ปีแยร์ กูว์รี (ฝรั่งเศส : Pierre Curie ; 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1859 – 19 เมษายน ค.ศ. 1906) เป็นนักฟิสิกส์ ชาวฝรั่งเศส สามีของมารี กูว์รี นักเคมี ชาวโปแลนด์ ที่ได้รับรางวัลโนเบล สาขาฟิสิกส์ใน ค.ศ. 1903
ประวัติ
ปีแยร์ กูว์รี เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1859 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยบิดาของเขาเป็นนายแพทย์ หลังจากจบการศึกษาขั้นต้นแล้ว ปีแยร์ได้เข้าศึกษาต่อวิชาเคมี ที่มหาวิทยาลัยซอร์บอน หลังจากที่เขาจบการศึกษาแล้วได้เข้าฝึกงานกับคณะผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเขาก็สามารถสร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ และในปี ค.ศ. 1878 ปีแยร์ก็ได้รับรางวัลไซเอนซิเอต (Scienciate Award) ทางฟิสิกส์ และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการห้องทดลองประจำมหาวิทยาลัยซอร์บอน และในระหว่างนี้เขาได้รับเชิญเป็นที่ปรึกษาในโรงเรียน โรงงานอุตสาหกรรม และงานทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1880 ปีแยร์ได้ทำการทดลองเกี่ยวกับความต่างศักย์ของไฟฟ้าระหว่างผลึกหินควอทซ์กับเกลือโรเชลลีภายใต้ความกดดันสูง จากผลการทดลองเขาพบว่า ความกดดันมีผลกระทบต่อความต่างศักย์ ซึ่งปีแยร์เรียกสั้น ๆ ว่า "ปีแยร์โซอิเล็กทริซิตี" (Pierre so Electricity) และเขาได้พบเพิ่มเติมอีกว่า ถ้าเพิ่มค่าความต่างศักย์ของไฟฟ้าให้มากขึ้น จะทำให้พื้นผิวของผลึกเกิดการสั่นสะเทือน ทำให้เกิดคลื่นเสียงที่มีความถี่สูงเกินกว่าที่คนปกติจะได้ยิน แต่ก็มีประโยชน์ เพราะต่อมานักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังได้นำหลักการเดียวกันนี้มาประดิษฐ์อุปกรณ์เกี่ยวกับเสียงหลายชนิด เช่น ไมโครโฟน เครื่องบันทึกเสียง เป็นต้น
ในปี ค.ศ. 1895 ปีแยร์ได้ทดลองเกี่ยวกับความร้อนที่เกิดขึ้นกับแม่เหล็ก จากผลการทดลองปีแยร์พบว่าที่อุณหภูมิระดับหนึ่ง แม่เหล็กไม่สามารถแสดงสมบัติออกมาได้ โดยปีแยร์เรียกอุณหภูมิระดับนี้ว่า "เคียวรีพอยต์" (Cury Point) และจากการทดลองครั้งนี้ เขาได้สร้างเครื่องมือขึ้นมาชิ้นหนึ่งชื่อว่า อิเล็กทรอมิเตอร์ (Electrometer หรือ ThermoMeter) สำหรับใช้ในการทดลองครั้งนี้ด้วย จากผลงานชิ้นนี้เขาได้รับมอบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยซอร์บอน และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการประจำห้องทดลองเคมีและฟิสิกส์ประจำมหาวิทยาลัยซอร์บอน ซึ่งทำให้เขามีโอกาสได้พบกับมาเรีย สกวอดอฟสกา (Maria Sklodowska) และแต่งงานกันในปี ค.ศ. 1895
ชีวิตส่วนตัว
มารี กูว์รี ในปี 1911
หลังจากที่ปีแยร์ได้มีโอกาสพบกับมาเรีย สกวอดอฟสกา ภายหลังทั้งคู้จึงได้แต่งงานกันในปี ค.ศ. 1895 โดยมีบุตรสาวสองคน ได้แก่
เสียชีวิต
ปีแยร์ กูว์รีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนที่ปารีสเมื่อวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 1906 ขณะที่เขากำลังข้าม Rue Dauphine ที่มีคนชุกชมตอนฝนตกที่ Quai de Conti เขาลื่นล้มและตกลงใต้เกวียนลากม้าหนัก ล้อวงหนึ่งของเกวียนเคลื่อนไปเหนือหัว ทำให้กะโหลกแตก และทำให้เขาเสียชีวิตทันที[ 2] จากคำให้การของพ่อของเขากับผู้ช่วยห้องปฏิบัติการกล่าวโดยนัยว่า ลักษณะนิสัยเหม่อลอยของกูว์รีที่หมกมุ่นอยู่กับความคิดของเขามีส่วนทำให้เขาเสียชีวิต[ 3]
ทั้งมารีและปีแยร์ กูว์รีมีประสบการณ์ถูกเรเดียมเผาไหม้ทั้งโดยบังเอิญและสมัครใจ[ 4] และได้รับรังสีปริมาณมากขณะทำการวิจัย ทั้งคู่เป็นโรคจากรังสีและมารี กูว์รีเสียชีวิตจากภาวะไขกระดูกฝ่อ ที่เกิดจากรังสีใน ค.ศ. 1934 แม้แต่ตอนนี้ เอกสารทั้งหมดของทั้งคู่ที่เขียนในคริสต์ทศวรรษ 1890 (แม้แต่ตำราอาหารของเธอ) อันตรายเกินกว่าที่จะแตะโดยไม่ได้รับการป้องกัน หนังสือในห้องปฏิบัติการของทั้งคู่ถูกเก็บไว้ในกล่องตะกั่วพิเศษ และผู้ที่ต้องการจะดูมันจะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกัน [ 5] ของส่วนใหญ่สามารถพบได้ใน Bibliothèque nationale de France [ 6] ถ้าปีแยร์ กูว์รีไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เขาก็คงมีแนวโน้มเสียชีวิตจากผลของสารกัมมันตรังสี เหมือนกับภรรยา อีแรน ลูกสาวของทั้งคู่ และFrédéric Joliot สามีของลูกสาว[ 7] [ 8]
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1995 มีการเคลื่อนย้ายสุสานของปีแยร์กับมารี กูว์รีจากสุสานของครอบครัวไปยังห้องฝังศพใต้ดินที่ป็องเตองในปารีส
ประกาศนียบัตรรางวัลโนเบล ค.ศ. 1903
รางวัล
หมายเหตุ
อ้างอิง
↑ "ที่สุดแห่ง "โนเบล" ตระกูล "กูรี" เหมาทั้งพ่อแม่ลูก แถมด้วย ใครอ่อนสุด-เมินไม่รับ" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2011-08-13. สืบค้นเมื่อ 2009-10-17 .
↑ "Prof. Curie killed in a Paris street" , The New York Times , 20 April 1906, เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 25 July 2018, สืบค้นเมื่อ 25 July 2018
↑ "Marie Curie – Tragedy and Adjustment (1906–1910)" , Marie Curie and the Science of Radioactivity , 2000, เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2021, สืบค้นเมื่อ 17 January 2017
↑ Mould, R.F. (2007). "Pierre Curie, 1859–1906" . Current Oncology . 14 (2): 74–82. doi :10.3747/co.2007.110 . PMC 1891197 . PMID 17576470 .
↑ Tasch, Barbara (31 August 2015). "These personal effects of 'the mother of modern physics' will be radioactive for another 1500 years" . Business Insider . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2021. สืบค้นเมื่อ 9 July 2016 .
↑ Concasty, Marie-Louise (1914–1977) Auteur du texte; texte, Bibliothèque nationale (France) Auteur du (1967). Pierre et Marie Curie : [exposition], Paris, Bibliothèque nationale, [octobre-décembre] 1967 / [catalogue réd. par Marie-Louise Concasty] ; [préf. par Étienne Dennery] (ภาษาอังกฤษ). เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2021. สืบค้นเมื่อ 6 November 2020 .
↑ Redniss, Lauren (2010). Radioactive : Marie And Pierre Curie : a tale of love and fallout (1st ed.). New York: HarperEntertainment. ISBN 978-0-06-135132-7 .
↑ Bartusiak, Marcia (11 November 2011). " "Radioactive: Marie & Pierre Curie – A Tale of Love and Fallout" by Lauren Redniss" . The Washington Post . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 11 February 2021. สืบค้นเมื่อ 9 July 2016 .
↑ "The Nobel Prize in Physics 1903" . Nobel Prize. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 31 August 2020. สืบค้นเมื่อ 8 July 2016 .
↑ Quinn, Susan (1996). Marie Curie : a life . Reading, Mass.: Addison-Wesley. ISBN 978-0-201-88794-5 . [ลิงก์เสีย ]
↑ " "Matteucci" Medal" . Accademia Nazionale delle Scienza . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 7 March 2016. สืบค้นเมื่อ 9 July 2016 .
↑ "2015 Awardees" . American Chemical Society, Division of the History of Chemistry . University of Illinois at Urbana-Champaign School of Chemical Sciences. 2015. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 21 June 2016. สืบค้นเมื่อ 1 July 2016 .
↑ "Citation for Chemical Breakthrough Award" (PDF) . American Chemical Society, Division of the History of Chemistry . University of Illinois at Urbana-Champaign School of Chemical Sciences. 2015. เก็บ (PDF) จากแหล่งเดิมเมื่อ 19 September 2016. สืบค้นเมื่อ 1 July 2016 .
แหล่งข้อมูลอื่น
ค.ศ. 1901–1925 ค.ศ. 1926–1950 ค.ศ. 1951–1975 ค.ศ. 1976–2000 ค.ศ. 2001–ปัจจุบัน
นานาชาติ ประจำชาติ วิชาการ ศิลปิน ประชาชน อื่น ๆ