คิม กู

คิม กู
คิมใน ค.ศ. 1949
หัวหน้ารัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐเกาหลี
ดำรงตำแหน่ง
14 ธันวาคม ค.ศ. 1926 – สิงหาคม ค.ศ. 1927
รองประธานาธิบดีคิม คิว-ซิค
ก่อนหน้าฮง จิน
ถัดไปอี ดอง-นย็อง
ดำรงตำแหน่ง
มีนาคม ค.ศ. 1940 – มีนาคม ค.ศ. 1947
ก่อนหน้าอี ดอง-นย็อง
ถัดไปอี ซึง-มัน
(หัวหน้ารัฐบาลชั่วคราว)
นายกรัฐมนตรีรัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐเกาหลี
ดำรงตำแหน่ง
ตุลาคม ค.ศ. 1930 – ตุลาคม ค.ศ. 1933
ก่อนหน้าRoh Baek-lin
ถัดไปYang Gi-tak
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด29 สิงหาคม ค.ศ. 1876(1876-08-29)
หมู่บ้าน T'otkol, Paegunbang แฮจู จังหวัดฮวังแฮ โชซ็อน
เสียชีวิต26 มิถุนายน ค.ศ. 1949(1949-06-26) (72 ปี)
Gyeonggyojang เขตชงโน โซล ประเทศเกาหลีใต้
ลักษณะการเสียชีวิตถูกลอบสังหารด้วยปืน
ที่ไว้ศพสวนฮโยชัง เขตยงซัน โซล ประเทศเกาหลีใต้
เชื้อชาติเกาหลี
พรรคการเมืองพรรคอิสรภาพเกาหลี
บุตร
ศาสนานิกายเมธอดิสต์
อดีตลัทธิช็อนโด, พุทธ
ชื่อเกาหลี
ฮันกึล
김구
ฮันจา
อาร์อาร์Gim Gu
เอ็มอาร์Kim Ku
IPA[kim.ɡu]
นามปากกา
ฮันกึล
백범
ฮันจา
อาร์อาร์Baekbeom
เอ็มอาร์Paekpŏm
IPA[pɛk.p͈ʌm]
ชื่อเกิด
ฮันกึล
김창암
ฮันจา
อาร์อาร์Gim Chang(-)am
เอ็มอาร์Kim Ch'angam
ชื่อสุภาพ
ฮันกึล
연하
ฮันจา
อาร์อาร์Yeonha
เอ็มอาร์Yŏnha

คิม กู (เกาหลี김구; 29 สิงหาคม ค.ศ. 1876 — 26 มิถุนายน ค.ศ. 1949) หรือที่รู้จักกันในนามปากกา แพ็กบ็อม (백범) เป็นนักการเมืองชาวเกาหลี เขาเป็นผู้นำขบวนการเรียกร้องเอกราชเกาหลีต่อจักรวรรดิญี่ปุ่น หัวหน้ารัฐบาลชั่วคราวเกาหลีในหลายสมัย และนักเคลื่อนไหวต่อการรวมชาติเกาหลีหลัง ค.ศ. 1945 คิมได้รับการเชิดชูในเกาหลีใต้ โดยได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี

คิมเกิดในครอบครัวชาวนายากจนในสมัยโชซ็อน ในช่วงศตวรรษสุดท้ายของโชซ็อนประสบกับการกบฏของชาวนาหลายครั้งและการแทรกแซงจากมหาอำนาจระดับโลกหลายประเทศ เช่น จักรวรรดิญี่ปุ่น จักรวรรดิรัสเซีย จีนสมัยราชวงศ์ชิง และสหรัฐ คิมต่อสู้เพื่อเอกราชของเกาหลีมาเกือบทั้งชีวิต และถูกเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นจำคุก ทรมาน และทำให้เสียโฉมถาวรเนื่องจากกิจกรรมของเขา เขาใช้เวลาลี้ภัยในจีน 26 ปี โดยดำรงตำแหน่งในรัฐบาลชั่วคราวหลายตำแหน่งและร่วมมือกับสาธารณรัฐจีน ในช่วงนี้ เขาก่อตั้งและเป็นผู้นำองค์กรรักชาติเกาหลีและกองทัพปลดปล่อยเกาหลี เขาเป็นเป้าหมายของความพยายามลอบสังหารหลายครั้ง และยังวางแผนการลอบสังหารด้วยตัวเองหลายครั้งด้วย เช่น ความพยายามลอบปลงพระชนม์จักรพรรดิฮิโรฮิโตะของญี่ปุ่น หลังการยอมจำนนของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สอง คิมเดินทางกลับคาบสมุทรพร้อมกับรัฐบาลชั่วคราวและพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแบ่งแยกเกาหลี

แต่ทว่าใน ค.ศ. 1949 หลังเดินทางกลับบ้านเป็นเวลา 4 ปี และก่อนหน้าสงครามเกาหลีใน ค.ศ. 1950 คิมถูกลอบสังหารจาก Ahn Doo-hee ร้อยโทชาวเกาหลี

แม้ว่าในเกาหลีใต้ยุคใหม่ ผู้คนต่างยกย่องคิมเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังถูกวิจารณ์อยู่เช่นกัน ใน ค.ศ. 1896 คิมสังหารชาวญี่ปุ่นที่เขาเชื่อว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับทหารญี่ปุ่นหรือแม้แต่การลอบปลงพระชนม์จักรพรรดินีมย็องซ็องที่เกิดขึ้นไม่นาน ชายคนนี้โดยทั่วไปยอมรับว่าเป็นสึจิดะ โจซูเกะ พ่อค้าพลเรือนที่เดินทางมาทำธุรกิจ[1][2] คิมก็มีส่วนในการประสานการโจมตีทหารญี่ปุ่นและบุคลากรของรัฐบาลอาณานิคม มรดกของเขาไม่ค่อยได้รับการเฉลิมฉลองมากนักในเกาหลีเหนือ เนื่องจากมุมมองต่อต้านคอมมิวนิสต์ของเขา

ชีวิตช่วงต้น

คิมเกิดในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 1876 ด้วยชื่อเกิดว่า Kim Ch'ang-am[a] ในหมู่บ้าน T'otkol, Paegunbang[b] นครแฮจู จังหวัดฮวังแฮ โชซ็อน[3][4][5] เขาเป็นบุตรคนเดียวของชาวนาสองคน คือ: Kwak Nak-won มารดา และ Kim Sun-yŏng บิดา[6][5][c]

ครอบครัวของคิมมีฐานะยากจน ได้รับการศึกษาในระดับต่ำ และถูกสังคมดูหมิ่น[6][4][7] พ่อของเขาเคยอยู่ในอดีตยังบัน (ชนชั้นสูง) ตระกูลคิมแห่งอันดง อย่างไรก็ตาม ตระกูลของเขาสูญเสียสถานะอันสูงส่งใน ค.ศ. 1651 เมื่อคิม จา-จ็อมสูญเสียสถานภาพนี้[6][7] ลูกหลานสายตรงของจา-จ็อมกลายเป็นทาส และสมาชิกตระกูลอันดงที่เหลือกลายเป็นสามัญชน[6][5]

ตอนอายุสองขวบ คิมติดโรคฝีดาษที่ทิ้งรอยแผลบนใบหน้า[3]

ครอบครัวให้ความสำคัญกับการศึกษาของเขามาก เพื่อให้เขาหลุดพ้นจากความยากจน เมื่อเขาอายุได้ประมาณ 9 ขวบ พ่อแม่พาเขาไปที่ซอดัง (โรงเรียน) ท้องที่ เพื่อเตรียมตัวสู่ควากอ การสอบราชการที่เข้มงวดเพื่อกำหนดตำแหน่งงานทางปัญญาของรัฐบาล[3] อย่างไรก็ตาม โรงเรียนไม่รับเขาเนื่องจากเป็นชนชั้นล่าง ในที่สุด เขาจึงเริ่มการศึกษาเมื่ออายุ 12 ขวบกับครูสอนพิเศษที่เต็มใจจะสอนเขา[8]

ใน ค.ศ. 1892 คิมตอนอายุ 16 เข้าสอบควากอแต่ไม่ผ่าน[d] มีรายงานว่าเขาได้เห็นและรู้สึกหงุดหงิดกับการที่ผู้สมัครชนชั้นนำใช้กลโกงและติดสินบน เขาหยุดเรียนที่ซอดังและใช้เวลาศึกษาตำราปรัชญาและการทหารด้วยตนเองและครุ่นคิดถึงชีวิตของตนเป็นเวลา 3 เดือน[3][8][5]

กิจกรรมก่อนการครอบครองของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1893–1905)

เสียชีวิต

ห้องที่คิมถูกลอบสังหาร โดย อัน ยืนบนบริเวณที่ตั้งรอยเท้า และคิมนั่งที่โต๊ะเล็ก[9] (2009)
เสือที่คิมสวมตอนเสียชีวิต ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ [ko] (2011)

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1949 คิมถูกลอบสังหารขณะอ่านกวีในห้องทำงานของเขาตอนเย็นโดยร้อยโท อัน ดู-ฮี ที่บุกเข้าไปและยิงใส่เขาสี่ครั้ง

ปีถัดมาใน ค.ศ. 1996 อัน ถูกฆาตกรรมโดย พัก กี-ซอ (박기서; 朴琦緖) คนขับรถบัสและผู้ชื่นชมคิม กู อาวุธที่ใช้ในการฆาตกรรมคือแท่งไม้ยาว 40 ซม. ที่มีประโยค "ไม้เท้าแห่งความยุติธรรม" (정의봉; 正義棒) และ "การรวมประเทศ" (통일; 統一) บนนั้น[10] ใน ค.ศ. 2018 พัก ในวัย 70 ปีบริจาคแท่งไม้นี้ที่เปื้อนเลือดของ อัน บ้างเล็กน้อยให้แก่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์อาณานิคมญี่ปุ่นในเกาหลี[11]

เหตุจูงใจ

สิ่งสืบทอดและเกียรติยศ

อนุทินคิม กู

อนุทินคิม กู อัตชีวประวัติของเขา เป็นข้อมูลสำคัญในการศึกษาขบวนการเรียกร้องเอกราชเกาหลี ทางรัฐบาลเกาหลีให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมลำดับที่ 1245 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 1997[12]

เกียรติยศและรางวัล

ถนน Baekbeom-ro [ko] ที่โซลและสวนจัตุรัสแพ็กบ็อม [ko] บนยอดเขานัมซานตั้งชื่อตามเขา[13][14]

ใน ค.ศ. 1962 ทางสาธารณรัฐเกาหลีให้เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณสำหรับการสร้างชาติ เครื่องอิสริยาภรณ์อันทรงเกียรติที่สุดในเกาหลีใต้ให้แก่คิมหลังเสียชีวิต และในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1990 ทางเกาหลีเหนือให้รางวัลการรวมประเทศแห่งชาติแก่คิมหลังเสียชีวิต[15]

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2002 มีการเปิดบริการพิพิธภัณฑ์คิม กูที่โซล[16] รัฐบาลเกาหลีใต้ถืพิจารณาให้วัตถุหลายชิ้นที่เกี่ยวข้องกับคิม กูเป็นวัตถุอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ได้แก่ธงชาติเกาหลีใต้ที่มีลายมือของคิม กูบนนั้น [ko][17] เสื้ออาบเลือดที่คิมสวมตอนถูกลอบสังหาร[18] และอักษรวิจิตรที่คิม กูเขียนขึ้น[19]

ความเห็นสาธารณะ

ในเกาหลีใต้ คิมได้รับการยกย่องอย่างต่อเนื่องว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี ในผลสำรวจของ Korea Research เมื่อ ค.ศ. 2008 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 44 ยกย่องคิม กูเป็นผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีใต้ มากกว่าประธานาธิบดีคนแรก อี ซึง-มัน[20]

ใน ค.ศ. 2007 มีการสำรวจความคิดเห็นระดับชาติเกี่ยวกับบุคคลที่ควรได้รับการบรรจุลงในธนบัตร 100,000 วอนที่จะตีพิมพ์ใน ค.ศ. 2009 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับวันครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งเกาหลีใต้ จากนั้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 ธนาคารแห่งประเทศเกาหลีประกาศว่า ผู้ที่ชนะผลโหวตนี้คือคิม[21][22][23] อย่างไรก็ตาม ธนบัตรฉบับใหม่นี้กลับเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด (ณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023)

การกำหนดเป็นผู้ก่อการร้าย

ชีวิตส่วนตัว

ป้ายสุสานของ Ch'oe Chun-rye ภรรยาคิม ตามเข็มนาฬิกาจากบนซ้ายคือ คิม กู (อายุ 49 ปี), Kwak Nak-wŏn แม่ของคิม กู (66 ปี) อิน ลูกชายคนโต (5 ขวบ) และชิน ลูกชายคนสุดท้าย (2 ขวบ) (ถ่ายใน ค.ศ. 1924)

คิมแต่งงานกับ Ch'oe Chun-rye (최준례; 崔遵禮; 19 มีนาคม ค.ศ. 1889 – 1 มกราคม ค.ศ. 1924) จนกระทั่งเธอเสียชีวิตที่เซี่ยงไฮ้ตอนอายุ 34 ปี ในตอนแรกเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการพลัดตก และเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม ศพของเธอฝังที่เขตปกครองเดิมของฝรั่งเศสในเซี่ยงไฮ้ในขณะนั้น[24][3]

ลูก

คิมมีลูก 5 คน แบ่งเป็นบุตรี 3 คนและบุตร 2 คน เฉพาะบุตรเท่านั้นที่มีชีวิตรอดในวัยเด็ก มี-ซัง (김미상) บุตรีคนแรกมีชีวิตในช่วง ค.ศ. 1906 ถึง 1907 ฮวา-กย็อง (김화경; 金化慶) บุตรีคนที่สอง มีชีวิตในช่วง ค.ศ. 1910 ถึง 1915 และ Ŭn-kyŏng (김은경; 金恩慶) บุตรีคนที่สาม มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. 1916 ถึง 1917

คิม อิน [ko] (1917–1945) ลี้ภัยพร้อมกับพ่อที่เซี่ยงไฮ้ตอนอายุ 3 ขวบใน ค.ศ. 1920 เขาเดินทางกลับเกาหลีใน ค.ศ. 1927 แล้วกลับไปจีนใหม่ใน ค.ศ. 1934 หลังจากนั้นจึงมีบทบาทในกองทัพรัฐบาลชั่วคราวเพียงเล็กน้อยหลายตำแหน่ง ใน ค.ศ. 1940 เขาแต่งงานกับ Susanna Ahn [ko] หลานสาวของอัน จุง-กึน ทั้งคู่มีบุตรีคนเดียวชื่อ Kim Hyo-ja (김효자; 金孝子) เกิดใน ค.ศ. 1945 และยังคงมีชีวิตอยู่ข้อมูลเมื่อ 2022[25] เขาเสียชีวิตตอนอายุ 27 ปีใน ค.ศ. 1945 จากวัณโรคที่เฉิงตู สาธารณรัฐจีน[26][27][25]

คิม ชิน (1922–2016) ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารอากาศเกาหลี และบทบาททางการเมืองหลายตำแหน่ง หลังเกษียณจากการเมือง เขาบริหารจัดการมูลนิธิต่าง ๆ ของครอบครัว โดยเสียชีวิตตอนอายุ 93 ปี[28][29]

พงศาวลี

ตระกูลคิม กู[30][25][29]
Kim Sun-yŏng [ko]
김순영; 金淳永
1852–1901
Kwak Nak-wŏn
곽낙원; 郭樂園
1859–1939
Ch'oe Chun-rye
최준례; 崔遵禮
1889–1924
คิม กู
김구; 金九
1876–1949
จู อ้ายเป่า
朱愛寶; 주애보
?–?
คิม มี-ซัง
김미상;
1906–1907
คิม ฮวา-กย็อง
김화경; 金化慶
1910–1915
Kim Ŭn-kyŏng
김은경; 金恩慶
1916–1917
คิม อิน [ko]
김인; 金仁
1917–1945
An Mi-saeng [ko]
안미생; 安美生
1914–2007
คิม ชิน
김신; 金信
1922–2016
อิม ยุน-ย็อน
임윤연; 林胤嬿
1929–1971
Kim Hyo-ja
김효자; 金孝子
1941–
คิม จิน [ko]
김진; 金振
1949–
คิม ยัง [ko]
김양; 金揚
1953–
Kim Hwi
김휘; 金揮
1955–
คิม มี
김미; 金美
คิม ยุน
김윤
หมายเหตุ
  • เส้นประแทนการแต่งงาน
    • เส้นจุดสำหรับคิม กูแทนการแต่งงานโดยพฤตินัย
  • เส้นทึบแทนลูกหลาน
  • สีเหลืองคือคิม กู, สีชมพูสำหรับเพศหญิง, สีฟ้าสำหรับเพศชาย

บรรณานุกรม

  • อนุทินคิม กู (백범일지; 白凡逸志)[31]
  • Dowaesilgi (도왜실기; 屠倭實記)

หมายเหตุ

  1. เกาหลี김창암; ฮันจา金昌巖; [kimtɕʰaŋam]
  2. 텃골; 基洞, 백운방; 白雲坊
  3. ชื่อพ่อ (김순영; 金淳永) การคลอดบุตรของคิมถือเป็นช่วงที่ยากลำบาก เนื่องจากแม่ของเขาต้องใช้เวลาในการคลอดบุตรจนกระทั่งเขาคลอดออกมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ครอบครัวจึงทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ต่าง ๆ เพื่อให้การคลอดบุตรเป็นไปอย่างราบรื่น[6]
  4. คิมเข้าสอบในการจัดสอบครั้งสุดท้ายในภูมิภาคก่อนที่จะถูกยุบเลิกตามการปฏิรูปกาโบใน ค.ศ. 1894[8]

อ้างอิง

  1. Kim, Robert S. (2017), pp. 31–33.
  2. "치하포사건 (鵄河浦事件)" [The Chihapo Incident], Encyclopedia of Korean Culture (ภาษาเกาหลี), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 31, 2023, สืบค้นเมื่อ March 31, 2023
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 3.4 백범김구 연보 [Baekbeom Kim Koo Timeline] (ภาษาเกาหลี), 백범김구선생 기념사업협회 [The Association of Commemorative Services for Patriot Kim Koo], คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 28, 2012, สืบค้นเมื่อ February 20, 2023
  4. 4.0 4.1 Kim, Robert S. (2017), pp. 29–30.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 "김구[金九]" [Kim Ku], Historynet (ภาษาเกาหลี), National Institute of Korean History, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 25, 2023, สืบค้นเมื่อ June 24, 2023
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 Son 1 (2003).
  7. 7.0 7.1 Kim & Kim (2011), p. 109.
  8. 8.0 8.1 8.2 Kim, Robert S. (2017), p. 30.
  9. "경교장 내부" [Inside Gyeonggyojang]. museum.seoul.go.kr. 2009. สืบค้นเมื่อ August 16, 2023.
  10. Park, Jeong-gyu (October 24, 1996), "白凡(백범)암살범 安斗熙(안두희)씨 피살", The Dong-A Ilbo, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 22, 2023, สืบค้นเมื่อ February 22, 2023
  11. Kim, Seong-gwang (October 24, 2018), "[포토] 이것이 안두희 처단한 '정의봉'이오" [[Photo] This is the 'Stick of Justice' That Struck Down Ahn Du-hee], The Hankyoreh (ภาษาเกาหลี), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 22, 2023, สืบค้นเมื่อ February 22, 2023
  12. "Baekbeom ilji (Diary of Kim Gu), Volumes 1 (1929) and 2 (1943) - Heritage Search", Cultural Heritage Administration (ภาษาอังกฤษ), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 22, 2023, สืบค้นเมื่อ February 22, 2023
  13. "길을 걷고 역사를 걷고" [Walk Roads Walk History]. JoongAng Ilbo (ภาษาเกาหลี). October 5, 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 8, 2023. สืบค้นเมื่อ July 8, 2023.
  14. "Baekbeom Square Park". english.visitseoul.net (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ August 16, 2023.
  15. "National Reunification Prize Winners", Korean Central News Agency, May 7, 1998, คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 2, 2013, สืบค้นเมื่อ September 13, 2012
  16. "Kim Koo Museum & Library (백범김구기념관)", Korea Official Tourism Organization, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2023, สืบค้นเมื่อ June 26, 2023
  17. "Taegeukgi with Kim Gu's Writings and Signature", Cultural Heritage Administration (ภาษาอังกฤษ), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2023, สืบค้นเมื่อ June 26, 2023
  18. "Blooded Clothes Worn by Kim Gu", Cultural Heritage Administration (ภาษาอังกฤษ), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2023, สืบค้นเมื่อ June 26, 2023
  19. "Calligraphy by Kim Gu", Cultural Heritage Administration (ภาษาอังกฤษ), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 26, 2023, สืบค้นเมื่อ June 26, 2023
  20. Do, Je-hae (October 11, 2009), "Conservative Groups Downgrade Kim Gu", The Korea Times (ภาษาอังกฤษ), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 22, 2023, สืบค้นเมื่อ June 14, 2023
  21. Kim, Sang-min (August 7, 2007), "네티즌이 꼽은 고액권 초상인물 후보 1위는?" [Who Did Netizens Say Was Their No. 1 Pick for the Portrait on High Denomination Bills?], Chosun Business (ภาษาเกาหลี), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 23, 2023, สืบค้นเมื่อ June 23, 2023
  22. "고액권 인물 10만원 김구, 5만원 신사임당 선정". The Hankyoreh (ภาษาเกาหลี). November 5, 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 23, 2023. สืบค้นเมื่อ June 23, 2023.
  23. Kim & Kim (2011), p. 108.
  24. Kim, Robert S. (2017), pp. 38–39.
  25. 25.0 25.1 25.2 Kim, Chang-hui (February 7, 2022). "안중근 조카·女독립운동가, 안미생 흔적 75년 만에 찾았다" ["Ahn Jung-geun's Nephew Independence Activist Found An Mi-saeng After 75 Years"]. Pressian (ภาษาเกาหลี). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 29, 2023. สืบค้นเมื่อ March 29, 2023.
  26. Son 61 (2007).
  27. Son 70 (2008).
  28. Kim, Su-jeong (June 30, 2011), "김구 선생 후손 '4대째 나라사랑'...외증손자 김동만 공군 소위 임관" [Descendents of Kim Ku 'Four Generations of Patriotism'...Great Grandson Kim Dong-man Becomes Second Lieutenant in the Air Force], JoongAng Ilbo (ภาษาเกาหลี), เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ June 23, 2023, สืบค้นเมื่อ June 23, 2023
  29. 29.0 29.1 채, 인택 (2022-12-10). "백범 김구 집안이 화교 제일 부호와 사돈 맺은 사연". Sisa Journal (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ 2024-05-28.
  30. "37살의 나이 차, 백범과 중국 여인의 '특별한 동거'" [An Age Gap of 37 Years, Baekbeom's 'Special Relationship' With a Chinese Woman], ㅍㅍㅅㅅ (ภาษาเกาหลี), June 23, 2015, เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 24, 2023, สืบค้นเมื่อ February 24, 2023
  31. Kim Koo. 백범일지  (ภาษาเกาหลี) – โดยทาง Wikisource.

ข้อมูล

ภาษาอังกฤษ

ภาษาเกาหลี

แหล่งข้อมูลอื่น

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!