในภาษาอังกฤษ
La bruna hundo estas pli granda ol la nigraj katoj.
สุนัขสีน้ำตาลตัวใหญ่กว่า แมวสีดำ (หลายตัว)
คำคุณศัพท์ขั้นสุด ให้ใช้ plej นำหน้าคำคุณศัพท์นั้น
Sed la homo estas la plej granda el ĉiuj.
แต่มนุษย์ตัวใหญ่ที่สุด กว่าใครทั้งหมด
จำนวน
จำนวน (Numeralo)
nul
unu
du
tri
kvar
kvin
ses
sep
ok
naŭ
dek
cent
mil
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
100
1000
จำนวนโดยพื้นฐานให้นำค่าของ 1-9 เขียนต่อด้วยค่าประจำหลัก เหมือนภาษาไทย
Mil naŭcent naŭdek kvin
(หนึ่ง) พันเก้าร้อยเก้าสิบห้า
จำนวนที่บ่งบอกลำดับที่ (ordinal) ให้เติม -a หลังจำนวนแล้วนับเป็นคำคุณศัพท์
จำนวนที่บ่งบอกความหลากหลาย ให้เติม -obl แล้วนำไปทำเป็นคำนามหรือคำคุณศัพท์
จำนวนที่บ่งบอกเศษส่วน ให้เติม -on แล้วนำไปทำเป็นคำนามหรือคำคุณศัพท์
Tri kvaronoj
เศษสามส่วนสี่ (เศษหนึ่งส่วนสี่ จำนวนสามหน่วย)
จำนวนที่บ่งบอกถึงการรวบรวม ให้เติม -op แล้วนำไปทำเป็นคำนามหรือคำคุณศัพท์
จำนวนที่บ่งบอกถึงการแบ่งเป็นส่วน ให้ใช้คำบุพบท po นำหน้า มีความหมายว่า แต่ละ หรือ ที่อัตรา
Mi donis po tri pomojn al ili.
ฉันให้แอปเปิลสามผล แก่พวกเขา (แต่ละคน)
Mi rapidis po cent kilometrojn en horo.
ฉันกำลังเร่งความเร็ว (รูปอดีต) ที่อัตรา ร้อย กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คำสรรพนาม
บุรุษสรรพนาม (Persona Pronomo)
เอกพจน์
พหูพจน์
บุรุษที่ 1
mi (ฉัน)
ni (พวกเรา)
บุรุษที่ 2
ci (คุณ, ไม่นิยมใช้ มักใช้ vi แทน)
vi (พวกคุณ)
บุรุษที่สาม
เพศชาย
li (เขาผู้ชาย)
ili (พวกเขา, พวกมัน)
เพศหญิง
ŝi (เขาผู้หญิง)
ไม่ระบุเพศ
ĝi (มัน)
ไม่เจาะจง
oni (ใคร ๆ , คนหนึ่ง)
สรรพนามสะท้อนบุรุษที่ 3
si (เขาเอง, มันเอง)
คำสรรพนาม (Pronomo) ใช้แทนบุคคล สัตว์ สิ่งของ ซึ่งเป็นบุรุษที่ 1, 2, 3 ในประโยค และสามารถเติม -n เมื่อทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค
Mi amas vin .
Mi razas min kaj vi razas vin .
ฉัน โกนหนวดตัวฉันเอง และคุณ ก็โกนหนวดตัวคุณเอง
Oni diras, ke li amas ŝin .
(มี) ใครคนหนึ่ง บอกว่า เขา รักหล่อน
คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของให้เติม -a หลังคำสรรพนามแล้วนับเป็นคำคุณศัพท์
Mia hundo amas vian katon.
คำกริยา
คำกริยา (Verbo) จะไม่แปรผันรูปตามประธาน แต่จะแปรผันตามกาลและน้ำเสียงของประโยค คำกริยาที่แปรผันตามกาล ให้เติม -as สำหรับปัจจุบันกาล -is สำหรับอดีตกาล และ -os สำหรับอนาคตกาล
Mi amas vin.
ฉันรัก คุณ (ปัจจุบันกาล ซึ่งรักกันอยู่)
Mi amis vin.
ฉันเคยรัก คุณ (อดีตกาล ซึ่งเกิดขึ้นในอดีต)
Mi amos vin.
ฉันจะรัก คุณ (อนาคตกาล ซึ่งปัจจุบันยังไม่รัก)
คำกริยาที่แปรผันตามน้ำเสียง ให้เติม -us เพื่อแสดงถึงการให้เงื่อนไขหรือการสมมติ -u เพื่อแสดงถึงการออกคำสั่งหรือการขอร้อง -i เพื่อแสดงถึงคำกริยาที่ทำหน้าที่เป็นคำนาม (infinitive)
Se vi gajnus la loterion, mi amus vin.
ถ้าคุณถูกรางวัล ล็อตเตอรี ฉันก็จะรัก คุณ
Mi deziras, ke vi amu min; do amu min!
ฉันต้องการให้คุณรัก ฉัน ดังนั้นรัก ฉันสิ!
Koni lin estas ami lin.
การออกเสียง
ซาเมนฮอฟได้แนะนำว่า การออกเสียงภาษาเอสเปรันโต ใช้หลักการใกล้เคียงกับภาษาอิตาลี (?) และอักษรเอสเปรันโตมีลักษณะใกล้เคียงกับสัทอักษรสากล (IPA : International Phonetic Alphabet ) ซึ่งการออกเสียงมีลักษณะใกล้เคียงกัน
พยัญชนะ
สระ และ สระผสม
ตัวอักษร
เทียบได้กับ
IPA
ตัวอักษร
เทียบได้กับ
IPA
b
บ
/b/
a
อา
/a/
c
つ (tsu) ในภาษาญี่ปุ่น (ตฺซ)
/t͡s/
e
เอ
/e/
ĉ
ch ในภาษาอังกฤษ (ตฺช)
/t͡ʃ/
i
อี
/i/
d
ด
/d/
o
โอ
/o/
f
ฟ
/f/
u
อู
/u/
g
ก
/g/
ĝ
j ในภาษาอังกฤษ (จฺย)
/d͡ʒ/
aj
อาย
/ai̯/, /ɑi̯/
h
ฮ
/h/
aŭ
อาว
/au̯/, /ɑu̯/
ĥ
ch ในภาษาเยอรมัน (คฺฮ)
/x/
ej
เอย์
/ei̯/, / ɛi̯/
j
ย
/j/
eŭ
เอว
/eu̯/, /ɛu̯/
ĵ
s ในคำว่า pleasure (ชฺย)
/ʒ/
oj
โอย
/oi̯/, / ɔi̯/
k
ค
/k/
uj
อูย
/ui̯/, /ʊi̯/
l
ล
/l/
m
ม
/m/
ŭ
ใช้ร่วมกับ a และ e เท่านั้น
/u̯/
n
น
/n/
p
ป
/p/
r
r ในภาษาอังกฤษ (สะบัดลิ้น)
/ɾ/
s
ซ
/s/
ŝ
sh ในภาษาอังกฤษ (ซฺช)
/ʃ/
t
ต
/t/
v
v ในภาษาอังกฤษ (ฟฺว)
/v/
z
z ในภาษาอังกฤษ (ซฺซ)
/z/
ตัวอย่างประโยค
ตัวอย่างประโยคสนทนาในภาษาเอสเปรันโต
ภาษาเอสเปรันโตในประเทศไทย
สำหรับภาษาเอสเปรันโตในประเทศไทยนั้น เริ่มเข้ามาเมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว (2559) โดยชาวจีนที่เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทย[ 10]
ภาษาเอสเปรันโต เริ่มมีสอนเป็นวิชาเสริมในหมวดวิชาบูรณาการที่โรงเรียนเด็กสายรุ้ง อ. กำแพงแสน จ. นครปฐม ในระดับประถมศึกษาตอนปลาย (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึง 6) ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กคุ้นเคยกับระบบภาษาตะวันตกอื่น ๆ ก่อนที่เด็ก ๆ แต่ละคนจะสามารถเลือกภาษาตะวันตกตามที่ตัวเองสนใจ สำหรับเรียนต่อไปในอนาคตได้[ 11]
ภาษาเอสเปรันโตในภาพยนตร์
รายชื่อภาพยนตร์บางส่วนที่มีภาษาเอสเปรันโต
อ้างอิง
↑ Harald Haarmann, Eta leksikono pri lingvoj , 2011, archive date March 4, 2016: Esperanto … estas lernata ankaŭ de pluraj miloj da homoj en la mondo kiel gepatra lingvo. ("Esperanto has also been learned by several thousand people in the world as a mother tongue.")
↑ 63,000 −50%/+200%: "Nova takso: 60.000 parolas Esperanton" [New estimate: 60.000 speak Esperanto] (ภาษาเอสเปรันโต). Libera Folio. February 13, 2017. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2017. สืบค้นเมื่อ February 13, 2017 .
↑ "Esperanto Cyrillic (Есперанто-цирила)" . Omniglot . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 19, 2021. สืบค้นเมื่อ December 19, 2021 .
↑ Byram, Michael (2001). Routledge Encyclopedia of Language Teaching and Learning. Routledge. pp. 464. ISBN 0-415-33286-9 .
↑ Nia tradukarto vekis grandan intereson en PEN HeKo, nro 682 7-B, la 22-an de Junio 2018.
↑ Google Translate Blog (2012) Tutmonda helplingvo por ĉiuj homoj
↑ Oktatási Hivatal: Nyelvvizsga-statisztikák. Nyelvvizsgáztatási Akkreditációs Központ. จากต้นฉบับ เมื่อวันที่ 2016-07-05.
↑ Williams, N. (1965) 'A language teaching experiment', Canadian Modern Language Review 22.1: 26-28
↑ "The Sixteen Rules of Esperanto Grammar" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-12-01. สืบค้นเมื่อ 2006-12-01 .
↑ El Popola Ĉinio 1987 N-ro 8 p.33
↑ รัชอำนวยวงษ์, เน. " 'โรงเรียนเด็กสายรุ้ง' วิชาบูรณาการความคิด ติดอาวุธทักษะเด็กไทย ให้เป็นพลเมืองโลก" . The KOMMON (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
อ่านเพิ่ม
Fians, Guilherme, "Esperanto Revolutionaries and Geeks - Language Politics, Digital Media and the Making of an International Community", 2021, Palgrave Macmillan,ISBN 978-3-030-84230-7 (e-book) and ISBN 978-3-030-84229-1 (hardcover).
Auld, William. La Fenomeno Esperanto ("The Esperanto Phenomenon"). Rotterdam: Universala Esperanto-Asocio, 1988.
Butler, Montagu C. Step by Step in Esperanto . ELNA 1965/1991. ISBN 0-939785-01-3 .
DeSoto, Clinton (1936). 200 Meters and Down . West Hartford, Connecticut, US: American Radio Relay League , p. 92.
Crystal, David, article "Esperanto" in The New Penguin Encyclopedia , Penguin Books, 2002.
Crystal, David, How Language Works (pages 424–5), Penguin Books, 2006. ISBN 978-0-14-101552-1 .
Esperanto เก็บถาวร กรกฎาคม 24, 2021 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at the Encyclopædia Britannica
Everson, Michael . "The Alphabets of Europe: Esperanto" (PDF) . เก็บ (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ November 8, 2004. สืบค้นเมื่อ January 21, 2003 . (25.4 KB) . Evertype, 2001.
Forster, Peter G. The Esperanto Movement . The Hague: Mouton Publishers, 1982. ISBN 90-279-3399-5 .
Garvia, Roberto. Esperanto and Its Rivals: The Struggle for an International Language . University of Pennsylvania Press, 2015. ISBN 0812291271 .
Gledhill, Christopher. The Grammar of Esperanto: A Corpus-Based Description. Second edition. Lincom Europa, 2000. ISBN 3-89586-961-9 .
Harlow, Don. The Esperanto Book เก็บถาวร กุมภาพันธ์ 17, 2020 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . Self-published on the web (1995–96).
Esperanto Lessons เก็บถาวร มีนาคม 21, 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . LEARN101.ORG. Including the alphabet, adjectives, nouns, plural, gender, numbers, phrases, grammar, vocabulary, verbs, exam, audio, and translation.
Ludovikologia dokumentaro I เก็บถาวร ธันวาคม 22, 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Tokyo: Ludovikito, 1991. Facsimile reprints of the Unua Libro in Russian, Polish, French, German, English and Swedish, with the earliest Esperanto dictionaries for those languages.
Morley, Tim (August 13, 2012). "Learn Esperanto first: Why Elementary Schools Should Teach Esperanto" (TEDxGranta TED Talk Video with Closed Captions) . YouTube (ภาษาอังกฤษ). เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-11.
Okrent, Arika. In the Land of Invented Languages เก็บถาวร มิถุนายน 2, 2015 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน .
Patterson, Robert; Huff, Stanley M. (November 1999). "The Decline and Fall of Esperanto" . Journal of the American Medical Informatics Association . 6 (6): 444–446. doi :10.1136/jamia.1999.0060444 . PMC 61387 . PMID 10579602 .
Perlin, Ross "Nostalgia for World Culture: A New History of Esperanto",review of "Bridge of Words" by Esther Schor เก็บถาวร กุมภาพันธ์ 25, 2021 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
van Someren, Emily. Republication of the thesis 'The EU Language Regime, Lingual and Translational Problems'.
Wells, John . Lingvistikaj aspektoj de Esperanto ("Linguistic aspects of Esperanto"). Second edition. Rotterdam: Universala Esperanto-Asocio, 1989.
Zamenhof, Ludovic Lazarus, Dr. Esperanto's International Language: Introduction & Complete Grammar เก็บถาวร มกราคม 9, 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน The original 1887 Unua Libro , English translation by Richard H. Geoghegan; HTML online version 2006. Print edition (2007) also available from ELNA เก็บถาวร ตุลาคม 20, 2017 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน or UEA เก็บถาวร มีนาคม 19, 2010 ที่ Archive-It .
Zamenhof, Ludovic Lazarus. Fundamento de Esperanto เก็บถาวร กรกฎาคม 30, 2010 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน . HTML reprint of 1905 Fundamento , from the Academy of Esperanto.
แหล่งข้อมูลอื่น