พาร์กินสัน เข้าเรียนที่โรงเรียนศิลปะทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี 1913 และในปี 1929 เขาเข้าเรียนที่ St. Peter's School และสอบเข้าศึกษาอนุปริญญาทางประวัติศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และสำเร็จการศึกษาในปี 1932 จากนั้นพาร์กินสันหันมาสนใจทางด้านประวัติศาสตร์แห่งราชนาวี และในปี 1934 พาร์กินสันเขียนหนังสือเล่มแรกของเขา คือ Edward Pellew, Viscount Exmouth และเขาก็ลงทะเบียนเข้าศึกษาต่อที่ King's College London โดยทำวิทยานิพนธ์เรื่อง War in the Eastern Seas (1793-1815) ซึ่งได้รับรางวัล Julian Corbett Prize in Naval History ประจำปี 1935
2.ความตั้งใจของประชาชนหรือการประชุมทั่วไปประจำปี (The Will of the People, or Annual General Meeting)
3.การเงินระดับสูงหรือจุดที่ความสนใจหายไป (High Finance, or The Point of Vanishing Interest) การประชุมจะใช้เวลาพิจารณาหัวข้อประชุม แปรผกผันกับจำนวนเงิน จำนวนเงินยิ่งมาก จะยิ่งใช้เวลาน้อยตามไป
4.ผู้อำนวยการและคณะรัฐมนตรี หรือสัมประสิทธิ์ของการไร้ประสิทธิภาพ (Directors and Councils, or Coefficient of Inefficiency)จำนวนของคณะกรรมการที่มีมากเกินไป จะทำให้การประชุมไม่มีประสิทธิภาพ
5.รายชื่อ หรือหลักการคัดเลือก (The Short List, or Principles of Selection)
6.แผนการ หรือแบบอาคารบริหาร (Plans and Plants, or The Administration Block)การบริหารงานให้เกิดผลสูงสุด ไม่ได้อยู่ที่แบบอาคาร หรือขนาดของห้องทำงานผู้บริหาร
7.บุคลิกภาพ หรือ สูตรของค๊อกเทล (Personality Screen, or The Cocktail Formula)บุคคลที่สำคัญที่สุดในงาน ไม่ใช่คนที่มีบุคลิกภาพดีที่สุดเท่านั้น
9.จากหลังคามุงจากถึงรถยนต์แฟ็คการ์ด หรือสูตรเพื่อความสำเร็จ (Palm Thatch to Packard, or A Formula for Success)บุคคลที่ไม่เปลี่ยนฐานะภายนอก ตามฐานะทางการเงินที่เพิ่มขึ้น จะได้เปรียบกว่า
10.จุดบำนาญหรืออายุที่เกษียณ (Pension Point, or The Age of Retirement)จุดที่เป็นจุดแปรผันของคนทำงาน คือ 47 ปี