การปะทุของกริมสวอทน์ พ.ศ. 2554 เป็นการปะทุของภูเขาไฟกริมสวอทน์ ภูเขาไฟที่มีพลังมากที่สุดของไอซ์แลนด์ ซึ่งทำให้เกิดการขัดขวางการเดินทางทางอากาศอย่างกว้างขวางทั่วทวีปยุโรปในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 การปะทุครั้งล่าสุดของกริมสวอทน์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547[1] และการปะทุในอดีตครั้งรุนแรงที่สุดเคยเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2416[2]
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เกิดการปะทุขนาดเล็กขึ้น และในวันเดียวกัน การปะทุได้ทำลายน้ำแข็งซึ่งปกคลุมธารน้ำแข็ง ก่อนจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยพ่นเถ้าภูเขาไฟขึ้นไปสูงถึง 20 กิโลเมตรในอากาศ[3] นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กตามมาหลายครั้งขณะที่เกิดการปะทุขึ้น[4]
เมื่อถึงวันที่ 22 พฤษภาคม เถ้าภูเขาไฟเริ่มแพร่กระจายไปถึงสกอตแลนด์และทางเหนือของแคว้นอังกฤษ ซึ่งส่งผลทำให้ต้องปิดน่านฟ้า และเกิดความขัดข้องในการเดินทางทางอากาศครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่การปะทุของเอยาฟยาตลาเยอคุตล์เมื่อปีที่แล้ว ไอซ์แลนด์ยังได้ปิดท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก ซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักของไอซ์แลนด์ โดยเที่ยวบินโดยสารภายในประเทศถูกยกเลิกเช่นเดียวกัน[5] เที่ยวบินโดยสารข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกยังได้ประสบกับความล่าช้า และยังมีความเป็นไปได้ว่าการขัดข้องในการเดินทางทางอากาศอาจทำให้การเดินทางเยือนไอร์แลนด์ของประธานาธิบดีสหรัฐ บารัก โอบามา ต้องถูกยกเลิกไป[6]
ส่วนประกอบของเถ้าภูเขาไฟจากกริมสวอทน์มีปริมาณซิลิกาต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับเถ้าภูเขาไฟจากเอยาฟยาตลาเยอคุตล์เมื่อปีที่แล้ว (50% เทียบกับ 63%) ซึ่งหมายความว่า การปะทุเมื่อปีที่แล้วมีความเหนียวกว่า เถ้าที่ถูกปลดปล่อยจากกริมสวอทน์มีความหยาบมากกว่าอนุภาคที่เล็กกว่าและถูกกัดกร่อนมากกว่าที่ถูกปลดปล่อยมาจากการปะทุของเอยาฟยาตลาเยอคุตล์[7]
เมื่อถึงวันที่ 23 พฤษภาคม ทางการเดนมาร์กประกาศปิดน่านฟ้าที่มีความสูงต่ำกว่า 6.4 กิโลเมตรในส่วนตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีบางเที่ยวบินล่าช้าหรือถูกยกเลิกไปที่โคเปนเฮเกน[8]
อ้างอิง