การแสดงช่วงพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 57

การแสดงช่วงพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 57
ส่วนของซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 57
วันที่แสดง12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023
สถานที่เกล็นเดล รัฐแอริโซนา สหรัฐ
สนามสเตดฟาร์มสเตเดียม
ศิลปินหลักรีแอนนา
ผู้สนับสนุนแอปเปิลมิวสิก
รายชื่อของ การแสดงช่วงพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์
ครั้งที่ 56
(2022) 		ครั้งที่ 57
(2023) 		ครั้งที่ 58
(2024)

การแสดงช่วงพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 57 (อังกฤษ: Super Bowl LVII halftime show) หรือที่เรียกอย่างเป็นทางการว่า แอปเปิลมิวสิกซูเปอร์โบวล์ฟิฟตีเซเวนฮาฟไทม์โชว์ (อังกฤษ: Apple Music Super Bowl LVII Halftime Show) จัดขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 ที่สเตดฟาร์มสเตเดียม ในเกล็นเดล รัฐแอริโซนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 57 มีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศในสหรัฐอเมริกา ผ่านทางช่องฟ็อกซ์ ฟ็อกซ์เดปอร์เตส ฟ็อกซ์สปอร์ต และผ่านทางแอปเนชันแนลฟุตบอลลีก และเป็นการแสดงช่วงพักครึ่งซูเปอร์โบวล์ครั้งแรกที่ได้รับการสนับสนุนจากแอปเปิลมิวสิก โดยมีนักร้องชาวบาร์เบโดส รีแอนนา เป็นศิลปินหลักในการแสดง[1][2]

การตอบรับ

คริส ริชาร์ด จากเดอะวอชิงตันโพสต์ เชื่อว่ารีแอนนา "ทำให้รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเธอนั้นดูง่าย"[3] โดยให้คะแนนเต็ม 5 ดาว มาร์ค โบมอนต์ จากดิอินดีเพ็นเดนต์ เรียกงานนี้ว่า "การคำรามแห่งความสำเร็จ"[4] เจสัน แลมเฟียร์ จากเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี เรียกว่า "ผลตอบแทนเดิมพันต่ำ" สำหรับรีแอนนา โดยนำเสนอ "ความเรียบ เก๋ไก๋ การสำรวจที่เป็นประโยชน์จากข้อเสนอที่ดีที่สุดของเพลงป็อปในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา"[5] โคลแมน สปิลเด จากเดอะเดลีบีตส์ แย้งว่า "การแสดงของรีแอนนาอาจไม่ได้น่าตื่นตาในระดับเดียวกับศิลปินเพื่อน ๆ ของเธอ แต่มันคือรีแอนนาอย่างชัดเจน เธอปล่อยให้โลกหมุนรอบตัวเธอ อวดพลัง และมีอิทธิพลหลายสิบปีราวกับว่าเธอแค่กำลังตอกบัตรเข้างาน"[6] ร็อบ เชฟฟีลด์ จากโรลลิงสโตน เน้นย้ำถึงเสน่ห์ของรีแอนนาเป็นเหตุผลว่าทำไมการแสดงจึงดำเนินไปได้ด้วยดีโดยไม่มีแขกรับเชิญหรือเซอร์ไพรส์อะไร อย่างไรก็ตามเขาสังเกตว่า เพลงของคานเย เวสต์ สองเพลงติดต่อกันอย่าง "All of the Lights" และ "Run This Town" เป็นอะไรที่ดู "แปลกมาก"[7]

จอร์จ วาร์กา จากเดอะซานดีเอโกยูเนียนทริบิว แสดงความคิดเห็นว่าการแสดงนี้เป็น "ชัยชนะของการออกแบบท่าเต้น" มากกว่าดนตรี โดยเสริมว่า "รีแอนนายัดเยียดเพลงมากมาย - ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของเพลง - ชุดของเธอใส่มีเพียงไม่กี่คนที่จะมีโอกาสได้หายใจ นับประสาอะไรกับแรงฉุดและบิน"[8] ที่เอ็นเจ.คอม บ็อบบี โอลิเวียร์วิพากษ์วิจารณ์ตัวเลือกเซ็ตลิสต์บางรายการและรู้สึกว่ารีแอนนาขาดฝีมือการแสดง และให้ความเห็นว่า "การแสดงช่วงพักครึ่งนี้จะจบลงในฐานะหนึ่งในการแสดงที่เลวร้ายที่สุดในความทรงจำล่าสุด"[9] ดิแอธเลติก จัดอันดับให้เป็นการแสดงช่วงพักครึ่งที่ดีที่สุดเป็นอันดับสาม[10] ในขณะที่โรลลิงสโตนอยู่ในอันดับที่แปด[11]

ผลเชิงพาณิชย์

การแสดงของรีแอนนา มีผู้ชมทั้งหมด 118.7 ล้านคนทั้งทางโทรทัศน์และแพลตฟอร์มดิจิทัล แซงหน้าการแสดงช่วงพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์ของเลดีกากา (2017) กลายเป็นการแสดงช่วงพักครึ่งที่มีผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์รองจากการแสดงช่วงพักครึ่งในซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 49 ของเคที เพร์รี[12]

หลังจากการแสดงของรีแอนนา บิลบอร์ดรายงานว่าแคตตาล็อกเพลงของเธอได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดดถึง 140% จากบริการสตรีมแบบออนดีมานด์ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ เพลงของเธอได้รับการสตรีมอย่างเป็นทางการ 62.2 ล้านครั้งในประเทศ ในด้านการขาย ยอดการดาวน์โหลดได้ 42,000 ดาวน์โหลดในสหรัฐอเมริกาในช่วงสองวันนั้น เพลง "Umbrella" และ "Diamonds" เป็นเพลงที่มีการสตรีมมากที่สุดของรีแอนนาหลังการแสดง โดยมี 3.8 ล้านและ 3.2 ล้านสตรีมในช่วงวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ ตามลำดับ[13]

รายการเพลง

  1. "Bitch Better Have My Money" (มีองค์ประกอบของเพลง "Phresh Out the Runway")
  2. "Where Have You Been" / "Only Girl (In the World)" (มีองค์ประกอบของเพลง "Cockiness (Love It)")
  3. "We Found Love" (มีองค์ประกอบของเพลง "S&M")
  4. "Rude Boy" (DJ Klean remix; มีองค์ประกอบของเพลง "Kiss It Better")
  5. "Work"
  6. "Wild Thoughts"
  7. "Pour It Up" (มีองค์ประกอบของเพลง "Birthday Cake", "Numb", and "Pose")
  8. "All of the Lights"
  9. "Run This Town"
  10. "Umbrella"
  11. "Diamonds"

เซ็ตลิสต์ดัดแปลงมาจากทูเดย์[14]

อ้างอิง

  1. ↑ "Ready for Rihanna? Here's what to know about her 2023 Super Bowl halftime show". Los Angeles Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-02-10. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-02-12.
  2. ↑ Masley, Ed. "Rihanna dishes on Super Bowl halftime show: 'If it flops or flies, my name has to stand by that'". USA Today (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 12, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-02-12.
  3. ↑ Richards, Chris (2023-02-12). "Rihanna won big at the Super Bowl — and without losing her mystique". The Washington Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0190-8286. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-02-13.
  4. ↑ Beaumont, Mark (February 13, 2023). "Super Bowl halftime show review: Rihanna delivered a mash-up of her greatest hits – and a surprise guest". The Independent. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  5. ↑ Lamphier, Jason (February 13, 2023). "Super Bowl 2023 halftime show review: Rihanna makes a slick, elevated, low-stakes return". Entertainment Weekly. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  6. ↑ Spilde, Coleman (February 13, 2023). "Pregnant Rihanna's Halftime Show Reminded Us Why We Need Her So Badly". The Daily Beast. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  7. ↑ Sheffield, Rob (February 13, 2023). "Rihanna's DGAF Energy Was Off the Charts at Her Super Bowl Halftime Show". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  8. ↑ Varga, George (2023-02-13). "Review: Rihanna fumbled her Super Bowl halftime show, rushing through snippets of 13 songs in 13 minutes". The San Diego Union-Tribune. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-02-13.
  9. ↑ Olivier, Bobby (February 13, 2023). "Super Bowl 2023 halftime show review: Rihanna, please stop the music". NJ.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  10. ↑ Walker, Rhiannon. "Super Bowl halftime shows ranked: How Rihanna's performance compares to Beyoncé and Prince". The Athletic. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 13, 2023.
  11. ↑ Sheffield, Rob (February 13, 2023). "Every Super Bowl Halftime Show, Ranked From Worst to Best". Rolling Stone. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  12. ↑ Reedy, Joe (February 13, 2023). "This year's Super Bowl was the third-most watched in history—and Rihanna's stunning halftime show did even better". Fortune. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 14, 2023. สืบค้นเมื่อ February 14, 2023.
  13. ↑ Caulfield, Keith (February 15, 2023). "Rihanna's Super Bowl Halftime Show Spurs 140% Streaming Gain for Her Catalog". Billboard. สืบค้นเมื่อ February 16, 2023.
  14. ↑ Nicolaou, Elena (2023-02-12). "Every song in Rihanna's Super Bowl Halftime show setlist". TODAY (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 13, 2023. สืบค้นเมื่อ 2023-02-13.

Strategi Solo vs Squad di Free Fire: Cara Menang Mudah!