อักษรพม่า[5][6]
|
ถอดเป็นอักษรโรมัน[5]
|
ถอดเป็นอักษรไทย[7][note 1]
|
แปล[7][note 1]
|
1. ဂြီ။ ဗုဒ္ဓါဒိကံ ဝတ္ထုဝရံ နမိတွာ ပုညံ ကတံ ယံ ဇိနသာ
2. သနသ္မိံ အနာရိကံ ရာဇကုမာရ နာမဓေယျေန ဝက္ခာ
3. မိ သုနာထ မေတံ။ နိဗ္ဗနာ လောကနာထဿ အဌဝီ
|
1. Śrī. Buddhādikam vatthuvaram namitvā pāññam katam yam jinasā
2. sanasmim anārikam Rājakumāra nāmadheyyena vakkhā
3. mi sunātha metam. Nibbanā lokanāthassa aṭhavī
|
(1) ศฺรี //
พุทฺธาทิกํ วตฺถุวรํ นมิตฺวา
ปุญฺญํ กตํ ยํ ชินสา (2) สนสฺมึ
อนาริกํ ราชกุมารนาม-
เธยฺเยน วกฺขา (3) มิ สุณาถ เม ตํ //
|
ศิริ ข้าพเจ้า นอบน้อมสิ่งอันประเสริฐ มีพระพุทธเจ้า เป็นต้นแล้ว จักได้กล่าวถึง กิริยาบุญที่ (ข้าพเจ้า) ผู้มีนามว่า ราชกุมารได้กระทำแล้วในศาสนาของพระชินเจ้า ขอท่านทั้งหลายจงฟังกิริยาบุญนั้นของข้าพเจ้า
|
4. သာဓိကေ ဂတေ သဟဿေ ပန ဝဿာနံ ဆသတေ ဝါပရေ တ
5. ထာ။ အရိမဒ္ဒနနာမသ္မိံ ပုရေ အာသိ မဟဗ္ဗလော ရာဇာ
|
4. sādike gate sahasse pana vassānam chasate vā pare ta
5. -thā. Arimaddananāmasmim pure āsi mahabbalo rājā
|
นิพฺพานา โลกนาถสฺส อฏฺฐวี (4) สาธิเก คเต
สหสฺเส ปน วสฺสานํ ฉสเต วา ปเร ต (5) ถา //
|
เมื่อหนึ่งพันหกร้อยยี่สิบแปดปี แต่การปรินิพพานแห่งพระโลกนาถผ่านพ้นไปแล้ว (พ. ศ. 1628)
|
6. တိ ဘုဝနာဒိစ္စော ဥဒိစ္စာ ဒိစ္စဝံသဇော။ တဿာ သေ
|
6. Tibhuvanādicco udicca diccavamsajo. Tassā te
|
อริมทฺทนนามสฺมิ ปุเร อาสิ มหพฺพโล
ราชา (6) ติภุวนาทิจฺโจ อุทิจฺจาทิจฺจวํสโช //
|
พระเจ้าแผ่นดินพระนามว่า ติภุวนาทิจจ (ตริภูวนาทิตย์) ผู้มีอำนาจมาก ผู้เกิดในวงศ์แห่งอาทิตย์อันสูงส่งได้ครองราชย์ที่เมืองชื่อว่า อริมัททนะ (เมืองพุกาม)
|
7. ကာ ပိယာ ဒေဝိ သာ တိလောကဝဋံသိကာ ဟိ
8. တေသီ ကုသလာ သဗ္ဗကိစ္စေသု ပန ရာဇိနော။ တ
|
7. kā piyā devi sā Tilokavaṭamsikā hi
8. tesi kusalā sabbekiccesu pana rājino. Ta
|
ตสฺสาเส (7) กา ปิยา เทวิ สา ติโลกวฏํสิกา /
หิ (8) เตสี กุสลา สพฺพกิจฺเจสุ ปน ราชิโน //
|
พระองค์มีพระเทวีผู้เป็นที่รักพระองค์หนึ่งพระนามว่า ติโลกวฏังสิกา ผู้เฉลียวฉลาด ผู้ฝักใฝ่สิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ในราชกิจทั้งปวง
|
9. ဿ သေကော သုတော ရာဇကုမာရောနာမ နာမ
10. တာ အမစ္စော ရာဇကိစ္စေသု ဗျာဝတော သတိမာ
11. ဝိဒူ။ အဒါ ဂါမတ္တယံ တဿာ ဒေဝိယာ သော မ
|
9. ssā seko suto Rājakumaro nāma nāmat-
10. -o amacco rājakiccesu byavato satimā
11. vidu. Adā gāmattayam tassā deviyā soma
|
ต (9) สฺสาเสโก สุโต ราชกุมาโร นาม นาม (10) โต
อมจฺโจ ราชกิจฺเจสุ พฺยาวโต สติมา (11) วิทู //
|
พระโอรสแห่งพระนาง มีนามว่า ราชกุมาร ทรงเป็นอำมาตย์ เป็นผู้สติปัญญาเฉียบแหลม ทรงรอบรู้ในราชกิจทั้งหลาย
|
12. ဟီပတိ ပသန္နော သဗ္ဗဒါ ဒါသ ပရိဘောဂေန ဘုည္ဇိတုံ။
|
12. hipati pasanno sabbadā dāsa pribhogena buññjitum
|
อทา คามตฺตยํ ตสฺสา เทวิยา โส ม (12) หีปติ
ปสนฺโน สพฺพทา ทาสปริโภเคน ภุญฺชิตุ //
|
พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้นทรงพอพระทัย ได้พระราชทานหมู่บ้าน 3 แห่งแก่พระเทวีนั้น เพื่อทรงใช้สอย ด้วยการใช้สอยข้าทาสทุกเมื่อ
|
13. အနိစ္စတာ ဝသံ တဿာ ဂတာယ ပန ဒေဝိယာ ရာ
14. ဇ ရာဇကုမာရဿ အဒါ ဂါမတ္တယံ ပုန။ အဌဝီသ
|
13. Aniccatā vasam tassā gatāya pana deviyā rā-
14. -jā Rājakumārassa adā gāmattayam puna. Aṭhavīsa
|
(13) อนิจฺจตาวสํ ตสฺสา คตาย ปน เทวิยา
รา (14) ชา ราชกุมารสฺส อทา คามตฺตยํ / ปุน //
|
เมื่อพระเทวีพระองค์นั้นสิ้นพระชนม์ไปแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็พระราชทานหมู่บ้านทั้ง 3 แห่งนั้นแก่พระราชกุมารต่ออีก
|
15. တိ ဝဿာနိ ရဇ္ဇံ ဓမ္မေန ကာရိယ မာရနန္တိက ရောဂဿ
16. ဝသံ ပတ္တေ နရာဓိပေ။ သရန္တော ဓမ္မရာဇဿ မဟန္တံ ဂု
|
15. -ti vassāni rajjam dhammena kātriya māranantika rogassa-
16. vassam patte narādipe. Saranto dhammarājassa mahantam gu-
|
อฏฺฐวีส (15) ติ วสฺสานิ รชฺชํ ธมฺเมน การิย
มารนนฺติกโรคสฺส (16) วสํ ปตฺเต นราธิเป //
|
ครั้นเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงครองราชย์โดยธรรมได้ 28 ปี ก็ทรงพระประชวรหนัก
|
17. ဏသည္စယံ ကာရေတွာ သတ္ထုနော ဗိမ္ဗံ သဗ္ဗသောဝဏ္ဏ
18. ယံ သုဘံ။ ဂဟေတွာ တံ မဟန္တေန သက္ကာရေန သုမာနသော
|
17. ṇa saññcayam kāretvā satthuno bimbam sabbasovaṇṇa-
18. yam subham. Gahetvā tam mahatena sakkārena sumānaso
|
สรนฺโต ธมฺมราชสฺส มหนฺต คุ (17) ณสญฺจยํ
กาเรตฺว สตฺถุโน พิมฺพํ สพฺพโสวณฺณ (18) ยํ สุภํ //
|
(พระราชกุมาร) ทรงระลึกถึงพระกรุณาธิคุณอันมากมายของพระเจ้าแผ่นดินผู้ทรงธรรม จึงให้สร้างพระพุทธรูปอันทำแล้วด้วยทองทั้งปวง อันงดงาม
|
19. ဥပသင်္ကမ္မ ရာဇာနံ အာဟ စိန္တိတမတ္တနော။ ဘာဝံ ကတွာ
|
19. upasaṅkamma rājanam āha cintitamattano. Bhavamkatvā
|
คเหตฺวา ตํ มหนฺเตน สกฺกาเรน สุมานโส
(19) อุปสงฺกมฺม ราชานํ อาห จินฺติตมตฺตโน //
|
ผู้มีพระหฤทัยเบิกบาน ได้นำเอาพระพุทธรูปนั้นพร้อมเครื่องสักการะมากมาย เข้าไปเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน ได้กราบทูลตามความคิดเห็นของพระองค์ว่า
|
20. နိဒံ သတ္ထုဗိမ္ဗံ သောဝဏ္ဏယံ သုဘံ အကာသိံ ဝေါ ဝ
21. ရံ ပုညံ သာမိ တုမှေ နူမောဒထ။ ဂါမတ္တယံ ပိ ဝေါ
|
20. nidam satthubimbam sovaṇṇyam subham akāsim vo va-
21. -ram puññam sāmi tumhe nūmodatha. Gāmattayam pivo
|
ภาคํ กตฺวา (20) น อิทํ สตฺถุพิมฺพํ โสวณฺณยํ สุภํ
อกาสึ โว ว (21) รํ ปุญฺญํ สามิ ตุมฺเห”นุโมทถ //
|
ข้าพระพุทธเจ้า ได้สร้างพระพุทธรูปที่ทำแล้วด้วยทองอันงดงามนี้ ขอแบ่งส่วนบุญให้ข้าแต่พระองค์ ขอพระองค์จงอนุโมทนาบุญอันประเสริฐด้วยเถิด
|
22. သာမိ ပုဗ္ဗေ ဒိန္နန္တု မေ အဟံ ဣမဿေဝ မုနိန္ဒဿ ဒေမိ တ
23. ည္စာ နူမောဒထ။ ဧဝံ ဝုတ္တေ မဟီပါလော ရောဂေ
|
22. sāmi pubbe dinnantu me again imasseva munidassa demi ta
23. ññcā nūmodatha. Evam vutte mahipālo roge
|
คามตฺตฺยํ ปิ โว (22) สามิ ปุพฺเพ ทินฺนนฺตุ เม อหํ
อิมสฺเสว มุนินฺทสฺส เทมิ ต (23) ญฺจานุโมทถ //
|
ข้าแต่พระองค์ สำหรับหมู่บ้านทั้งสาม ที่พระองค์พระราชทานแก่ข้าพระพุทธเจ้านั้น ข้าพระพุทธเจ้าขอถวายแด่พระพุทธเจ้า (พระพุทธรูป) องค์นี้ ขอพระองค์จงอนุโมทนาบุญนั้นด้วยเถิด
|
24. နာတုရမာနသော သာဓု သာဓူတိ ဝတွာန တုဌဟတ္ထော
25. ပမောဒိတော။ ဒယာ ပရော မဟာထေရော ထေရော မုဂ္ဂလိ
|
24. nāturamānaso sadhu, sadhūti vatvāna tuṭhahattho
25. pamodito. Dayā payo mahātheyo theyo muggali
|
เอวํ วุตฺเต มหีปาโล โรเค (24) นาตุรมานโส
สาธุ สาธูติ วตฺวาน ตุฏฺฐหตฺโถ (25) ปโมทิโต //
|
ครั้นพระราชกุมารกราบทูลอย่างนี้แล้ว พระเจ้าแผ่นดินถึงจะมีพระทัยกระสับกระส่ายเพราะโรคภัย ก็ยังทรงยกพระหัตถ์เปล่า ตรัสอนุโททนาว่า ดีแล้ว ดีแล้ว
|
26. ပုတ္တကော သုမေဓတ္တ သုမေဓောတိ လဒ္ဓနာမော စ ပဏ္ဍိတော
|
26. puttako sumedhatta sumedhoti laddhanāmo ca paṇṭito
|
ทยาปโร มหาเถโร เถโร มุคฺคลิ (26) ปุตฺตโก
สุเมธตฺต สุเมโธติ ลทฺธนาโม จ ปณฺฑิโต //
|
พระมุคคลิปุตตกเถระ เป็นพระมหาเถระที่มากไปด้วยความเอ็นดู และท่านผู้เป็นบัณฑิตนามว่า สุเมธ เพราะมีปัญญาดี
|
27. ဗြဟ္မပါလော တထာ ဗြဟ္မဒေဝေါ သမ္ပန္နသီလဝါ သော နော
28. ဗဟုဿုတော သံဃသေနဝှေါ ဝရပဏ္ဍိတော။ ဧတေသံ ပ
|
27. brahmapālo tathā brhamadevo sampanna silavā so no
28. bahussuto samghasena vho varapaṇṭito. Etesam pa-
|
(27) พฺรหฺมปาโล ตถา พฺรหฺมเทโว สมฺปนฺนสีลวา
โสโน (28) พหุสฺสุโต สํฆเสนาวฺโห วรปณฺฑิโต //
|
พระพรหมปาละ และพระพรหมเทวะ ผู้มีศีล พระโสนะ ผู้เป็นพหูสูตร พระผู้เป็นวรบัณฑิตนามว่า สังฆเสนะ
|
29. န ဘိက္ခူနံ သံမုခါ သော သုမာနသော ဇလံ ပါတေသိ ကတွာန သ
30. က္ခိန္တု ဝသုဓါတလံ။ တတော သော တံ မဟာမစ္စော ဗိမ္ဗံ သောဝ
|
29. na bikkhūnam sammukhā so sumānaso jalam pātesi katavana sa-
30. kkhintu vasudhātalam. Tato so tan mahāmacco bibam so va-
|
เอเตสํ ป (29) น ภิกฺขูนํ สํมุขา โส สุมานโส
ชลํ ปาเตสิ กตฺวาน ส (30) กฺขินฺตุ วสุธาตลํ //
|
และต่อหน้าพระภิกษุทั้งหลายเหล่านี้ พระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้น มีพระทัยยินดีทรงหลั่งน้ำ (ทักษิโณทก) ให้พื้นพสุธาเป็นพยาน
|
31. ဏ္ဏယံ သုဘံ ပတိဌာပိယ ကာရေသိ ဂုဟံ ကည္စနထူပိကံ။
|
31. -ṇṇayam subham patiṭhāpiya kāresi guham kaññcanathūpikam.
|
ตโต โส ตํ มหามจฺโจ พิมฺพํ โสว (31) ณฺณยํ สุภํ
ปติฏฺฐาปิย กาเรสิ คุหํ กญฺจนถูปิกํ //
|
ลำดับนั้น มหาอำมาตย์นั้นได้ให้ประดิษฐานพระพุทธรูปทองอันงดงามนั้น แล้วให้สร้างคูหาอันเป็นสถูปทอง (ครอบทับ)
|
32. ကတွာန မင်္ဂလံ ဗုဒ္ဓပတိမာယ ဂုဟာယစ အကာသေဝံ ပဏီ
33. ဓာနံ နိဗ္ဗိန္နော ဘဝသင်္ကတေ။ ကရောန္တေန မယာဧတံ ယံ ပု
|
32. Katvāna maṅgalam Buddhapatimāya guhāyaca akāsevam paṇī
33. dhānam nibbinno bhavasaṅkate. Karonetana mayā etam yam pu-
|
(32) กตฺวาน มงฺคลํ พุทฺธปติมาย คุหาย จ
อกาเสวํ ปณี (33) ธานํ นิพฺพินฺโน ภวสงฺกเต //
|
ครั้นทำมงคลแด่พระพุทธปฏิมาและพระคูหาแล้ว ได้ทำปณิธาน อย่างนี้ว่า
|
34. ညံ တံ သမာစိတံ ဟောတု သဗ္ဗညုတညာဏ ပတိဝေဓာ
35. ယ ပစ္စယော။ ယတ္တကာ တု မယာ ဒါသာ ဂါမတ္တယနိဝါ
|
34. -ññam tam samācitam hotu sabbaññuta ññaṇa pative dhā-
35. -yā paccayo. Yattakā ta maya dāsā gamattayaniva-
|
กโรนฺเตน มยา เอตํ ยํ ปุ (34) ญฺญํ ตํ สมาจิตมฺ
โหตุ สพฺพญฺญุตญาณปติเวธา (35) ย ปจฺจโย //
|
ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าผู้กำลังกระทำอยู่ได้สะสมไว้แล้วนี้ จงเป็นปัจจัย เพื่อการตรัสรู้ สัพพัญญุตญาณ
|
36. သိနော ဒိန္နာ ဂုဟာယ သောဝဏ္ဏပတိမာယ မဟေသိ
37. နော။ ပုတ္တော မေ ပါ ပပုတ္တောဝါ အညော ဝါ ပန ညာ
|
36. -sino dinnā guhāya sovaṇṇapatimāya mahesi
37. no. Putto me va paputto va añño va panañña
|
ยตฺตกา ตุ มยา ทาสา คามตฺตฺยนิวา (36) สิโน
ทินฺนา คุหาย โสวณฺณปติมาย มเหสิ (37) โน //
|
บรรดาทาสและผู้คนในสามหมู่บ้านมีจำนวนเท่าใด ที่ข้าพเจ้าได้ถวายแล้วแก่พระคูหาและแก่พระพุทธรูปทองคำ
|
38. တကော ယော ကောစိ ပါပ သံကပ္ပေါ နရော အဿဒ္ဓ
39. မာနသော။ ကရေယျုပဒ္ဒုဝံ တေသံ ဒါသာနံ သော နရာဓမော
|
38. tako yo koci pāpa samkappo naro assaddha
39. mānāso. Kareyyupadduvam tesam dāsānam si naramamo
|
ปุตฺโต เม วา ปปุตฺโต วา อญฺโญ วา ปน
ญา (38) ตโก
โย โกจิ ปาปสํกปฺโป นโร อสฺสทฺธ (39) มานโส //
|
บุตรหรือหลานหรือญาติคนอื่น ๆ ใครก็ตามที่มีความคิดชั่วช้า ไม่มีจิตใจศรัทธา
|
40. မေတ္တေယျ (မိတ္တိယျ) ဒိပဒိန္ဒဿ ဒဿနံ နာထိဂစ္ဆတူ
41. တိ။
|
40. Metteya dipadindassa dassanam nāthigacchatū
41. ti
|
กาเรยฺยุปทฺทุวํ เตสํ ทาสานํ โส นราธโม
(40) เมตฺเตยฺยธิปทินฺทสฺส ทสฺสนํ นาถิคจฺฉตู
(41) ติ //0 //
|
คนผู้มืดบอด หากทำให้เกิดอุปัทวันตรายแก่ทาสทั้งหลายเหล่านั้น ขอคนนั้นจงอย่าได้เห็นพระ (ศรีอาริย) เมตไตรเลย
|